!-- AdAsia Headcode -->

จากวันนั้น....ถึงวันนี้

27 มิถุนายน 2557, 11:45น.

A PHP Error was encountered

Severity: Notice

Message: Undefined offset: 50

Filename: post_share/detail.php

Line Number: 278


จากวันที่22พ.ค.57 วันที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เข้าควบคุมอำนาจการปกครอง หลังจากที่ประเทศไทยเกิดความวุ่นวายทางการเมืองมานานกว่า6เดือน การเข้าควบคุมอำนาจครั้งนี้ไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นการรีเซตประเทศอีกครั้ง เพราะปัญหาการเมืองเดิมๆรุมเร้าจนประเทศเดินหน้าต่อไปไม่ได้



จากวันนั้น ผ่านมาแล้ว1เดือน มาลองย้อนดูว่าจากวันนั้น ถึง วันนี้ มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง



สิ่งแรกที่ คสช. ทำทันที หลังการควบคุมอำนาจ คือ การสะสางหนี้จำนำข้าวของชาวนา90,000ล้านบาท ที่รบ.ยิ่งลักษณ์ ค้างจ่ายชาวนามานานกว่า7เดือน จากนั้นฝ่ายเศรษฐกิจเริ่มเดินหน้า หาแนวทางเยี่ยวยาชาวนาในระยะยาว ถือเป็นภาคต่อจากการแก้ปห.ชาวนา ที่คสช.ทำได้ดีมาก นอกจากนี้ฝ่ายเศรษฐกิจยังเดินหน้าแก้ไขปัญหาพลังงาน ทั้งการปรับลดเงินอุดหนุนเข้ากองทุนน้ำมันสำหรับน้ำมันดีเซล และการตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ที่ 30 บาท/ลิตร จนกว่าจะมีการปฏิรูปราคาน้ำมันเสร็จสิ้น



สำหรับฝ่ายสังคมเน้นจัดกิจกรรมคืนความสุขให้คนในชาติ หมายมั่นตั้งใจจะคืนรอยยิ้มให้กับปชช.แต่ก็ยังพบกลุ่มเห็นต่าง ออกมาต่อต้าน ผ่านการแสดงสัญลักษณ์ ชูป้ายข้อความ ชู3นิ้ว รวมไปถึงการกินแซนวิช เป็นเหตุให้ตร.-ทหารต้องจับกุม เพราะไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายภายใต้สถานการณ์ที่กำลังจะดีขึ้น และอีกหนึ่งกิจกรรมที่ปชช.สนใจ คงหนีไม่พ้น การชมภาพยนตร์ ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ภาค5 ฟรี ที่ปชช.แห่กันไปรอตั้งแต่ห้างยังไม่เปิด กิจกรรมนี้แม้จะประสบความสำเร็จเกินคาด แต่ก็สะท้อนว่า สังคมไทยไร้ระเบียบ และเป็นเรื่องที่ต้องหาทางแก้ไขกันต่อไป



ส่วนมาตราการปรับทัศนคติ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ บิ๊กตู่ เรียกรายงานตัวแบบล้างบางตั้งแต่นักการเมือง แกนนำ ไปยัน นักวิชาการ แต่สิ่งที่เรียกความสนใจจากประชาชน คือ การคุมตัวแกนนำไป'สงบสติอารมณ์'ในค่ายทหารเพื่อปรับทัศนคติ ผ่านไป7วัน ทั้งนักการเมือง แกนนำ นักวิชาการ กลับออกมาทั้งหมดมีความเห็นไปในแนวเดียวกันทั้งที่ก่อนหน้านี้ เห็นแย้งกันสุดโต่ง ในเวลาเดียวกัน คสช. ก็สั่งโยกย้ายข้าราชการตามความเหมาะสม ที่เป็นแกนหลักในการทำงานดูเหมือนจะมีเพียง ปลัดกระทรวง ที่ก็ต้องขึ้นตรงกับคณะคสช.เช่นกัน



และสำหรับคดีหมิ่นสถาบัน บิ๊กตู่ก็ไม่ไว้หน้าใคร สั่งเรียกรายงานตัวและดำเนินคดีต่อเนื่อง แต่ที่ดูจะเป็นปัญหามากที่สุด น่าจะเป็นคดีของนางสาวฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือ โรส ที่อาศัยอยู่ในอังกฤษและกำลังอยู่ระหว่างการขอสัญชาติเป็นคนอังกฤษด้วย ซึ่งหากโรสขอสัญชาติได้สำเร็จ ไทยจะต้องทำหนังสือขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน



แต่ในช่วงอาทิตย์สุดท้ายก่อนคสช.ควบคุมอำนาจครบ1เดือน ปัญหาที่แซงหน้าทุกปัญหาขึ้นมาเป็นปัญหาหลัก หนีไม่พ้น ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แม้ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ จะทำงานอย่างหนัก เพื่อชี้แจงปัญหาในนานาประเทศรับทราบ แต่ก็ดูจะไม่เป็นผล เพราะ ประเทศยักษ์ใหญ่อย่าง สหรัฐอเมริกา และ สหภาพยุโรป ยังเดินหน้าประณามไทย อย่างต่อเนื่อง อาจเป็นเพราะที่ผ่านมาทีมโฆษกคสช.และกระทรวงการต่างประเทศทำงานในเชิงตั้งรับมากเกินไป ทำให้ประเทศเหล่านี้ย่ามใจออกแถลงการณ์ต่อว่าคสช.หนักขึ้นเรื่อยๆ



สุดท้ายแม้ว่า สวนดุสิตโพล ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ที่ให้คะแนน คสช. 8.82 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 แต่สิ่งที่จะต้องจัดตาดูหลังจากนี้ คงหนีไม่พ้นคำถามเดิมๆ 'โรดแมป ระยะที่1จะเสร็จทันตามกำหนดการ3เดือนหรือไม่' และ 'ใครจะเป็นนายกฯคนต่อไป' บางทีเราอาจได้เห็น'บิ๊กตู่'สวมบทโหดอีกครั้งเพื่อคุมเกมส์ทั้งหมดให้ได้



บุศรินทร์ วรสมิทธิ์  รายงาน

X