Warped Tour เป็นเทศกาลดนตรีระดับตำนาน ที่ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1995 โดยชายที่ชื่อว่า Kevin Lyman จัดตั้งทัวร์คอนเสิร์ต..เดินสายวงดนตรีทั่วประเทศอเมริกา เพื่อโปรโหมดรองเท้า Vans ควบคู่ไปกับวัฒนธรรมดนตรีร็อค และสเก็ตบอร์ด (Skateboard)
ล่าสุด ก็ได้มาเปิดทัวร์คอนเสิร์ตครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น ภายใต้ชื่องานว่า Vans Warped Tour Japan 2018 by Xflag จัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 มี.ค. - 1 เม.ย. @Makuhari Messe Exhibition hall 9-11 มีวงดนตรีจากฝั่งอเมริกา ยุโรป รวมไปถึงวงญี่ปุ่นมาร่วมทัพมากมาย อาทิ Korn , Limp Bizkit , Prophet of Rage and many more!!
งานนี้ผู้เขียนก็ไม่รีรอ รีบจองตั๋วเครื่องบิน , โรงแรมที่พัก, บัตรคอนเสิร์ต พร้อมแบกกระเป๋าเดินทางใบน้อยๆ มุ่งสู่ประเทศญี่ปุ่นทันที!! I’m coming for Warped Tour Japan!
31 มีนาคม 2561 (DAY1)
และแล้วก็ถึงวันที่รอคอย! ผู้เขียนรีบตื่นแต่เช้าออกจากโรงแรม (Maple INN) เพื่อเดินทางไปยังสถานที่จัดงาน Makuhari Messe โดยรถบัส สาย Makuhari Hong ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที (ตาปรือเชียวเรา..เพิ่งตื่น 555)
***สิ่งที่ห้ามลืม! และต้องมีติดกระเป๋าไว้ นั่นก็คือ น้ำแร่รสผลไม้ ยาดม และอื่นๆ เนื่องจากเป็นการดูคอนเสิร์ตติดต่อกันหลายชั่วโมง เดี๋ยวจะเป็นลมเอานะจ๊ะ See you soon!
ในที่สุด เราก็เดินทางไปถึงงานเทศกาลดนตรีที่ใฝ่ฝัน Vans Warped Tour Japan 2018 ที่นี่เป็นศูนย์รวมของผู้คนจากทั่วทุกมุมโลก ที่มีความหลงรักใน “ดนตรี” และ “กีฬาเอ็กซ์ตรีม” มารวมตัวในสถานที่เดียวกัน เพื่อทำในสิ่งที่ชอบเหมือนๆกัน เป็น first impression ที่อบอุ่นมากๆ เห็นอย่างนี้แล้วก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นแล้วล่ะครับ บรรยากาศค่อนข้างคึกคักสุดๆ เอาล่ะได้เวลาที่เราจะค่อยๆเดินตามพวกเขาไปกันครับ Let's Go
เดินมาเรื่อยๆก็จะพบกับป้ายบิลบอร์ด พร้อมรายชื่อวงดนตรีที่มาร่วมแสดงทั้งหมดในงานนี้ คืนนี้คงไม่ได้พักแน่ๆ 555
และนี่คืออีกหนึ่งไฮไลท์เด็ด! สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก กับป้ายต้อนรับขนาดใหญ่ โดยมีข้อความ “Welcome to Warped Tour Japan 2018” งานนี้ผู้เขียนก็ไม่พลาดที่จะแชะ-แชร์ พร้อมโชว์บัตรเพื่อแสดงถึงว่าเราได้มาถึงแล้วนะ พร้อมลุย!!!
