“7 ประโยค” ที่ไม่มีใครอยากได้ยินระหว่างการท่องเที่ยว

   หลังจากที่ซุ่มวางแผนไปเที่ยวด้วยตัวเองในช่วงเทศกาลสงกรานต์มาเป็นอย่างดี  แต่โชคร้าย แผนที่วางไว้กลับไม่ราบรื่นอย่างที่ตั้งใจ  เริ่มจากเกือบตกเครื่องบินเพราะรถติด  เครื่องบินดีเลย์เพราะสภาพอากาศแปรปรวน กระเป๋าน้ำหนักเกินจนต้องรื้อจัดใหม่ และอีกหลายปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ  ยิ่งถ้ามีใครมาตอกย้ำความรู้สึกด้วย  7  ประโยคแสลงใจที่จะได้อ่านต่อไปนี้  หากไม่เตรียมตัวเตรียมใจไว้ก่อน คงทำให้ทริปในฝันของคุณ กลายเป็นความทรงจำที่เลวร้ายในทันที 



                   (ภาพจาก : stories.avvo.com)

     1. “ผู้โดยสารโปรดทราบ...เที่ยวบินของคุณล่าช้ากว่ากำหนด /เที่ยวบินถูกยกเลิก”  เหตุการณ์ฉุกเฉินแบบนี้อาจเกิดขึ้นได้เสมอ แม้ว่าคุณจะไม่อยากได้ยินเลยก็ตาม อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีแอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้ผู้โดยสารสายการบินต่างๆ สามารถตรวจสอบสถานะของเที่ยวบินได้ตลอด 24 ชั่วโมง และยังมีบริการแจ้งเตือนก่อนเครื่องออก  60 นาที ด้วย  สำหรับคนที่เดินทางโดยเครื่องบินบ่อยๆ ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น ของการท่าอากาศยานไทย AOT Application ติดไว้ก็ดีนะคะ 



                                 (ภาพจาก : nycaviation.com )  

    2. “ขอประทานโทษครับ  ห้องที่คุณจองไว้ยังไม่เรียบร้อย”  กรณีที่คุณเดินทางไปถึงโรงแรมที่จองไว้ก่อนเวลาเช็กอิน เป็นธรรมดาที่พนักงานแผนกต้อนรับจะแจ้งให้คุณทราบว่า “ห้องที่จองไว้ยังไม่เรียบร้อย” (แขกที่พักอยู่ยังไม่เช็กเอาท์ หรือแม่บ้านกำลังทำความสะอาดอยู่) ซึ่งตามปกติคุณสามารถฝากสัมภาระไว้ที่เคาน์เตอร์ก่อน เพื่อออกไปเที่ยวแล้วกลับมาใหม่เมื่อถึงเวลาเช็กอิน แต่ถ้าเลยจากเวลาเช็กอินไปแล้ว ห้องที่จองไว้ยังไม่พร้อมอีก  คุณสามารถเรียกร้องความรับผิดชอบจากโรงแรมได้ ไม่ว่าจะเป็น การเช็กเอาท์เกินเวลาในวันสุดท้ายของการพัก ส่วนลดค่าที่พัก หรือเครื่องดื่มฟรี เป็นต้น 



                                           (ภาพจาก : huffingtonpost.com )

     3. “เราเสียใจที่ต้องแจ้งให้ทราบว่า กระเป๋าเดินทางของคุณหายไป” คุณเดินทางใกล้ถึงจุดหมายแล้ว แต่จะไปต่อได้อย่างไรถ้าไม่มีกระเป๋าเดินทาง แน่นอนว่าสายการบินต้องรับผิดชอบความผิดพลาดที่เกิดขึ้น คำแนะนำในกรณีที่กระเป๋าคุณหาย (ทั้งๆ ที่ผ่านการเช็กอินเรียบร้อยแล้ว) ระหว่างรอว่าจะได้กระเป๋าคืนหรือไม่ ซึ่งอาจต้องใช้เวลา 2-3 วัน  ทำให้คุณคงต้องซื้อของใช้ส่วนตัวบางอย่างใหม่  อย่าลืมเก็บใบเสร็จทุกใบไว้ด้วยล่ะ  คงไม่ต้องบอกนะว่า ใครที่จะต้องจ่ายเงินคืนให้กับคุณ  



                     (ภาพจาก : canadajournal.net)

     4. “ขอโทษค่ะ ทางออกขึ้นเครื่องปิดแล้วนะคะ” ตามปกติประตูทางออกขึ้นเครื่องบินจะปิดก่อนเวลาเครื่องออก 10-15 นาที  เช่นถ้าเครื่องออกเวลา 21.35 น. แต่คุณกลับไปถึงที่หน้าประตูทางออกขึ้นเครื่อง ตอน 21.25 น. หรือช้ากว่านั้น “ทางออกขึ้นเครื่องปิดแล้วค่ะ” นั่นอาจเป็นประโยคที่คุณไม่อยากได้ยินเลย แต่ในเมื่อเป็นความผิดของคุณที่มาช้า คงได้แต่ขอให้พนักงานช่วยดูให้ว่าเที่ยวบินต่อไปยังมีที่ว่างอีกหรือไม่



                              (ภาพจาก : shape.com )

     5. “พาสปอร์ตของคุณใช้ไม่ได้นะครับ” จริงๆ แล้วหนังสือเดินทางของคุณอาจจะยังไม่หมดอายุก็ได้ แต่ในบางประเทศ เช่น จีน และบราซิล สิ่งหนึ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้คือ พาสปอร์ตจะต้องมีอายุเหลืออยู่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน ในวันที่คุณเดินทางไปถึง



                                 (ภาพจาก : ivn.us )

     6. “ตั๋วหมดแล้วค่ะ” ระหว่างเดินทางท่องเที่ยว คุณอาจต้องใช้บริการรถไฟ หรือเรือ แต่ในฤดูที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปในที่ต่างๆ จำนวนมาก มีความเป็นไปได้สูงที่ตั๋วจะเต็ม เพราะฉะนั้นไม่ควรหวังน้ำบ่อหน้า ศึกษาข้อมูลในการเดินทางให้ดี และจองตั๋วรถไฟ หรือเรือล่วงหน้า อย่างน้อยก็ช่วยประหยัดเวลา ไม่ต้องไปต่อคิวยาวๆ นะคะ  

                         (ภาพจาก : mamamia.com.au )

     7. “ขอโทษค่ะ ไม่มีชื่อของคุณในรายชื่อจองเลยนะคะ” บริการจองห้องพัก, ตั๋วเครื่องบิน, รถทัวร์ หรือรถไฟออนไลน์ อาจจะช่วยให้คุณมั่นใจว่าจะได้ห้องหรือที่นั่งในแบบที่คุณต้องการ แต่เพื่อความมั่นใจยิ่งขึ้น อย่าลืมพิมพ์ใบยืนยันการจองพกติดตัวไปด้วย หรือบันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือของคุณเลยยิ่งดี เผื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้น จะได้มีหลักฐานยืนยัน เวลาที่พนักงานบอกกับคุณว่า “ไม่เห็นชื่อของคุณในรายชื่อจอง”  



                           (ภาพจาก : indianexpress.com)

    เพราะการเดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาลมักมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเสมอ ถ้าคุณได้อ่านบทความนี้แล้ว หวังว่าคงจะไม่ต้องทนฟังประโยคช้ำใจ 7 ประโยคนี้นะคะ



                                (ภาพจาก : anovelpath.com)