ภาคีเครือข่ายการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ลงพื้นที่สำรวจ 3 จุดเสี่ยง ในพื้นที่จังหวัดสงขลา หลังเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จนทำให้มีผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บจำนวนมาก
โดย บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด เผยถึงสถิติการเกิดอุบัติเหตุรวมในจังหวัดสงขลา ปี 2558 มีจำนวนถึง 5,905 ครั้ง! มีผู้บาดเจ็บ 9,303 คน พิการ ทุพพลภาพ 48 คน และมีผู้เสียชีวิต 199 คน รวมมูลค่ากว่า 75,236,145 บาท
“จุดที่ 1” บนทางหลวงหมายเลข 42 ช่วงอำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ระยะประมาณ 15กิโลเมตร เป็นถนน 2 ช่องทาง รถวิ่งสวนทางกัน สภาพถนนเป็นทางโค้งสลับไปมา และทางขึ้น – ลงตามแนวเขา สองฝั่งข้างทางประกอบไปด้วยต้นไม้เล็กใหญ่ และมีชุมชน โรงเรียน ตั้งอยู่เป็นระยะๆ โดยตลอดระยะทาง 15กิโลเมตรนี้ จะมี 3ช่วง ที่เกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง คือ 1.คลองแตงจีน (กม.22) 2.คลองลำพด และ3.ช่วงกิโลเมตรที่14 จากการสอบถามชาวบ้านในบริเวณนั้นพบว่า ชาวบ้านบางคนไม่กล้าที่จะอาศัยในบ้านหลังเดิม ที่อยู่ช่วงทางโค้งพอดี เพราะหลายครั้งที่รถเกิดอุบัติเหตุจนเกือบเลยเข้ามาถึงตัวบ้าน ทำให้ต้องย้ายไปอยู่ที่บ้านญาติในบริเวณใกล้เคียงแทน และชาวบ้านต้องผลัดเปลี่ยนมาตัดถ่างป่ารกข้างทาง โดยเฉพาะช่วงทางโค้ง เพราะต้นไม้สูงมาก ทำให้มองไม่เห็นรถที่วิ่งสวนมาในฝั่งตรงข้าม จนทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง!
“จุดที่ 2” บนทางหลวงหมายเลข 414 ถนนลพบุรีราเมศวร์ ตอนคลองวง-ท่าท้อน ช่วงกิโลเมตรที่ 6-8 ซึ่งมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุในจุดดังกล่าวจำนวนกว่า 5ครั้ง ต่อเดือน สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุนั้น คือ ชนต้นไม้เกาะกลางถนน, ถนนลื่นขณะมีฝนตก, ขับขี่ด้วยความเร็วสูง, และเมาแล้วขับ ซึ่งแขวงทางหลวงสงขลาที่ 1 ได้ดำเนินการแก้ไขด้านถนนคือ ติดตั้งแนวแบริเออร์ (ในจุดที่รถหลุดโค้งบ่อยครั้ง), ตัดต้นไม้ออกบางส่วน เพื่อจะเปลี่ยนมาปลูกไม้พุ่มแทนในอนาคต, ปรับปรุงถนน ทำ Optical Speed Bar เพื่อชะลอความเร็วของรถ หลังทำการแก้ไขเบื้องต้น พบว่าจำนวนอุบัติเหตุนั้นลดลง
“จุดที่ 3” บนทางหลวงหมายเลข 43 ช่วงอำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา ระยะประมาณ 16กิโลเมตร เป็นถนนฝั่งละ 3ช่องทาง (รวมสองฝั่ง 6ช่องทาง) ซึ่งตลอดทั้งเส้นทางมีจุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุกว่า 10จุด! และจุดที่ทีมข่าวได้ไปลงสำรวจพื้นที่นั้นคือช่วง “แยกบ้านกลาง” มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุช่วงครึ่งปี 2559 จำนวนกว่า 20ครั้ง มีผู้เสียชีวิตกว่า 5คน และมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 20คน! สาเหตุของอุบัติเหตุนั้นเกิดจาก รถที่สัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าวจะใช้ความเร็วสูง รวมทั้งถนนที่เป็นทางโค้ง มีทางแยกเข้าชุมชน และจุดกลับรถช่วงนั้นพอดี ทำให้รถที่ออกมาจากทางชุมชน วิ่งย้อนศร และตัดกระแสรถทางตรงที่มาด้วยความเร็ว เพื่อใช้จุดกลับรถดังกล่าว จนทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงบ่อยครั้ง!
โดยหมวดทางหลวงจะนะ และอำเภอนาหม่อม ได้ดำเนินการแก้ไขเบื้องต้นคือ 1.ตัดต้นไม้ ที่บดบังทัศนวิสัย ช่วงทางโค้ง 2.ทดลองปิดจุดกลับรถโดยใช้แบริเออร์กั้น (แต่ไม่นานแบริเออร์ก็ถูกยกออกไป เพราะชาวบ้านไม่เห็นด้วยที่จะต้องกลับรถไกลขึ้น) 3.รณรงค์ให้ชาวบ้านตระหนักถึงความปลอดภัยในการขับขี่รถ
และโครงการที่กำลังจะดำเนินการคือ ทำเรื่องสร้างไฟแดงแยกแม่เปียะ ที่ห่างออกไป 500เมตร เพื่อให้ประชาชนไปใช้จุดดังกล่าวกลับรถ และปิดจุดกลับรถช่วงแยกบ้านกลางอย่างถาวร (แต่ก่อนชาวบ้านจะใช้แยกแม่เปียะเป็นจุดกลับรถ พบว่าอุบัติเหตุนั้นไม่มาก แต่หลังจากมีการปรับปรุงถนนเส้นดังกล่าวทำให้ต้องปิดจุดนั้นไป)
นักวิชาการเผยถึงปัจจัยการเกิดอุบัติเหตุ 70% ขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคล และอีก 30% เกี่ยวข้องกับถนน และสภาพแวดล้อม พร้อมระบุว่าหากต้องการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุ ต้องเริ่มจากการสร้างจิตสำนึกที่ดี และวินัยในการขับขี่
ขอขอบคุณข้อมูลโดย
1. แขวงทางหลวงสงขลา
2. สถานีตำรวจภูธรนาหม่อม จังหวัดสงขลา
3. นายวินิจ เทพนิต ปลัดอำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา
4. นายนรบดี สาละธรรม คณะวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
5. มูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง หาดใหญ่
6. ทีมกู้ภัยนาทวี จังหวัดสงขลา
ผู้สื่อข่าว : วริศรา ชาญบัณฑิตนันท์