ดต.ชัยวัฒน์ เจริญเสถียรบดี ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวงวงแหวนตะวันออก เปิดเผยว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 10:30 ที่ผ่านมา รถยนต์สายตรวจของตร.ทางหลวง พบรถปิคอัพ สีแดงบรรทุกตู้เย็น รถจยย. และเศษยางรถยนต์ ขับด้วยความเร็วบนถ.กาญจนาภิเษก ขาออก ช่วงคลองหลวงไปบางปะอิน ที่กม.6 จนท.จึงเรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบ แต่รถดังกล่าวไม่หยุด กลับเร่งความเร็วรถหลบหนี จนท.ตร.จึงขับแซงและไปดักที่กม.3 เพื่อหยุดรถ แต่คนขับก็ยังไม่หยุด โดยมีพยานเห็นคนร้ายและหยิบสิ่งของคล้ายอาวุธปืนขึ้นมาข่มขู่รถคันอื่นให้หลบทาง จนผ่านรถตำรวจไปได้ จากนั้นจึงเสียหลักชนเข้ากับรถกระบะ ที่ทางต่างระดับบางปะอิน และขับหลบหนีต่อ ไปจนพบด่านตำรวจ ที่กม.0 คนร้ายก็ขับรถพุ่งชน จนท.ตร.อีกครั้ง แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากนั้นก็ขับรถหลบหนีต่อด้วยความเร็ว พุ่งชนรถอีกหลายคันตลอดทางที่หลบหนี จนกระทั่งเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทาง หน้า บริษัทมินิแบร์ ถ.พหลโยธิน ที่กม.50 อ.บางปะอิน ก่อนเปิดประตูรถวิ่งหลบหนีเข้าป่าข้างทางซ่อนตัว ขณะนี้ตร.ทางหลวง และตร.พื้นที่หลายสิบนาย กำลังปิดพื้นที่ล้อมจับแล้ว
เวลา 13:30 น. รตอ.ชัยยะ นาคกลิ่นกุล รองสารวัตรสอบสวน สภ.พระอินทร์ราชา ได้เปิดเผยว่าจากการปิดล้อมพื้นที่ป่ากกที่คาดว่าคนร้ายจะหลบซ่อนตัว ยังไม่พบตัวคนร้าย และขณะนี้ได้ตรวจสอบรถคันที่คนร้ายใช้อย่างละเอียดแล้ว เป็นรถปิคอัพ โตโยต้า ทะเบียน บน-3835 สระบุรี กระบะหลังบรรทุกที่นอนและจยย.1คัน ตรวจสอบในรถไม่พบสิ่งของผิดกฏหมาย จนท.ตร.ติดต่อเจ้าของรถที่ครอบครองทราบว่าได้ให้น้องชายยืมใช้ และทราบว่าน้องชายได้ให้เพื่อนยืมต่ออีกที ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าผู้ขับขี่ชื่ออะไร ในที่เกิดเหตุรถชนเสาไฟฟ้าที่โคนจนขาด ทำให้เสาเอียง ด้านหน้ารถเสียหาย ด้านข้างมีรอยเบียดกระแทก ส่วนรถที่ได้รับความเสียหายถูกชนระหว่างปิคอัพคันนี้ขับหลบหนีมีทั้งหมด 5 คัน คือรถทัวร์โดยสาร รถฟอร์จูนเนอร์ รถแท็กซี่ และรถปิคอัพอีก 2 คัน ทุกคันไม่มีผู้บาดเจ็บ
(Cr. พ่อน้องแพร ท.ม 38-38 ,Kharom Ruangcham)