"ผมยังไม่เคยเห็นเสือดำตัวเป็นๆในป่า ห่วง..กลัวว่าจะเป็นตัวสุดท้าย" อดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าว

06 กุมภาพันธ์ 2561, 21:13น.


     นายดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวกับ JS100 ถึงกรณีเจ้าหน้าที่บุกจับประธานบริษัทก่อสร้างชื่อดัง กลางป่าทุ่งใหญ่นเรศวรพร้อมพบซากเสือดำและอาวุธจำนวนมาก "ตนได้ติดตามข่าวแล้วตกใจมาก เสือดำ เป็นสัตว์หายาก ซึ่งเสือดำกับเสือดาว เป็นเสือชนิดเดียวกัน ในลูกเสือครอกเดียวกันมีได้ทั้งเสือดำและเสือดาว แต่การเกิดจะยากมาก เสือดาวผสมกันมีลูก 3 ตัว ก็จะได้เป็นเสือดำสัก 1 ตัว ขนาดเท่ากับเสือดาว ในบ้านเราตั้งแต่ทำงานมา 2 สมัย ยังไม่เคยเห็นตัวเป็นๆจริงๆในป่า มันหายากมาก เห็นแต่จากการ ตั้งกล้อง ที่ติดไว้ตามป่าเพื่องานวิจัย ถ้าตายไปสมมุติว่าเป็นตัวสุดท้ายก็น่าเสียใจ"



   "พวกที่เข้าป่าเพื่อล่าสัตว์ เขาล่าจากสีตาที่สะท้อนตอนกลางคืน น่าจะมาล่าเก้งกวาง แต่คงนี่แหละ คิดว่าคงไม่ได้ตั้งใจจะล่า แต่คงเจอมันมากินน้ำ กินโป่ง กินเนื้อ ส่วนเรื่องอาวุธ ถ้าชาวบ้านหรือพรานอาจมีปืนลูกซอง แต่ปืนไรเฟิลติดกล้องแบบนี้คงไม่มีนี่ ต้องสอบสวนกรมพิทักษ์อุทยานว่าเอาอาวุธเข้ามาได้อย่างไร สำหรับทุ่งใหญ่ตะวันตกเปิดให้ชม 4 เส้นทาง เสียค่าเข้า 30 บาท ส่วนใหญ่คนที่ล่าจะล่าไกลจากที่พัก โดยทั่วไปไม่ให้เข้าไปอยู่เกิน 4 วัน ถ้าเป็นกลุ่มวิชาการจะแจ้งระบุชื่อ ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่เองก็ต้องขอหัวหน้า ส่วนถ้าบุคคลทั่วไปต้องทำเรื่องขออธิบดีฯ แต่จุดนี้เป็นจุดที่เปิดให้เข้าไปในจุดที่เรากำหนดอยู่แล้ว คนทั่วไปไม่รู้พื้นที่หลงแน่ ต้องไล่สอบกันไป"



    "ระดับพิทักษ์ป่า เขาไม่รู้หรอกว่าคนที่มาเป็นคนใหญ่คนโตหรือเปล่า แต่ผมเชื่อว่าเด็กๆพวกนี้มีจิตวิญญาณแรงกล้าอยู่แล้ว ถามว่าหากล่าจริงจะเอาไปทำอะไร ตัวเดียวอันเดียวของเสือคนเชื่อว่าเป็นยาชูกำลัง ราคาแพงมาก ส่วนหนังเสือเชื่อว่าคงเอาไปเป็นของสะสมมากกว่า" อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ กล่าว





X