จราจร
ของหายได้คืน
POST & SHARE
จราจร
ของหาย
ได้คืน
POST &
SHARE
2723
Tweet
https://www.js100.com/en/site/post_share/view/40823
COPY
10 ข้อควรรู้ ขับขี่ปลอดภัยหน้าฝน
2723
Tweet
https://www.js100.com/en/site/post_share/view/40823
COPY
20 พฤษภาคม 2560, 15:53น.
หน้าฝนเป็นปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่มีส่วนทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน เพราะฝนที่ตกลงมาทำให้ถนนลื่นอันเป็นเหตุให้ระยะในการหยุดรถยาวกว่าปกติอีกทั้งยังลดทัศนวิสัยการมองเห็นของผู้ขับขี่ ปัจจัยเหล่านี้เป็นปัจจัยภายนอกที่เราในฐานะผู้ขับขี่ควบคุมไม่ได้ หากแต่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษและที่สำคัญที่สุดคือต้องปรับวิธีการขับขี่วันนี้ทาง JS100 จึงขอแนะนำวิธีปฏิบัติและเทคนิคการขับขี่ในหน้าฝนอย่างปลอดภัยดังนี้
1.ตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียดก่อนออกเดินทาง เบรก พวงมาลัย ระดับของเหลวต่างๆ ปริมาณลมยาง และระบบไล่ฝ้าควรได้รับการตรวจสอบว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานสำหรับการเดินทาง ที่อาจต้องพบกับฝนที่ตกหนักระหว่างทาง
2.เตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินที่มีคุณภาพดีให้พร้อม การเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดหมายเอาไว้ล่วงหน้าจะช่วยลดค่าใช้จ่าย จากการใช้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน และช่วยลดความตึงเครียดหากรถเสียระหว่างการเดินทาง อุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ ควรตอบสนองต่อความต้องการของผู้ขับขี่แต่ละคน ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วควรประกอบไปด้วย ยางอะไหล่ ไฟฉาย ฟิวส์ ที่สูบลม น้ำสะอาด อุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และป้ายสัญญาณขอความช่วยเหลือที่มองเห็นเด่นชัด
3.ตรวจสอบที่ปัดน้ำฝนให้อยู่ในสภาพดีและพร้อมใช้งาน หากใบปัดน้ำฝนเสื่อมสภาพหรือชำรุด ควรเปลี่ยนใหม่ทันทีเพื่อทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดีในขณะฝนตก
4.ขับอย่างระมัดระวัง! ใส่ใจในการขับขี่และรักษาระดับความเร็วให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอยู่เสมอ การขับรถด้วยความเร็วสูงเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่น้ำฝนอาจก่อตัวเป็นแผ่นน้ำบางๆ คั่นกลางระหว่างล้อและถนน ทำให้ความสามารถในการยึดเกาะถนนลดลง ผู้ขับขี่จึงควบคุมรถได้ยากขึ้น
5.เปิดไฟหน้ารถขณะฝนตก เมื่อต้องขับรถในขณะฝนตกให้เปิดไฟหน้ารถเสมอ เพราะนอกจากจะช่วยให้มองเห็นสิ่งต่างๆ บนถนนได้ชัดเจนขึ้นแล้ว ยังช่วยให้รถคันอื่นมองเห็นรถผู้ขับได้จากระยะไกลด้วย
6.หลีกเลี่ยงการเหยียบเบรกแรงๆ หรือการเบรกกระทันหัน การค่อยๆ ทิ้งน้ำหนักเหยียบเบรกเพื่อชะลอความเร็วลงนับว่าเป็นวิธีการขับขี่ที่เหมาะ สมที่สุด เพราะหากเหยียบเบรกอย่างรุนแรง รถอาจลื่นไถลได้
7.ขับรถอย่างมีสติและเว้นระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันข้างหน้า ในยามที่ถนนเปียกจะต้องใช้เวลาและระยะทางในการเบรกเพิ่มขึ้น เมื่อประสบกับสถานการณ์ฉุกเฉิน การขับรถด้วยความระมัดระวังและไม่ขับตามหลังรถโดยสารขนาดใหญ่หรือรถบรรทุกจะ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้น เพราะล้อด้านหลังของรถขนาดใหญ่มักจะปัดละอองน้ำมาใส่รถคันข้างหลัง จนอาจทำให้เสียทัศนวิสัยในการขับขี่ได้
8.หลีกเลี่ยงแอ่งน้ำลึก ผู้ขับรถไม่มีทางทราบได้เลยว่าภายใต้ผิวน้ำนั้นมีสภาพเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าหากขับลงไปยังแอ่งน้ำด้วยความเร็วสูง กันชนหน้าและหม้อน้ำอาจจะถูกกระแทกจนได้รับความเสียหายร้ายแรง หรือถ้าคลื่นน้ำซัดเข้ามาในห้องเครื่องก็อาจจะทำให้เครื่องยนต์ดับได้
9.ตื่นตัวกับสัญญาญเตือนให้หยุดรถหรืออุปสรรคที่ขวางอยู่บนถนน หากพบว่าถนนข้างหน้ามีน้ำท่วมขัง พยายามอย่าขับรถฝ่าไป โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคย ให้มองหาเส้นทางใหม่ที่ปลอดภัยกว่า
10.ขับช้าๆ เมื่อต้องฝ่าน้ำท่วม หากจำเป็นต้องขับฝ่าน้ำที่ท่วมขังบนพื้นถนน ให้ขับไปอย่างช้าๆ อย่าขับรถฝ่าน้ำที่กำลังไหลอยู่ หรือหากไม่ทราบว่าแอ่งน้ำนั้นลึกขนาดไหน ควรหยุดรถก่อนที่จะถึงบริเวณน้ำท่วมและตรวจสอบความลึกของน้ำ ซึ่งโดยทั่วไป ถ้าระดับน้ำสูงกว่าขอบประตูรถหรือสูงกว่า 1 ใน 3 ของล้อเมื่อวัดจากพื้นถนน ไม่ควรขับฝ่าไปอย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ไม่ว่าสภาพแวดล้อมจะเป็นอย่างไร ในฐานะผู้ขับขี่ควรขับอย่างระมัดระวัง ไม่ประมาท ไม่ดื่ม เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และเพื่อความปลอดภัยของคุณและผู้อื่น แล้วอย่างลืมมีน้ำใจต่อผู้ใช้รถใช้ถนนด้วยกันด้วยนะคะ
เนื้อหา : ภคมน แสงวิสุทธิ์สิงห์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา 'พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนักบริเวณภาคใต้' ฉบับที่ 7
10 พฤษภาคม 2568, 23:03น.
...
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา 'พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนักบริเวณภาคใต้' ฉบับที่ 6
10 พฤษภาคม 2568, 12:55น.
...
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา 'พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนักบริเวณภาคใต้' ฉบับที่ 5
09 พฤษภาคม 2568, 22:03น.
...
ข่าวทั้งหมด
X