กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับสำนักงานขนส่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตำรวจ แขวงทางหลวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุรถตู้เช่าเหมาชนท้ายรถบรรทุกเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน โดยเป็นชาวญี่ปุ่น 4 คน และไกด์คนไทยอีก 1 คน ส่วนคนขับได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิด ทล.347 ฝั่งขาออก บริเวณ กม.29 ก่อนถึงแยกวรเชษฐ์ เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2560
วันนี้ (10 พ.ย. 2560) ที่สถานีตำรวจภูธรบางปะอิน นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ร่วมกับ พ.ต.อ.สง่า ธีระศรัณยานนท์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกันแถลงข่าวจากการลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุไม่พบรอยห้ามล้อในบริเวณที่เกิดเหตุ ประกอบกับการตรวจสอบความเร็วจาก GPS แสดงความเร็วสุดท้ายก่อนเกิดเหตุ คือ 93 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จึงสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากความประมาทของพนักงานขับรถ ส่วนเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นนั้น พบว่าเกิดจากท่อน้ำมันขาดตรงตำแหน่งการชน โดยรายละเอียดต่างๆ อยู่ระหว่างพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม และรอผลตรวจเลือดของพนักงานขับรถเพื่อหาปริมาณแอลกอฮอล์และสารเสพติดในร่างกาย

นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ขณะนี้ผลทางคดีจะยังไม่ได้ข้อสรุปแน่ชัด แต่เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุร้ายแรง สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน กรมการขนส่งทางบกได้สั่งถอนรถตู้คันเกิดเหตุออกจากบัญชีประกอบการขนส่ง และให้บริษัท อาร์.แอล. เซอร์วิส จำกัด นำรถทั้งหมดในบัญชีฯ จำนวน 84 คัน เข้ารับการตรวจสภาพโดยละเอียดอีกครั้ง และให้พนักงานขับรถทุกคนของบริษัทฯ เข้ารับการอบรมด้านความปลอดภัยในการขับรถกับกรมการขนส่งทางบก พร้อมเปรียบเทียบปรับฐานฝ่าฝืนข้อกำหนดในกฎกระทรวงว่าด้วยความปลอดภัยในอัตราโทษสูงสุดเป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท ด้านพนักงานขับรถ คือ นายจรัญ อักษรศรี สั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที มีผลตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2560 เป็นต้นไป

สำหรับการคุ้มครองผู้โดยสารและช่วยเหลือเยียวยาญาติผู้เสียชีวิตนั้น ผู้ประกอบการขนส่งได้ทำประกันภัยภาคบังคับตามพ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ 300,000 บาท และประกันอุบัติเหตุภาคสมัครใจเพิ่มเติมกับบริษัท แอลเอ็มจี ประกันภัย จำกัด (มหาชน) 100,000 บาท ซึ่งเบื้องต้นญาติผู้เสียชีวิตจะได้รับการคุ้มครองทันที 400,000 บาทต่อราย และหากผลคดีถึงที่สุดผู้ประกอบการขนส่งมีความผิดจริงจะได้รับการคุ้มครองเพิ่มอีก 500,000 บาทต่อราย
ขณะที่ บริษัท อาร์.แอล. เซอร์วิส จำกัด ได้มอบหมายให้ นายมานิต ศรีทอง ทนายความเป็นผู้แทนเข้าร่วมแถลงกล่าวแสดงความเสียใจและขอโทษญาติผู้เสียชีวิต
ทางด้าน นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าว กรมการขนส่งทางบกขอแสดงความเสียใจกับญาติของผู้เสียชีวิต และยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุดทุกกรณี โดยหากพบว่าเป็นความผิดจริง ดำเนินการตามกฎหมายขั้นสูงสุดทุกกรณี ทั้งพนักงานขับรถและผู้ประกอบการขนส่ง พร้อมรวบรวมข้อมูลทั้งหมดจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางเพิ่มเติมทั้งระยะเร่งด่วนและระยะยาว เพื่อป้องกันอุบัติเหตุร้ายแรง