พาเที่ยวเมืองเก่าเกียวโต! "เดินกินปิ้งย่างเสียบไม้ Street Food - แวะขอพรที่ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ"

07 กุมภาพันธ์ 2561, 20:10น.


   “เกียวโต” (Kyoto) หนึ่งในเมืองประวัติศาสตร์สำคัญของประเทศญี่ปุ่น แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจังหวัดโอซาก้าเท่าไหร่นัก เพียงนั่งรถไฟ จากสถานี Shin-Osaka มุ่งหน้า JR Kyoto Line ประมาณ 30 นาทีเท่านั้น ก็สามารถมาเที่ยวชมเมืองนี้ได้ทันที โดยสิ่งแรกที่ผู้เขียนได้สัมผัส คือเอกลักษณ์ที่ยังคงไว้ซึ่งวิถีชีวิตแบบเก่าแก่ และมีความทันสมัยผสมผสานกันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนๆ เราก็จะรู้สึกถึงบรรยากาศที่เรียบง่าย ความมีชีวิตชีวา และวัฒนธรรมที่ธำรงรักษาไว้อย่างดีเยี่ยม สิ่งที่ผู้เขียนชื่นชอบ คือ สถาปัตยกรรม อาคาร บ้านเรือนแบบดั้งเดิม อีกทั้งไลฟ์สไตล์ของคนที่นี้ค่อนข้างจะเรียบง่าย เน้นการทำมาหากินแบบพอเพียง ทุกบ้านสามารถเปิดกิจการของตนเอง เลี้ยงชีพได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีศูนย์การค้าใหญ่โต



    เอาล่ะครับก็เกริ่นนำกันไปพอสมควร หลายๆคนก็คงจะเริ่มจะรู้สึกหิวกันแล้วใช่ไหมครับ เราไปหาอะไรอร่อยๆทานกันดีกว่า ย่านนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารแบบ Street Food โดยเฉพาะปิ้งย่างเสียบไม้! ที่มีให้เลือกหลากหลายเมนู เน้นการเดินการกินไปเรื่อยๆ พร้อมเสพย์บรรยากาศโดยรอบ



   ตลอดทางก็จะมีร้านปิ้งย่างที่มีชื่อเสียงอยู่เต็มไปหมด ซึ่งแต่ละร้านนั้นจะมีสูตรลับเก่าแก่ประจำตระกูลที่สืบทอดต่อกันมา หากใครได้มีโอกาสมาเยือนย่านนี้ ก็ไม่ควรพลาดที่จะเดินชิมไปเรื่อยๆให้ได้มากที่สุด รับรองว่าจะต้องมีสักร้านที่คุณติดใจอย่างแน่นอน



  ปูทั้งแท่ง! ภาพของพี่ชายคนหนึ่งกำลังย่างปูบนเตาร้อนๆ เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้เขียนต้องหยุดชะงัก มิใช่เพราะความหล่อนะจ๊ะ แต่เป็นกลิ่นหอมเย้ายวนใจ พร้อมเทคนิค..กรรมวิธีในการทำที่พิพีพิถัน น่าทานมากๆ ไม้นึงก็ไม่แพงนัก เพียง 500 เยนเท่านั้น 



  ซูมให้เห็นกันแบบชัดๆ ดูสีสันของปูแบบรวมๆ เรียงกันน่าทานมากๆ




   ว่าแล้วก็จัดไปสักไม้ (เออ..นี่มันไม้ที่ 3 แล้ว ฮ่าๆๆๆ) จากที่ลิ้มลองไป รสชาติของปูจะมีความเข้มข้นของเกลือป่นแบบกล่อมกลอม ก่อนทานแนะนำให้ใส่พริกป่นญี่ปุ่น และราดซอสมายองเนสสักนิด จะให้ความเผ็ดทวีคูณความอร่อยยิ่งขึ้น เมื่อกัดเข้าไปจะสัมผัสได้ถึงเนื้อปูคำโตๆ ปูแน่นๆ นุ่มๆกำลังดี  อร่อยเหนือคำบรรยาย ต้องลองครับ



   สำหรับผู้ที่ชื่นชอบทานเนื้อต้องร้านนี้เลย! (หมายถึงเนื้อย่างนะ ไม่ใช่เนื้อสมุนไพร ฮา) ที่เห็นอยู่นี้คือเนื้อโกเบเสียบไม้ เป็นของขึ้นชื่อในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็จะมีให้เลือกอยู่หลายร้านเลยทีเดียว



  ซึ่งแต่ละร้านก็จะให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันออกไป โดยที่ทุกๆท่านเห็นในภาพนี้ คือ ซอสสูตรพิเศษ โดยระหว่างที่เขาย่างเนื้อบนเตา เขาจะใช้พู่กันจุ่มซอส แล้วทาไปทั่วบริเวณ แน่นอนว่ารสชาตินี่ไม่ต้องพูดถึง เมื่อกัดเข้าไปคำแรก จะสัมผัสถึงความนุ่มนิ่มแบบละลายในปาก พร้อมความเข้มขนของซอส อร่อยแบบไม่ต้องแต่งเติมใดๆทั้งสิ้น



