ภาพความเสียหายจากอุทกภัยที่ปรากฎตามหน้าข่าวเป็นอันต้นๆ มักเป็นภาพรถยนต์ที่น้ำท่วมครึ่งคันไปจนถึงมิดหลังคา นับเป็นภาพบาดตาบาดใจคนรักรถยิ่งนัก ยิ่งหากเป็นเจ้าของรถแล้วถือเป็นในร้ายเลยก็ว่าได้ เพราะอาจหมายถึงเงินแสนเงินล้านที่ต้องสูญไปในพริบตา เคยสงสัยไหมว่า "กรณีน้ำท่วมรถ ประกันภัยจะรับผิดชอบหรือไม่ รับผิดชอบแค่ไหน ซ่อมหรือเปลี่ยนคัน?"
นายจรัญ สอนสวัสดิ์ ผู้ช่วยเลขาธิการสายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า กรณีรถที่น้ำท่วมต้องดูในเงื่อนไขการทำประกันภัยของแต่ละคัน หากผู้ใช้รถทำประกันชั้น1 จะมีเงื่อนไขครอบคลุมทันที แต่ถ้าเป็นประกันชั้นอื่นๆ ต้องดูว่าได้ซื้อประกันความเสียหายน้ำท่วมเพิ่มไว้ด้วยหรือไม่ ซึ่งกรณีการประกันรถน้ำท่วม หมายถึงน้ำท่วมรถทุกกรณีตั้งแต่น้ำท่วมจากฝนตกหนัก ไปจนถึงน้ำป่าไหลหลากเป็นอุทกภัยใหญ่
สำหรับการชดเชย ต้องดูความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง ว่ารถคันดังกล่าวเสียหายมากน้อยขนาดไหน หากซ่อมแล้วต้องใช้งานได้เหมือนเดิม แต่หากประเมินค่าซ่อมแล้วสูงเกินกว่าร้อย70 ของมูลค่ารถ ก็สามารถรับเงินทุนประกันเต็มจำนวนที่ทำไว้ได้ เช่นเดียวกับกรณีรถที่เสียหายทั้งคันจนค่าซ่อมอาจเกินทุนประกัน ทั้งนี้ปัจจุบันจะมีอู่ซ่อมกลางที่สามารถประเมินความเสียหายให้ได้ ป้องกันข้อขัดแย้งระหว่างบริษัทประกันภัยและผู้ทำประกันภัย
อย่างไรก็ตาม หากมีข้อสอบถามสามารถคิดต่อสายด่วน คปภ. 1186 ได้ตลอด 24 ชม. โดยหากต้องการติดต่อพื้นที่ใดเป็นพิเศษก็สามารถโอนสายตรงไปได้เช่นกัน
ภาพจาก Adm Usaman By Rayong