นายณันทพงศ์ เชิดชู เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกอยู่ระหว่างเสนอร่างกฎหมายการจดทะเบียน "TAXI VIP" หรือรถแท็กซี่ที่มีขนาดรถใหญ่ขึ้น ใช้รถที่มีสมรรถภาพที่ดีเยี่ยม เพื่อตอบโจทย์การให้บริการกลุ่มผู้โดยสารที่ต้องการใช้บริการรถแท็กซี่ที่มีระดับมากขึ้น ซึ่งโครงสร้างอัตราค่าบริการก็ต้องสูงขึ้นตาม โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของกระทรวงคมนาคม คาดว่าจะสามารถประกาศใช้ได้ในอีก 2 เดือนข้างหน้า ขณะเดียวกันกรมการขนส่งทางบกยังอยู่ระหว่างการพัฒนาแอปพลิเคชั่นใหม่ที่จะสามารถเรียกรถแท็กซี่ได้ เพื่อเป็นอำนวนความสะพวดแก่ผู้โดยสาร และช่วยให้รถแท็กซี่ทั่วไปที่อาจจะไม่ได้เป็นเครือข่ายผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่นอื่นๆ เช่น GRAB TAXI สามารถเข้าถึงผู้โดยสารยุคใหม่ได้เช่นกัน
.jpg)
.jpg)
สำหรับปัญหาผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่น UBER เปิดให้ผู้ขับรถทั่วไปนำรถส่วนบุคคลมาใช้รับส่งผู้โดยสารที่เรียกรถผ่านแอปนั้น รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ยืนยันผู้ขับรถจะมีความผิดตามกฎหมายอย่างแน่นอน ในข้อหาใช้รถผิดประเภท นำรถส่วนบุคคลมาให้บริการเป็นสาธารณะ มีโทษปรับ 2,000 บาท และหากไม่มีใบอนุญาตขับรถสาธารณะจะมีโทษปรับอีก 1,000 บาท โดยกรมการขนส่งทางบก ยืนยันสนับสนุนการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ แต่ต้องใช้รถสาธารณะในการบริการให้ถูกต้องเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารเอง หากเกิดเหตุร้ายขึ้นมาเจ้าหน้าที่ก็จะตรวจสอบได้
.jpg)
.jpg)
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตัวแทนผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่น UBER เคยเข้ามาหารือกับกรมการขนส่งทางบก ขอให้มีการแก้ไขกฎหมายให้มีสอดคล้องกับการให้บริการ "Car Sharing" เหมือนในต่างประเทศ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกยืนยันไม่สามารถทำได้ อีกทั้งบริบทของต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา มีความแตกต่างกับประเทศไทย โดยเฉพาะขนาดเมืองที่มีพื้นที่กว้างขวางกว่าประเทศไทยมาก จำนวณรถสาธารณะอาจไม่ครอบคลุม ตรงข้ามกับในประเทศไทยที่ปัจจุบันมีรถแท็กซี่จดทะเบียนแล้วกว่า 110,000 คัน ส่วนกรณีที่ UBER ยังคงเดินหน้าโฆษณาการให้บริการผ่านทางสื่อช่องต่างๆ กรมการขนส่งทางบก ได้ทยอยทำหนังสือชี้แจงการให้บริการที่ขัดต่อกฎหมายให้สื่อต่างๆทราบแล้ว เพื่อใช้วิจารณญาณในการสนับสนุนหรือไม่ต่อไป
อภิสุข เวทยวิศิษฏ์