ในยุคที่สื่ออินเตอร์เน็ต เข้ามามีบทบาทกับผู้คน ทำให้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน เพียงแค่คุณมีอินเตอร์เน็ตเท่านั้นคุณก็จะสามาถเข้าถึงสื่อบันเทิงเหล่านี้ได้ทันที ซึ่งความสะดวก-รวดเร็วเหล่านี้ ก็เป็นเหมือนดาบสองคม คือ การแพร่ระบาด ของสื่อละเมิดลิขสิทธิ์ เช่น เทปผี-ซีดีเถื่อน และ mp3 ซึ่งมีขายทั่วไปตามแหล่งชุมชน สถานที่โจ่งแจ้ง หรือในโลกอินเตอร์เน็ต เว็บไซต์ผิดกฏหมาย ที่เกิดจากกลุ่มคนผู้ไม่ประสงค์ดี ทำกันเป็นขบวนการ ยากที่จะกวาดล้างให้หมดสิ้น สิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อวงการเพลงไทยเป็นอย่างมาก ทำให้ศิลปิน และนักคิดสร้างสรรค์เริ่มหมดกำลังใจ ไม่มีแรงจูงใจ ธุรกิจบันเทิง-ค่ายเพลงที่เริ่มจะล้มหายตายจากไป
ต่อมา มีการคิดค้น โมเดลเพื่อแก้ปัญหา การละเมิดลิขสิทธิ์ คือ การนำช่องทางการซื้อเพลงแบบ “ดิจิทัล” และการเข้ามามีบทบาทของ"ร้านค้าเพลงออนไลน์" เช่น iTunes ,Google play , Amazon ที่จะทำให้ผู้ฟังสามารถซื้อเพลงผ่านอุปกรณ์มือถือ หรือสมาร์ทโฟนได้อย่างสะดวกสบาย เข้าถึงได้ง่าย ด้วยคุณภาพเสียงที่คมชัด มีความละเอียดสูง เทียบเท่าแผ่นซีดี ทำให้ผู้บริโภคหันมาซื้อเพลงแบบถูกลิขสิทธิ์ แทนที่จะไปโหลดตามเว็บเถื่อน หรือซื้อแผ่นผี-ซีดีเถื่อน
ถึงแม้ว่า "Digital Download" จะเข้ามามีบทบาทในการแก้ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ เพราะปัญหาเหล่านี้ก็ยังไม่หมดไป ยังมีคนที่ฟังเพลงแบบผิดกฏหมาย ในเว็บไซด์ Youtube จึงได้มีการนำระบบสตรีมมิ่ง "Streaming" คือ การฟังเพลงแบบเหมาจ่าย หรือการเช่าคอนเทนต์(Content) ฟังเท่าไหร่ก็ได้ มีทั้งแบบรายปี และรายเดือน
Apple Music คือ บริการฟังเพลงแบบสตรีมมิ่ง จากแอปเปิ้ล ที่รวบรวมเพลงชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลก สามารถโหลดมาฟังแบบออฟไลน์ได้ โดยจะมีการเรียนเก็บค่าสมาชิก คือ แบบรายบุคคล 129บาท/เดือน และแบบ Family Sharing 199บาท/เดือน ฟังสูงสุดได้ 6คน นอกจากนี้ยังมีการนำช่องทางการติดตามศิลปิน และบริการคลื่นวิทยุ Beat1 ที่จะทำให้ผู้ฟังได้ทราบข่าวสารได้อย่างสะดวกรวดเร็ว หากชอบก็สามารถซื้อเพลงผ่าน iTunes เป็นร้านค้าเพลงออนไลน์ของแอปเปิ้ลได้อีกด้วย ปัจจุบันมีให้ดาวน์โหลด เฉพาะระบบ iOS เท่านั้น
