ไขข้อข้องใจ ฝนตกน้ำท่วมขับรถลุยน้ำ ก่อน-หลังทำยังไง..?

22 ตุลาคม 2560, 14:46น.


     ช่วงนี้ฝนตกเกือบจะทุกวัน ทำให้ช่วงเวลาดังกล่าวในหลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมขังบนถนนหลายเส้นทาง ผู้ใช้รถใช้ถนนอาจจะมีคำถามที่ค้างคาใจหลายต่อหลายคนและอยากได้คำตอบ ดังเช่น.."น้ำท่วมถนน รถเราจะขับลุยน้ำได้ลึกแค่ไหน?..เครื่องยนต์จะดับไหม?..รถจะพังเสียหายมากแค่ไหน?..ช่วงฤดูฝนต้องเตรียมรถ เตรียมตัวอย่างไร?" คำถามเหล่านี้เรามีคำตอบให้คุณ




เนื่องจาก คนไทย ส่วนใหญ่ไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆ ผมพยายามจะเขียนสั้นๆ จากคำถามยอดฮิตต่างๆเป็นข้อเสนอแนะ-ถามตอบ ดังนี้ครับ

1) ถาม : "รถที่เราขับใช้นั้น ขับลุยน้ำได้ลึก(หรือว่าระดับน้ำสูง) ได้แค่ไหน?"

ตอบ : รถยนต์ไม่ใช่เรือ ไม่สามารถป้องกันน้ำเข้าในตัวรถได้ ดังนั้นรถทุกคันในโลกสามารถลุยน้ำได้ลึกหรือว่าสูงระดับดุมล้อรถ โดยเครื่องยนต์ไม่ดับและรถจะเสียหายน้อยที่สุด




2) ถาม : "เวลาขับรถลุยน้ำ เครื่องยนต์จะดับ และพังเสียหายเพราะอะไร?"

ตอบ : เครื่องยนต์ดับเพราะ??

- น้ำเข้าเครื่องยนต์ (โดยผ่านไส้กรองอากาศ หรือข้อต่องวงช้างไส้กรองอากาศ เข้าไปทางท่อไอดีสู่ห้องเผาไหม้ภายในเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์สำลักน้ำ *อาการเดียวกับที่น้ำเข้าจมูก ลงทางเดินหายใจในตัวมนุษย์เรานั่นเอง) 

- ระบบไฟในตัวรถยนต์เปียกน้ำ ทำให้เกิดไฟช้อต และที่เสียหายมากคือ น้ำเข้าท่วมกล่องควบคุม(ECU)เครื่องยนต์ และระบบต่างๆของตัวรถยนต์

- น้ำเข้าก้านวัดระดับน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ เมื่อน้ำเข้าไปผสมกับน้ำมันหล่อลื่นฯก็จะกลายสภาพเป็นดั่งโคลน ทำให้ชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์เสียหายมาก (รวมทั้งก้านวัดระดับน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ และเกียร์อัตโนมัติ ด้วย)

- น้ำเข้าท่อหายใจของเครื่องยนต์(ท่อไอดี) มีผลทำให้ หัวฉีดเชื้อเพลิง(Fuel Injection) พังทั้งระบบ




3) ถาม : "น้ำท่วมเข้าท่อไอเสีย เครื่องยนต์จะดับไหม?"

ตอบ : ไม่ดับครับ เพราะแรงดันไอเสียจะเป่าน้ำออก น้ำเข้าได้อย่างมากแค่ท่อพักไอเสีย




4) ถาม : "ถ้าลุยน้ำแล้วเครื่องยนต์ดับ จะทำอย่างไร?"

ตอบ :

- พยายามสตาร์ทเครื่องยนต์(เพียงครั้งเดียว)โดยไม่ต้องเหยียบคันเร่งน้ำมันฯ (ป้องกันความเสียหายลุกลาม)

- เข็นเคลื่อนย้ายรถไปบนที่แห้งหรือที่สูง ให้พ้นจากน้ำท่วม หรือที่ลาดเอียงได้ยิ่งดี(เพื่อเทน้ำออกจากตัวรถ)

- ยกรถเข้าอู่/ศูนย์บริการ


วิธีเหล่านี้จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้รถเสียหายแล้วต้องมานั่งจ่ายค่าซ่อมแพงๆ




5) ถาม : "ช่วงฤดูฝน เตรียมรถและเตรียมตัวอย่างไร?"

ตอบ : 

- จัดซื้อ สายลากจูง สายพ่วงแบตเตอรี่ และ ไฟฉาย(พร้อมถ่านไฟ) ติดท้ายรถไว้ เผื่อเป็นเครื่องมือให้คนมาช่วย

- พยายามเติมน้ำมัน "เต็มถัง" ไว้ทุกวัน (เผื่อการจราจรติดขัดเนิ่นนาน)

- ตรวจเติมน้ำกลั่นแบตเตอรี่ และชาร์จไฟให้เต็มในวันหยุด (เพราะรถจะใช้ไฟมากขณะฝนตกรถติดขัด เพราะเราเปิดใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าในรถยนต์หลายอย่างพร้อมกัน เช่น ไฟหน้า ที่ปัดน้ำฝน แอร์ วิทยุ ฯลฯ)

- ซื้อหรือนำอุปกรณ์ที่สามารถถ่ายปัสสาวะในรถได้ ขณะรถติดขัด




6) ถาม : "รถจมน้ำท่วม ประกันจะชดใช้ค่าเสียหาย ค่าซ่อมหรือไม่?"

ตอบ : แล้วแต่ละประเภทกรมธรรม์-การคุ้มครอง ควรตรวจดูเอกสารกรมธรรม์ที่เราทำครับ




7) ถาม : "ทำไมต้องเอารถเข้าอู่ เข้าศูนย์บริการ หลังน้ำท่วมหรือฤดูฝน?"

ตอบ : เพื่อตรวจเช็ค และเปลี่ยนถ่ายของเหลวต่างๆใหม่ เพราะน้ำเข้า (โลหะเมื่อร้อนจะขยายตัว..เมื่อโดนความเย็นจากน้ำจะหดตัวทันที และหดตัวไม่เท่ากัน ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนโลหะกับโลหะ น้ำจึงซึมแทรกเข้าไปได้)


ขอบคุณเรื่องราวดีๆ จากคุณพีระพงษ์ กลั่นกรอง


(กูรูเรื่องรถยนต์ : อดีตนายสนามพีระอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต)
X