จากกรณีเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา JS100 รับแจ้งจากผู้ใช้ทางพบกลุ่มหมูป่าเดินขึ้นมาบริเวณเชิงทางลงทางด่วนแจ้งวัฒนะ จึงประสานไปยังกรมปศุสัตว์เพื่อเข้าตรวจสอบ โดยสำนักงานปศุสัตว์อำเภอปากเกร็ดได้เข้าช่วยเหลือพบว่า เคยมีผู้เลี้ยงไว้และแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็วจนไม่สามารถดูแลต่อไหวและยกให้ทางปศุสัตว์ดำเนินการเคลื่อนย้าย ซึ่งล่าสุดบนโลกออนไลน์ได้แชร์ภาพหมูป่าบริเวณดังกล่าวบางส่วนที่ยังอยู่ถูกคนทำร้ายได้รับบาดเจ็บ และเรียกร้องหน่วยงานเข้าตรวจสอบอีกครั้ง
นายสมชาย หมื่นเดช ปศุสัตว์อำเภอปากเกร็ด เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จถึงภาพดังกล่าว ว่าเป็นภาพปัจจุบันหรือไม่ และหากถูกทำร้ายจริงก็ต้องรีบเข้าไปช่วยเหลือ เบื้องต้นพื้นที่บริเวณนั้นค่อนข้างกว้าง มีลักษณะเป็นป่ารถที่อยู่แนวใต้ทางด่วนศรีรัช มีชุมชนใต้ทางด่วนอาศัยอยู่หลายครอบครัว จากการตรวจสอบเมื่อเดือนกันยายนคาดว่าหมู่ป่ามีทั้งหมดประมาณ 70 ตัว โดยได้เคลื่อนย้ายออกไปแล้ว 30 ตัว มีผู้มาลงทะเบียนรับไปเลี้ยงและทำพันธุ์ต่อจำนวน 16 คน คนละ 1-3 ตัว ซึ่งปศุสัตว์ยังคงติดตามอยู่เป็นระยะ
สำหรับการเคลื่อนย้ายเมื่อเดือนกันยายนทำได้ค่อนข้างยากลำบาก ต้องใช้กรงขนาดใหญ่โดยขอยืมจากด่านกักกันสัตว์แปดริ้ว การลงพื้นที่ต้องทำตั้งแต่เช้ามืด เพราะหมูป่าจะหลบไปนอนกลางวัน ภายในป่ากว้างหลาย 10 ไร่ ช่วงนั้นหน้าฝนจึงมีทั้งน้ำท่วมและหลุมบ่อ ดำเนินการได้ 4 วัน ก็ต้องยุติชั่วคราวเพราะติดงานอื่นๆ ความพร้อมของคนและอุปกรณ์ไม่เพียงพอ ต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 30 คนต่อวัน ออกมาจากป่าก็หมดสภาพกันทุกคน ก็ต้องใช้เงินส่วนตัวเลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำ เบิกราชการไม่ได้ ส่วนยาสลบราคาขวดละ 2,000 บาทต่อหมูป่า 1-2 ตัว โดยใช้ไม้ยาวไปจิ้มที่ตัว หากจิ้มผิดก็เสียฟรี หมูป่ามีทั้งที่เชื่องและไม่เชื่อง ส่วนใหญ่จะวิ่งหนีหรือวิ่งชนรั้ว บ้างก็วิ่งใส่เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ
สำหรับผู้ที่สนใจอยากให้ความช่วยเหลือ ทั้งการเป็นอาสาสมัครหรือให้ยืมกรงและอุปกรณ์ สามารถติดต่อ นายสมชาย หมื่นเดช ปศุสัตว์อำเภอปากเกร็ด ได้โดยตรงที่เบอร์ 0818069745 โดยหลังจากนี้คงต้องเข้าไปวางแผนการเคลื่อนย้ายให้เร็วยิ่งขึ้น วอนสังคมหากรักหรือเลี้ยงสัตว์ใด ขอให้ช่วยกันรับผิดชอบ และขอให้ช่วยกันตรวจตราแจ้งเบาะแสผู้ที่ทำร้ายสัตว์
Cr. สมชาย หมื่นเดช ปศุสัตว์อำเภอปากเกร็ด,ปอเปี๊ยะกาลเวลา