   ร้านนี้จะเป็นเนื้อเบคอนรมควันโรยเกลือ มีติดมันนิดๆ แต่อร่อยสุดๆ รสชาติกลมกล่อม หอมมากๆ  






  หลังจากที่เดินชิม..เดินกินปิ้งย่างเสียบไม้กันจนอิ่มหนำสำราญ ต่อไปผู้เขียนจะพาทุกๆท่านไป ไหว้พระขอพร..ถ่ายรูปชิวๆ ที่ศาลเจ้าเทพอินาริกันนะครับ ระหว่างทางจะพบร้านค้าที่ระลึกจำนวนมาก อาทิ โมเดลจำลองศาลเจ้า ,หน้ากากเทพจิ้งจอกขาวอินาริ , แมวเรียกทรัพย์ และอื่นๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการประยุกต์ขนบธรรมเนียบแบบดังเดิม มาผสมผสานกับสิ่งสร้างสรรค์สมัยใหม่ เป็น Product ของชุมชนแบบเก๋ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อเป็นที่ระลึกกลับบ้านกันไป 





   และแล้วเราก็เดินมาถึงบริเวณด้านหน้า ของ ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ หรือศาลเทพเจ้าจิ้งจอกขาว ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเชิงอนุรักษ์ ที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ ตามความเชื่อแต่โบราณ โดยศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1508 สืบเนื่องมาจากชาวญี่ปุ่นสมัยก่อนนั้นนับถือเทพอินะริ (เทพเจ้าจิ้งจอกขาว) ด้วยความเชื่อที่ว่าเป็นเทพอินารินั้น เป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ ที่คอยอุปถัมภ์ค้ำชู..ส่งเสริม ให้มนุษย์มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ซึ่งความศรัทธาเหล่านี้ยังก็คงอยู่ตราบจนปัจจุบัน



  นี่คือประตูทางเข้า เป็นเสาสีแดงๆ พร้อมมีรูปปั้นเทพเจ้าจิ้งจอกขาว ประดิษฐไว้อยู่ทั้งสองมุมประตู เป็นเอกลักษณ์ของศาลเจ้าแห่งนี้



  ว่าแล้วก็ขอแชะ! สักรูปก่อนเข้าไปด้านในกันนะครับ



   บรรยากาศด้านในค่อนข้างคึกคัก เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว และชาวญี่ปุ่น ที่เดินทางมาสักการะขอพร เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ให้มีหน้าที่การงานรุ่งเรืองนั่นเอง









   และไฮไลท์สำคัญของศาลเจ้าแห่งนี้ คือเสาแดง (ดังรูป) ที่เรียงตัวกันกว่าหลายหมื่นต้น จนเป็นทางเดินไปทั่วทั้งภูเขาอินาริ ซึ่งมีความเชื่อว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ เป็นที่สิงสถิติของเทพอินาริ ตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ ที่ช่วยเหลือในเรื่องของการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร รวมไปถึงพืชผลไร่นาต่างๆ โดยผู้คนที่นี่มักจะมีสุนัขจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่บารมี







 
 " ผมรู้สึกเบิกบานใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่ได้เข้ามาข้างใน เดินผ่านเสาจำนวนมาก พร้อมตั้งใจจิตอธิษฐานขอพร คิดในสิ่งที่ดี ทำให้จิตใจร่มเย็นเป็นสุข " - พัดโบก วังแก้ว 



   นับว่าเป็นประสบการณ์ดีๆ ที่ได้มีโอกาสมาแบ่งปันให้แฟนๆ JS100 ถึงเสน่ห์ของเมืองเกียวโต ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แห่งประวัติศาสตร์ และน่าหลงไหลเป็นอย่างมาก เริ่มจากการเดินชม-ชิม-ช็อปแบบชิวๆ แบบ Street Food สิ่งที่ผมหลงไหลคือวิถีชีวิตแบบพอเพียง เรียบง่าย สามารถพึ่งพาตนเองได้ การพัฒนาขนบธรรมเนียบประเพณีให้เป็นสิ่งที่จับต้องได้ง่าย เป็นที่ยึดถือของผู้คน เป็นพื้นฐานของความเจริญก้าวหน้า ทุกๆที่เจริญไปหมดเพราะทุกๆคนเห็นคุณค่าของสิ่งที่มี และทำให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม การมาที่นี่ทำให้ผมได้รับอะไรหลายๆอย่างมากกว่าความเพลิดเพลิน แต่มักจะมีความคิดที่อยากจะนำสิ่งดีๆไปพัฒนาบ้านเมืองของเราให้สุขสมบูรณ์เช่นเดียวกัน สำหรับทริปนี้ก็ผมก็ขอลาทุกๆท่านไปก่อนสวัสดีครับ




  เรียบเรียงโดย : นายพัดโบก วังแก้ว



 



 

X