ยานสำรวจอวกาศจูโน ขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซ่า) ประสบความสำเร็จในการเข้าสู่วงโคจรของดาวพฤหัสแล้ว มนุษยชาติจะได้เห็นภาพและข้อมูลของดาวที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะจักรวาล หลังจากได้เดินทางในอวกาศมายาวนานเกือบ 5 ปี เพื่อสำรวจเก็บข้อมูลเกี่ยวกับองค์ประกอบของสสารในชั้นบรรยากาศ สนามแม่เหล็ก รูปแบบการโคจรของดาว การค้นหาเบาะแสเกี่ยวกับน้ำบนผิวดาวและถ่ายรูปความละเอียดสูงในระยะใกล้ ซึ่งภาพและข้อมูลจะถูกส่งมาวิเคราะห์และแปลข้อมูลเพื่อเตรียมเผยแพร่ในช่วงเดือนกันยายนนี้
นาซ่าได้ส่งยานจูโนเมื่อ 5 ส.ค.2011 เดินทางด้วยพลังงานจากแสงอาทิตย์ ถือเป็นยานสำรวจดาวพฤหัสบดีลำที่ 2 ที่นาซาสร้างขึ้น ต่อจากยานสำรวจ กาลิเลโอ ที่ใช้งานระหว่างปี 2538-2546 ซึ่งโครงการนี้นาซ่าทุ่มงบประมาณถึง 1,130 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ การโคจรของยานจูโนจะโคจรเข้าใกล้พื้นผิวของดาวพฤหัสมากกว่ายานกาลิเลโอ
ตามกำหนดยานอวกาศจูโนจะโคจรรอบดาวพฤหัสเป็นเวลา 20 เดือน หรือโคจรจนครบ 37 รอบ จากนั้นเมื่อสิ้นสุดภารกิจในเดือน ก.พ. 2018 ยานจูโนจะตรงดิ่งเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของดาวพฤหัสบดี เพื่อให้เกิดการเผาไหม้จนหมดไป และไม่กลายเป็นขยะอวกาศ
5 สิ่งที่คุณอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับยานอวกาศจูโน
- จูโนจะเข้าโคจรรอบดาวพฤหัสด้วยความเร็วสูงที่สุดยิ่งกว่ายานอวกาศลำใดที่มนุษย์เคยสร้างมา
- ยานจูโนเป็นยานลำที่ 2 ที่จะไปโคจรรอบดาวพฤหัส แต่เป็นลำที่ 6 ที่เคยไปเยือนดาวยักษ์ดวงนี้
- ยานอวกาศจูโน เป็นยานลำแรกที่จะโคจรรอบดาวพฤหัสในแนวขั้วเหนือใต้
- จูโนติดตั้งระบบป้องกันยานไม่ต่างจากอาคารฟอร์ทน็อกซ์ (อาคารนิรภัยที่สหรัฐฯใช้เก็บทองคำของประเทศ)
- มีผู้โดยสาร 3 คนไปกับยานจูโนด้วย นั้นก็คือ ตุ๊กตาเลโก รูปกาลิเลโอ เทพจูปิเตอร์ และเทพจูโน ที่ทำจากโลหะอลูมิเนียม เพื่อกระตุ้นความสนใจของเด็กๆเยาวชน