Spotify เป็นอีกหนึ่งบริการฟังเพลงที่ได้รับความนิยมสูง มีแนวเพลงที่หลากหลาย โดยจะเน้นไปที่เพลงต่างประเทศ และมีเพลงไทยอยู่ด้วย จุดเด่น คือ รองรับได้หลาย Platform (มากกว่า Apple Music) นอกจากนี้ยัง มีการจัดลำดับเพลง ,มีการใหับริการวิทยุ , มีฟีเจอร์ Running สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย ปัจจุบันยังไม่ได้เปิดใช้อย่างเป็นทางการในไทย ดังนั้นจึงสมัครแบบปกติไม่ได้นั่นเอง ต้องเชื่อม VPN เข้า US หรือ Malaysia เพื่อสมัครบริการ คาดว่าในอนาคตจะมีในประเทศไทยแน่นอน
JOOX Music คือ บริการฟังเพลงออนไลน์แบบสตรีมมิ่ง จาก Tencent เจ้าของเดียวกับ WeChat และ Sanook ในรูปแบบของแอพลิเคชั่น มีทั้งแบบ"ฟรี" แบบมีโฆษณา ซึ่งเป็นจุดเด่นของ Joox และแบบเสียเงิน หรือ"VIP" ฟังเพลงแบบไม่มีโฆษณา โดยมีค่าสมาชิกอยู่ที่ 129บาท/เดือน และรายปี 1,099 บาท คุณสามารถโหลดเพลงมาฟังแบบออฟไลน์ได้ และจะมีเนื้อเพลงให้ด้วยสำหรับบางเพลง
Line Music บริการฟังเพลงแบบ Streaming ที่เข้ามาเจาะตลาดในไทยอย่างจริงจัง โดยมีค่ายเพลงพันธิมิตร เช่น RS, Spicy Disc, BEC Tero และอื่นๆ โดยจะเน้นเพลงไทยเป็นหลัก ส่วนเพลงสากลยังมีน้อย จุดเด่น คือ การผูกกับแอพพลิเคชั่น LINE ทำให้ผู้ใช้เข้าถึงได้ง่าย นอกจากคุณยังสามารถฟังเพลงแบบ Exclusive 7วัน ก่อนช่องทางอื่นๆ โดยจะมีค่าสมาชิกอยู่ที่ 60 บาท ซึ่งถือว่ามีราคาถูก และคุ้มค่ามากๆ
โลกนี้กำลังเข้ายุคของการฟังเพลงแบบสตรีมมิ่ง (Stearming) และมีผู้ให้บริการลักษณะนี้เป็นจำนวนมาก ผู้ฟังสามารถเลือกบริการได้หลากหลาย ในราคาที่ประหยัด ศิลปินก็ได้เงิน หากชอบก็สามารถซื้อได้ทันที
ปัจจุบัน มีผู้บริโภค หรือคนฟังเพลงจำนวนมาก เริ่มหันมาซื้อ และฟังแบบถูกกฏหมาย อีกทั้งยังเป็นผลดีกับ สื่ออนาล็อคอย่าง CD และ แผ่นเสียง(vinyl) เริ่มกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในต่างประเทศ และจะมีโค้ดแบบดิจิทัลดาวน์โหลดแถมมาให้ด้วย ค่ายเพลงเล็กๆเริ่มมีช่องทางในการเจริญเติบโตมากกว่าสมัยก่อน ผู้เขียนเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบ การฟังเพลงแบบถูกลิขสิทธิ์ คือการซื้อเพลง เพื่อสนับสนุนศิลปินที่เรารัก และสมัครบริการสตรีมมิ่ง "Streaming" เพื่อการฟังเพลงที่หลากหลาย อย่างถูกลิขสิทธิ์ เพราะว่า “ผลงาน” หรือ”เพลง” ที่เราฟังกันอยู่ทุกวันนี้ ย่อมเกิดจากการทำงาน ของศิลปิน พวกเขาก็ต้องทำงานอย่างหนัก การจ่ายเงิน-สนับสนุนศิลปิน...การฟังเพลงแบบถูกลิขสิทธิ์ , การออกไปพบปะสังสรรค์ กับศิลปินที่คุณรัก ตามงานดนตรีต่างๆ เพื่อลดการละเมิดลิขสิทธิ์-ทรัพย์สินทางปัญญาให้หมดไป สิ่งเหล่าจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้ประเทศชาติพัฒนาด้วยเช่นกัน
เรียบเรียงโดย : พัดโบก วังแก้ว
(ภาพจาก : independent .co.uk , softonic.com, Apple)