ก่อนที่วงแรกจะเริ่มเล่น ผู้เขียนก็ขอเดินดูร้านขายสินค้า (Official goods) สักหน่อย โดยแต่ละร้านก็จะมีของมาขายเพียบ อาทิ เสื้องาน ,เสื้อวงดนตรี , หมวก , แว่นตา , ธง-ผ้า , โปสเตอร์ และอื่นๆ
**สิ่งที่หนึ่งที่ผู้เขียนรู้สึกประทับใจมากๆ นั่นก็คือ การต่อแถวอย่างมีระเบียบวินัยของคนญี่ปุ่น ไม่มีแทรกแซง หรือผลักดัน-กรูกันเข้ามา เหมือนในบ้านเรา เห็นแล้วชื่นใจมากๆครับ
หลังจากที่เดินดูสินค้า Official goods บริเวณหน้างาน กันไปพอสมควร ก็ได้เวลาที่ผู้เขียนจะพาแฟนๆ JS100radio ทุกๆท่าน เข้าไปด้านในฮอลล์กันแล้วนะครับ (แผนผังภาพประกอบ)
เมื่อเดินเข้ามาโซนด้านใน ก็จะพบกับบรรยากาศที่คึกครื้นอีกเช่นเคย ที่นี่จะเต็มไปด้วย บูธกิจกรรมจาก Sponsor อาทิ Monster Energy เครื่องดื่มชูกำลังที่ให้หยิบกินฟรีได้ตลอดงาน , ร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่น ในราคา sale สุดพิเศษ ), ร้านขายซีดี (เผื่อชอบวงไหนเป็นพิเศษ แล้วยังไม่มีไอเทมก็มาจัดกันได้ฮะ) , ร้านอาหาร (ร้านเด็ดๆเพียบ! ดูแล้วน่ากินมาก) พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ (เชิญชมคลิปบรรยากาศกันได้เลยจ้า)
เอาหละครับ หลังจากที่เดินชมบรรยากาศโดยรอบกันไป ต่อจากนี้ผู้เเขียนจะพาทุกๆท่านเข้าไปในพื้นที่จัดแสดงกันแล้ว แต่ก่อนที่จะเข้าไปดูคอนเสิร์ต เราก็ต้องมาดูตารางโชว์ (Time Table) กันสักนิด จะได้บริหารเวลาได้อย่างถูกต้อง หรือจะถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกก็ได้ แต่เดี๋ยวค่อยออกมาตอนท้ายๆ ในส่วนของเวทีนั้นจะแบ่งออกเป็น 3 stage ด้วยกัน คือ East Stage , West Stage และ North Park (เวทีที่สามนั้นจะมีลานกีฬา Extreme Show ด้วย รอดูกันต่อไป) และตอนนี้ก็ถึงเวลาไปดูโชว์จากวงแรกกันแล้วจ้า!!
12:00 น. ก็เป็นเวลาของโชว์แรกกันแล้ว ประเดิมกันไป กับ The BONEZ วงอัลเทอร์เนทีฟร็อค/เมทัล ชื่อดังของญี่ปุ่น นำโดย JESSE (นักร้องนำ+กีตาร์) ,T$UYO$HI (มือเบส) , Zax (มือกลอง) , NAKA (มือกีตาร์) มาพร้อมกับเพลงสุดฮิต อาทิ Place of Fire , Ray , Suntown , Thread & Needle
ส่วนลีลาการเอนเตอร์เทนของ JESSE ก็ใส่แบบไม่ยั้ง ลงมา featuring กับแฟนๆอย่างใกล้ชิด
Survive Said The Prophet วงร็อคหน้าใหม่..สุดโกอินเตอร์ จากโตเกียว มาพร้อมกับบทเพลงที่เป็นภาษาอังกฤษ สามารถเข้าถึงได้ง่าย ภาคดนตรีก็ไม่ซับซ้อนมากนัก มีความสวยงาม แต่ก็เต็มไปด้วยดุเดือดคละคลุ้งในแบบโพสต์ฮาร์ดคอร์ งานนี้พวกเขาก็ปล่อยของกันแบบเต็มที่ อาทิ 3AM , When I , Tierra , Network System
หรือแม้แต่ Follow บทเพลงที่บรรเลงด้วยเปียโน มีเมโลดี้ที่สวยงาม และศักยภาพเนื้อเสียงที่โดดเ ด่นของ Yosh Morita (นักร้องนำ) ที่สร้างบรรยากาศสุดละมุน ไพเราะตราตรึงหัวใจมากๆ
