17 พฤษภาคม 2561 นายสมเกียรติ พันธรรม รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ประธานพิธีเปิดการประชุมสัมมนาเพื่อเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบกิจการร้านวีดิทัศน์ เรื่อง “แนวทางในการประกอบกิจการร้านวีดิทัศน์ตามพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 กล่าวว่า กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ตระหนักและให้ความสำคัญกับการส่งเสริมผู้ประกอบกิจการร้านวีดิทัศน์ทุกประเภท ให้ประกอบธุรกิจอยู่ในกรอบของกฎหมายและจริยธรรม ที่จะช่วยสนับสนุนและส่งเสริมให้เด็กและเยาวชน เจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ ไม่ส่งผลเสียต่อการศึกษา ลดปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรม รวมทั้งไม่ตกอยู่ในภาวะติดเกมหรือลอกเลียนแบบพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์จากการเล่นเกมที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม และเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ประกอบการ ในการหาข้อยุติ ข้อสรุป ความพึงพอใจและหลักการที่ตรงกัน และดีที่สุดสำหรับสังคมไทยเพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองเด็กและเยาวชนของชาติ
ด้าน นางสาวสดใส จำเนียรกุล ผู้อำนวยการสำนักพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ เปิดเผยว่า การประชุม สัมมนาเพื่อเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบกิจการร้านวีดิทัศน์ ที่จัดขึ้น มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในภารกิจของสำนักพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ที่เป็นหน่วยงานกำกับดูแลให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 และอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในเงื่อนไขการประกอบกิจการร้านวีดิทัศน์ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และให้สถานประกอบกิจการร้านวีดิทัศน์ตระหนักถึงโทษหากมีการฝ่าฝืน หรือกระทำผิดที่กำหนดไว้ รวมทั้งเสริมสร้างให้สถานประกอบกิจการร้านวีดิทัศน์ตระหนักถึงการเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสังคมร่วมกัน
สถานประกอบกิจการร้านวีดิทัศน์ที่เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้แทนร้านเกม ร้านคาราโอเกะ ร้านเกมและคาราโอเกะ และกลุ่มบริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์วีดิทัศน์ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมกว่า 300 คน ซึ่งทั้งหมดจะได้รับความรู้และแนวทางในการประกอบกิจการอย่างถูกต้องและสร้างสรรค์ โดยวิทยากรเชี่ยวชาญ นายพงศกร จันทรศัพท์ อัยการอาวุโส จากสำนักงานอัยการสูงสุด พันตำรวจเอกดนุ กล่ำสุ่ม ผู้กำกับการกลุ่มงานสัญญา กฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้แทนกลุ่มนิติการกรมส่งเสริมวัฒนธรรม มาอภิปรายและให้คำตอบแก่ผู้ประกอบการ ตาม พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 ได้แก่ ลักษณะอาคารและสถานที่ตั้งของร้านวีดิทัศน์ เงื่อนไขข้อปฏิบัติตามที่กำหนดในกฎกระทรวง บทกำหนดโทษเมื่อมีการกระทำฝ่าฝืน เป็นต้น เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานการให้บริการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในการประกอบกิจการร้านวีดิทัศน์ ให้เป็นพลังในการสร้างสรรค์และพัฒนาสังคมต่อไป
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องยังได้ทำเข้าใจถึงช่องทางการยื่นขอใบอนุญาตรวมถึงการขอต่อใบอนุญาตประกอบกิจการร้านวิดิทัศน์ ในระบบออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางใหม่ที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง ทำให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง อีกด้วย