ไฟไหม้นานกว่า 30 ชม.! ล่าสุดควบคุมได้แล้ว อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ซ.ประชาอุทิศฝั่งธน27 เฝ้าระวังอาคารทรุด

30 เมษายน 2560, 18:33น.

Flash News

  จากกรณีเหตุเพลิงไหม้ อาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ภายในซ.ประชาอุทิศฝั่งธน 27 แยก3-5 เขตราษฎร์บูรณะ ตั้งแต่วานนี้ 29 เม.ย. 2560 ช่วงเช้าเวลาประมาณ 07:00 น. เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เข้าควบคุมฉีดน้ำจนเพลิงสงบ ก่อนจะกลับมาคุอีกครั้งเป็นระยะ และมีแสงเพลิงอีกครั้งในวันนี้ 30 เม.ย. 2560 ช่วงเช้ามืดเวลาประมาณ 03:00 น. ซึ่งต้องระดมรถดับเพลิงเข้าควบคุมตลอดทั้งวัน






  ล่าสุด 18:00 น. พ.ต.อ.เทวานุวัฒน์ อนิรุทธเทวา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว แต่ยังมีควันสีขาวออกมาเล็กน้อยเป็นระยะ ขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่เดินเข้าไปในอาคารเพื่อใช้ถังดับเพลิงฉีดวัตถุที่อาจจะติดไฟได้อีก อาคารดังกล่าวสูง 4 ชั้น มีลักษณะเป็นอาคารเชื่อมต่อหน้าหลัง ระหว่างแยก3 และแยก5 ภายในเก็บเครื่องดนตรีจำนวนมากที่สามารถเป็นเชื้อเพลิงได้ หลังจากนี้ในขั้นตอนการดับถ่านคาดว่าจะใช้เวลาอีก 2-3 ชม.




  ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดตามมาตรฐานแล้ว ทั้งการเข้าถึงที่เกิดเหตุภายในเวลา 10 นาที การเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือในการดับเพลิง ตลอดจนไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ แต่เนื่องจากภายในอาคารมีพื้นที่กว้างและกั้นเป็นฉากแบ่งห้องจำนวนมาก ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการดับเพลิง ทำให้การฉีดน้ำและโฟมจำนวนกว่า 100 ถัง ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงได้โดยตรง ต้องฉีดน้ำผสมโฟมดับเพลิงในลักษณะละอองเป็นเวลานาน แม้จะใช้เวลาควบคุมเพลิงกว่า 30 ชม. นานเป็นลำดับต้นๆในรอบ 10 ปี แต่ยังถือว่าเป็นเพลิงไหม้ระดับ1 ที่ท้องถิ่นสามารถบริหารจัดการได้ โดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากพื้นที่อื่น




  ขณะที่ นายพานุรักษ์ กลั่นนุรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ เปิดเผยว่าอาคารดังกล่าวที่ได้รับอนุญาตถูกต้องตั้งแต่ปี 2532  เป็นอาคาร 5 หลังติดกัน แยกเป็น 2 ชุด หันหน้าเข้าแยก3 จำนวน 2 หลัง ส่วนอีก 3หลัง หันหน้าออกแยก5 หลังจากนี้ต้องไปพิจารณาข้อกฏหมายในปีดังกล่าวอีกครั้งว่ามีการขออนุญาตต่อเติมเปลี่ยนแปลงอาคารถูกต้องหรือไม่ และต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมว่า อาคารดังกล่าวเป็นที่พักอาศัย จะสามารถเก็บสิ่งของได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ทั้งนี้หากเหตุการณ์สงบแล้ว เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน ฝ่ายวิศวกรรม และสำนักงานเขตจะเข้าตรวจพื้นที่ เพื่อดูความเสียหายของอาคาร ว่าสามารถยังสามารถซ่อมแซมได้หรือไม่ หากไม่ได้ก็ต้องมีการรื้อถอนต่อไป





 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

X