หลังจากที่ดู Survive Said the Prophet จบ บริเวณข้างๆเวที (North Park) ก็มีการแสดงกีฬาผาดโผน "Extreme Show" มีทั้งสเก็ตบอร์ด (skateboard) , จักรยาน BMX และโรลเลอร์สเก็ต พร้อมเหล่าดีเจมาคอยเพิ่มความลุ้น-ระทึก! ให้กับคนดู
ส่วนนักกีฬาที่มาเล่นแต่ละคนนั้นก็ถือว่าฝีมือดีใช้ได้เลยทีเดียว ก็สนุกสนานกันไป ระหว่างรอดูวงต่อไปเล่น
แอบเชียร์พี่ผู้หญิงที่เล่นโรลเลอร์สเก็ตอยู่นะจ๊ะ สวย-เก่ง แบบนี้ใช่เลย (มีภาพประกอบ สวยม่ะ 555 )
ต่อมาก็ขอออกมาสูดอากาศข้างนอก หาอะไรกินแปป ที่นี่มีร้านอาหารให้เลือกมากมาย โดยแต่ละอย่างก็น่ากินทั้งนั้น เบอร์เกอร์-ฮอทด็อก ชิ้นโตๆ , เนื้อย่างร้อนๆแน่นๆ , ราเมนซุป หอมๆ ฟินเวอร์!!>///<
MUCC สุดยอดตำนาน visual kei rock รุ่นใหญ่ จากเมือง Ibaraki,Japan เจ้าของเพลงฮิตอย่าง Ender Ender ด้วยดนตรีที่แปลกใหม่ ให้อารมณ์เหมือน J-Rock ออกจะญี่ปุ่นจ๋า มีความสละสลวย แต่ก็มีความดุดัน โชว์ฝีไม้ลายมือกันแบบยกใหญ่ ทำเอาสะเทือนไปทั้งฮอลล์ มันส์มาก!!
coldrain วงเมทัลคอร์สุดเดือด! จากเมือง Nagoya ด้วยเอกลักษณ์การร้องของ Masato ลูกครึ่งอเมริกัน ที่มีทั้งความหวาน และความดุ! งานนี้ได้ฟังเพลงฮิตหลายเพลงเลย ไม่ว่าจะเป็น Envy , Feed The Fire , R.I.P , The Revelation และอื่นๆ
Tonight Alive วงร็อค จาก Sydney, Australian กับความสุขที่ได้ดื่มดำไปกับบทเพลงที่ช่วยเติมเต็มพลังงานให้กับชีวิต ไม่ว่าจะเป็น How Does It Feel ? , Crack My Heart , Disapper และอื่นๆ แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนทิศทางแนวดนตรีไปบ้าง มีความป็อบขึ้นไปบ้าง แต่ก็สัมผัสได้ถึงความฮอท ของ นักร้องนำ Jenna McDougall เป็นพลังขับเคลื่อนโชว์ได้อย่างต่อเนื่อง รวมๆแล้วก็เป็นอีกหนึ่งโชว์ที่ดี สำหรับ Warped Tour JP ในวันนี้เลยก็ว่าได้ ฮอทโตะ!!! (ร้อนมาก)
ต่อมาพบกับ Crossfaith เป็นวงที่ขึ้นชื่อในเรื่องของ Live Performance อยู่แล้ว งานนี้พวกก็จัดหนักกันไป เปิดมาด้วย System X โชว์ลีลาการเล่นเสียงสังเคราะห์ (EDM) ของ Teru พร้อมบอกให้แฟนๆชูมือโยกไปมา ศิลปินคนอื่นๆค่อยๆปรากฏตัวจากนั้นก็ระเบิดความมันส์กันแบบจัดเต็ม ด้วยเสียง Screaming ว๊าก!! อันก้องกังวัลของ Kenta Koie ที่ทำเอาแฟนๆเดือดพล่านไปทั้งฮอลล์ แฟนๆจากทั้งฝั่ง วิ่งเข้าหาแล้วชนกัน กระแทกกันไปมา จัดเต็มเหนี่ยวกับเพลงฮิตมากมาย โดยเฉพาะใน Rockstar Steady ที่มี Jesse นักร้องจาก The BONEZ ทวีคูณความร้อนแรงยิ่งขึ้น
Issues ที่เหลือสมาชิกเพียง 4 คน (ดังที่เคยเขียนไว้ในบทความ) ก็ต้องบอกเลยว่า มันก็ไม่ได้แย่ซะทีเดียว ส่วนตัวคิดว่าเสียง Screaming ของ มือกีตาร์ และมือเบส ก็ทำได้ดี และเพียงพอแล้วสำหรับตอนนี้ รู้สึกประทับใจมากๆ เล่น Blue Wall ตั้ง 2 รอบแน่ะ , Yung & Dumb เวอร์ชั่นญี่ปุ่น Tyler Carter มีความพยายามร้องภาษาญี่ปุ่น ตรงท่อนที่มี ทากะ (ONE OK ROCK) มาร่วม feat. มีหลุดๆไปบ้าง ฮ่าๆๆ และยังมีเพลงอื่นๆอีกเพียบ!
