เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (1 พ.ย.2560) รัฐบาลทดสอบและเตรียมความพร้อมการเปิดให้ประชาชนเข้าชมพระเมรุมาศ อาคารประกอบและนิทรรศการ หลังพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ โดยแบ่งเป็นให้ถ่ายภาพที่ระลึก 15 นาที บริเวณถนนเส้นกลางทางเข้าพระเมรุมาศ ซึ่งจะเห็นภาพแปลงนาเลขเก้าไทย และภาพภูมิทัศน์ส่วนต่างๆ ของพระเมรุมาศในมุมกว้าง 15 นาที จากนั้นให้เข้าชมพื้นที่ด้านใน 45 นาที อย่างอิสระ ในส่วนของพระเมรุมาศ เปิดให้ขึ้นลงได้ 2 ด้าน และภายในพระที่นั่งทรงธรรม ซึ่งจัดแสดงพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ รวมถึงยังมีภาพจิตรกรรมโครงการในพระราชดำริให้ชมทั้ง 3 ด้าน ซึ้งภายในนิทรรศการ ประกอบด้วย
1.นิทรรศการพระเมรุมาศ และสิ่งปลูกสร้างบริเวณพระที่นั่งทรงธรรม จุดนี้จะมีนิทรรศการพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และจิตรกรรมฝาผนังโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ชื่อ “พระผู้ทรงเป็นนิรันดร์”
2. บริเวณศาลาลูกขุน เป็นนิทรรศการพระเมรุมาศและสิ่งปลูกสร้าง ประกอบด้วย
- งานบูรณะปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ
- บริเวณทับเกษตร
- นำสัมผัสพระสุเมรุ ซึ่งจุดนี้จะเป็นนิทรรศการสัมผัสเพื่อผู้พิการทางสายตาเพื่อให้ผู้พิการได้มีโอกาสสัมผัสของจริงแทนการมองด้วยตา ส่วนผู้พิการทางการได้ยินมีจิตอาสานำชมด้วยภาษามือ
- ภูมิทัศน์บริเวณด้านหน้าพระเมรุมาศ ที่แสดงให้เห็นถึงพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ 9 อันเนื่องมาจากโครงการพระราชดำริ เช่น พันธุ์ข้าวพระราชทาน หญ้าแฝก ต้นยางนา มะม่วงมหาชนก กังหันชัยพัฒนา ฝายน้ำล้น ส่วนนาข้าวจะมีขอบคันนาออกแบบเชิงเป็นเลขเก้าไทย
ทั้งนี้ จะเปิดให้ประชาชนเข้าชมระหว่างวันที่ 2-30 พ.ย. ในเวลา 07.00-22.00 น. ของทุกวัน รอบละ 5,500 คน และใช้เวลารอบละ 45 นาที - 1 ชั่วโมง คาดว่าแต่ละวันจะมีผู้เข้าชม 100,000 คน ซึ่งผู้ที่เข้ามาชมจะต้องแต่งกายด้วยชุดสุภาพเรียบร้อย พกบัตรประจำตัวประชาชนและต้องผ่านจุดคัดกรอง 5 จุด ประกอบด้วยบริเวณหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ บริเวณท่าช้าง บริเวณหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และบริเวณด้านหลังกระทรวงกลาโหม