กรมการขนส่งทางบก จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตามจุดรับส่งผู้โดยสารช่วงขากลับ พร้อมตรวจสอบการให้บริการรถแท็กซี่ทั่วกรุงเทพฯ เตือน!!! ห้ามฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้โดยสารเด็ดขาด พบความผิดปรับหนักทุกราย ผิดซ้ำอาจถูกพักใช้เพิกถอนใบอนุญาตขับรถ ระบุ!!! ช่วงวันที่ 4-8 พ.ค. พบรถสาธารณะยังฝ่าฝืนใช้ความเร็วเกินกำหนดทั้งจากการตรวจจับด้วยกล้องเลเซอร์และจากรายงานของศูนย์ฯ GPS เร่งติดตามตัวผู้กระทำความผิด พร้อมบันทึกประวัติไว้ที่ศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะทุกราย
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากการดำเนินการตรวจเข้มทั้งสภาพรถและคนขับ อย่างเข้มข้นช่วงวันหยุดยาว 4-10 พฤษภาคม 2559 นอกเหนือจากการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ด้วยการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยด้านตัวรถที่สถานประกอบการและสุ่มตรวจที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร สุ่มตรวจจับความเร็วด้วยกล้องตรวจจับความเร็วด้วยแสงเลเซอร์ ตรวจสอบการให้บริการอย่างเข้มงวด และร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหารดูแลความปลอดภัยโดยรอบสถานีขนส่งผู้โดยสาร เพื่อยกระดับการให้บริการที่มีคุณภาพ มีความเป็นธรรม รวมถึงให้ประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาผ่านทุกช่องทาง เฉพาะวันที่ 4-8 พฤษภาคม ตรวจพบรถฝ่าฝืนใช้ความเร็วเกินกำหนดจากกล้องตรวจจับความเร็วด้วยแสงเลเซอร์ รวม 252 คัน เป็นรถตู้โดยสารประจำทาง 55 คัน รถตู้โดยสารไม่ประจำทาง 45 คัน รถบัสโดยสารประจำทาง 30 คัน และรถบัสโดยสารไม่ประจำทาง 22 คัน ส่วนรถบรรทุกส่วนบุคคลตรวจพบใช้ความเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด 73 คัน รถบรรทุกไม่ประจำทางพบ 27 คัน
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ จากการติดตามพฤติกรรมการขับขี่ของรถที่ติดตั้ง GPS ผ่านศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS อย่างต่อเนื่องในช่วงเดียวกัน พบการใช้ความเร็วเกินอัตราที่กำหนดจำนวนทั้งสิ้น 687 คัน เป็นรถโดยสารประจำทาง จำนวน 380 คัน รถโดยสารไม่ประจำทาง จำนวน 181 คัน รถบรรทุกไม่ประจำทาง จำนวน 74 คัน และรถบรรทุกทุกส่วนบุคคล จำนวน 52 คัน ทั้งนี้ การฝ่าฝืนใช้ความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนดมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท ซึ่งกรมการขนส่งทางบกจะเร่งติดตามตัวผู้กระทำความผิดให้เข้ามารายงานตัวเพื่อชำระค่าปรับตามกฎหมาย พร้อมบันทึกประวัติทั้งพนักงานขับรถและผู้ประกอบการ โดยข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบความเร็วทั้งจากระบบ GPS และการตรวจสอบด้วยกล้องเลเซอร์ จะเป็นส่วนสำคัญในพัฒนาและปรับปรุงการให้บริการของรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกได้อย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวต่อไปอีก สำหรับประชาชนที่เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ กรมการขนส่งทางบกจัดเจ้าหน้าที่ตรวจการขนส่งทางบกตรวจสอบการให้บริการบริเวณที่มีประชาชนรอเรียกใช้บริการรถโดยสารสาธารณะเป็นจำนวนมาก หากพบรถแท็กซี่เก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด เปรียบเทียบปรับสูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท ส่วนกรณีปฏิเสธผู้โดยสาร ไม่ส่งผู้โดยสารตามสถานที่ที่ได้ตกลงกันไว้ แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพ ไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร เปรียบเทียบปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท และหากเป็นการกระทำความผิดซ้ำซาก ทำลายภาพลักษณ์ประเทศ ลงโทษพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที เน้นย้ำทุกฝ่ายต้องให้บริการด้วยมาตรฐานคุณภาพ สะดวก ปลอดภัย และเป็นธรรม ควบคู่กับการพัฒนาแก้ไขพฤติกรรมการให้บริการ สร้างจิตสำนึกการขับขี่ปลอดภัย ทั้งนี้ หากประชาชนถูกเอาเปรียบ หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ สามารถแจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด
สามารถติดตามความข่าวสารและความเคลื่อนไหวของสถานีวิทยุ จส.100 ได้ทาง
สามารถดาวน์โหลด JS100 Application ได้ทั้งระบบ IOS และ Andriod ฟรี!!