BiSH วงไอดอลญี่ปุ่น ที่มีความน่ารักแบบดาร์กนิดๆ ส่วนฝีมือในการแสดง ทั้งร้อง-ทั้งเต้นยอดเยี่ยม ราวกับเวทมนตร์ ทำเอาผมนี่แทบใจละลาย แอบเต้นตามอยู่นะจ๊ะ 555 ส่วนตัวแล้วเป็นโอตะน้อง Ayuni D (คนซ้ายสุด) และ Aina The End (คนกลาง) ส่วนอื่นๆก็ชอบเช่นกันครับ งานนี้สนุกได้ทุกเพลง อาทิ Smack by Smack , My Landscape , Giant Killer และอื่นๆ ขณะนี้เขียนอยู่กำลังเคลิ้มกับความน่ารักของน้องๆ >///< หลงรักซะแล้ว คาวาอินา (น่ารักจังเลย)
Of Mice & Men วงนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวง ที่ได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง จากที่ Austin Carlile นักร้องนำ (คนเก่า) ประสบการณ์ปัญหาทางด้านสุขภาพ ทำให้ต้องออกจากวงไป ส่วนผู้ที่มาทำหน้าที่ร้องแทนนั่นก็คือ Aaron Pauley (นักร้อง/มือเบส คนปัจจุบัน) ซึ่งทำได้อย่างสมบูรณ์แบบมากๆ ทั้งการ Screaming และ เสียงร้องแบบ Clean สลับไปมา วงนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของความเกรี้ยวกราดในบทเพลงอยู่แล้ว จัดกันเต็มเหนี่ยว ขนเพลงฮิตมาเล่นกันเพียบ!
MONOEYES ป็อบพังค์/อินดี้ จากชื่อดังจากญี่ปุ่น ที่เกิดขึ้นจากรวมตัวของ Hosomi Takeshi อดีดฟร้อนท์แมนวง Ellegarden (วงนี้โด่งดังมากในช่วงปี 1998-2008) จับมือกับ Scott Murphy อดีตมือเบสวงพังค์จากชิคาโก้อย่าง Allister มาพร้อมกับเพลงฮิต คละคลุ้งไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุข-สนุกสนานตามสไตล์เพลง
Limp Bizkit ชื่อนี้มาพร้อมกับความมันส์!! สุดยอดวง Nu Metal /Rap Metal ระดับตำนาน ที่มาพร้อมกับ Blackgroud ตัวตลกสุดหลอน ก่อนจะเปิดประเดิมด้วย Hog Dogs แฟนๆเริ่มเต้น กับท่อนแร็พ ของ Fred Dust จากนั้นความเดือดจึงบังเกิด ชาวญี่ปุ่น Mosh! (การเต้นในแบบชาวร็อค) กันกระจาย พร้อมร้องกันสนั่นฮอลล์ ต่อด้วย Rollin เพลงประกอบภาพยนตร์ Mission Impossible 2 เป็นเพลงไฮไลท์ที่ทำให้หลายๆคนรู้จักวงนี้ และยังมีเพลงเด็ดๆอีกเพียบ
และแล้วก็ถึงคิวของ headliner ประจำวันแรกกันแล้วกับ Korn เจ้าพ่อแห่ง Nu Metal ที่อยู่คู่ประวัติศาสตร์ดนตรีมาอย่างยาวนาน งานนี้ก็มากันแบบครบทีม Jonathan Davis (นักร้องนำ) , James Munky Shaffer (มือกีตาร์) , Brian Welch (มือกีตาร์) , Reginald Arvizu (มือเบส) , Ray Luzier (มือกลอง) ระเบิดความเดือดอย่างเต็มพิกัด ยกทัพเพลงเก่า เพลงใหม่ มาเล่นให้แฟนๆได้สนุกสนานก็แบบจุใจ นอกจากนี้ความสวยงามของ motion graphic ที่ถ่ายทอดความหมายของแต่ละเพลงได้เป็นอย่างดี
ครับ หลังจากที่ดู Korn ซึ่งวงสุดท้าย ของ DAY1 จบ ผู้เขียนจึงเดินทางกลับโรงแรมเพื่อพักผ่อน ระหว่างทางก็แวะมินิมาร์ทซื้อของกินสักนิด ว่าแต่..จะหมดแรงแล้ว =_= หิวมว๊าก!! หลังจากนี้ก็คงจะอาบน้ำ-นอน แล้วเจอกันใหม่พรุ่งนี้ ^___^
1 เมษายน 2561 (DAY2)
อรุณเบิกฟ้า นกกาโบยบิน ออกหากินร่าเริงแจ่มใส เราเบิกบานรีบมาเร็วไว ยิ้มรับวันใหม่ ยิ้มให้แก่กัน (เพลงยามเช้า จงมา! 555 >///< ) และแล้วม่านฟ้าก็เปิดออก ได้เวลาของวันที่ 2 กันแล้ว
ผู้เขียนจึงไม่รีรอ รีบว๊าบ!! (โดยรถบัสสาย Makuhari Hong ) แว็บ!! มายังสถานที่จัดงานทันที วันนี้เป็นสุดท้ายแล้ว แต่ผู้คนก็ยังคึกคักอีกเช่นเคย
ก่อนจะเข้าไปดูคอนเสิร์ตงานนี้ก็ขอดื่ม Moster Energy Drink เติมพลังให้เต็มถังซะก่อนนะจ๊ะ ซดเข้าไป อึกๆๆๆ แบบนี้กินฟรีตลอดงาน ไม่ต้องถามว่ากินไปกี่แก้ว..เพราะกินแทนน้ำจ้า 555
พอเติมพลังเติมถังก็มาลุยกันต่อกับ วงแรกของ Day2 กันเลย! PassCode วงไอดอลสาว 4 คน จาก Osaka มาพร้อมกับดนตรีสุดแหวกแนว ด้วยลูกผสมระหว่างซาวน์ดนตรีแบบ Electronic Dance Sound และดนตรีแบบ Screamo ว๊าก!! ทำเอาแฟนๆ Circle pit กันยกใหญ่ !! ผสมผสานกลมกลืน ชวนหลงไหล ด้วยทักษะการแสดงเป็นเลิศของน้องๆ เป็นจุดขายที่สามารถดึงดูดผู้ชมได้อยู่หมัด สุดยอด!
Dizzy Sunfist วงป็อบพังค์ 2สาว+ชาย1 กับบทเพลงที่บอกเล่าเรื่องราวของ การออกไปใช้ชีวิต และทำความฝันที่เป็นจริงตามที่หัวใจต้องการ งานนี้ขนเพลงฮิตมาเล่นให้แฟนๆได้ชมกันอย่างจุใจ อาทิ No Answer , Summer Never End , Into The future , The Dream is not dead และอื่นๆ ก็สนุกสนานกันไป
The Last Internationale ร็อคแอนโรลสุดเท่ จาก New York,USA ที่มีสมาชิกหลักเพียง 2 คนเท่านั้น นั่นก็คือ Delila (นักร้อง+เบส) & Edgey (มือกีตาร์) แต่พลังในการแสดงนั้นเหลือล้นจริงๆ มีทั้งความเท่ ความมันส์ และแนวคิดมุมมองทางด้านสังคม ส่วนตัวแล้วดีใจมากๆที่ได้ดูพวกเขาเล่น ได้ฟังตั้งหลายเพลง เช่น Life ,Liberty , And Indian Blood , Wased Time และอื่นๆ
HEY-SMITH สุดยอดวง ska punk จากโอซาก้า ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการผสมผสานระหว่างดนตรีพังค์ และเครื่องเป่า (trumpets) คละคลุ้งไปด้วยอารมณ์แห่งความสนุกสนาน ราวกับกำลังนั่งดูรายการวาไรตี้โชว์อยู่เลยก็ว่าได้ งานนี้พวกเขาก็ยกทัพเพลงฮิตมาเพียบ! อาทิ Let It Punk , Dandadan , Don’t Worry My Friends , Radio , True Inside และอื่นๆ วงนี้เล่นสดได้มันส์มากๆ สุโค่ย!!! ประทับใจสุดๆ
BAND-MAID วงร็อคหญิงล้วน ที่กำลังมาแรงในประเทศญี่ปุ่น และมีแฟนเพลงอยู่ทั่วทุกมุมโลก ภายใต้สไตล์การแต่งตัวแบบแม่บ้านสาว หรือที่เรามักเรียกกันว่า ชุดเมด (maid) ที่มีทั้งความสวยดึงดูด และฝีมือในการเล่นดนตรีที่หนักหน่วง ดุดัน ในสไตล์เมทัลร็อคสุดเร้าใจ! ทำเอาเหล่าสาวกได้รับพลังแห่งความมันส์ถึงขีดสุด แทบไม่น่าเชื่อว่านี่คือวงดนตรีที่มีสมาชิกเป็นผู้หญิงทั้งหมด โดยเฉพาะช่วง เพลง Domination เดือดมาก!!
SUICIDAL TENDENCIES วง thrash metal/hardcore punk รุ่นใหญ่ จากเมือง Venice, Los Angeles วงนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวงดนตรี ที่สามารถสร้างปรากฏการณ์ความเดือดแบบทะลุปรอทให้กับแฟนเพลง ด้วยเพลงฮิตมากมาย ทำเอาแฟนโยกไปตามๆกัน
Zebrahead สุดยอดวง Punk /Pop Punk/Rap จากแคลิฟอร์เนีย ขวัญใจวัยรุ่นยุค 2000 มาพร้อมกับเพลงฮิตอย่าง Save Your Breath ,Call Your Friends, Mental Health , Falling Apart และอื่นๆส่วนตัวแล้วตั้งใจมาดูวงนี้มากๆ จึงไปอยู่บริเวณหน้าเวที มีของเล่นให้เล่นด้วย ไม่ว่าจะเป็น ห่วงยางเป็ด, ลูกบอลเป่าลม คุ้มมาก! ฮ่าๆๆ
Andrew W.K. นักแต่งเพลง , โปรดิวเซอร์ , นักดนตรี ชื่อดัง จากเมือง Stanford, California เจ้าของฉายา “Party God” ด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร ผนวกกับการสร้างสรรค์ผลงาน ที่ค่อนข้างจะ crazy นิดๆ แต่บทเพลงของเขานั้นมีพลัง มีความหมายต่อชีวิต และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คน
มาต่อกันด้วย วงรองสุดท้าย อย่าง Pennywise พังค์ร็อครุ่นใหญ่ จากเมือง California ที่มาเล่นให้แฟนๆได้มันส์สุดเหวี่ยงกันไปกันเพลงฮิต อาทิ Same Old Story , Fight Till You Die , Blitzkrieg Bop (Cover Ramones song ) , Alien และอื่นๆ
ปิดท้ายด้วย Prophets of Rage วง Rap Metal ระดับ supergroup ที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวของสมาชิก จาก Rage Against The Machine , Public Enemy , Cypress Hill เพื่อถ่ายทอดด้านมืดของการเมืองในอเมริกา ผ่านบทเพลงฮิต อาทิ Killing In the Name , Know Your Enemy , Like a Stone , Take the Power Back , How I could Just Kill a Man , Fight the Power , Hail to the Chief , Living On the 101 , Unfuck the World และอื่นๆอีกเพียบ! คุ้ม!!
บทความโดย : พัดโบก วังแก้ว