กรมการขนส่งทางบก เตรียมพร้อมรองรับการเดินทางช่วงสงกรานต์ 2559 เน้นมาตรการรถโดยสารสาธารณะปลอดภัย คนขับไร้สารเสพติด แอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ พร้อมเข้มงวด!!! ตรวจจับความเร็วรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก เฉพาะวันที่ 10 เม.ย. 59 พบรถตู้โดยสารฝ่าฝืนใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนดสูงสุด รองลงมาเป็นรถบรรทุก กำชับทุกภาคส่วนปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยในเดินทางของประชาชน
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า แม้ประชาชนบางส่วนจะทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่คาดว่าช่วงต้นสัปดาห์นี้จะมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนา กรมการขนส่งทางบกจึงได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดบริการและอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชน รถโดยสารสาธารณะต้องเพียงพอ ไม่ล่าช้า และต้องไม่มีผู้โดยสารตกค้าง โดยจะเข้มงวดตรวจสอบความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะทั้งที่วิ่งประจำในเส้นทาง และรถโดยสารสาธารณะไม่ประจำทางที่นำมาเสริม ควบคู่กับการตรวจความพร้อมของพนักงานขับรถ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารทั่วประเทศ 121 แห่ง และจุดบูรณาการร่วมกระทรวงคมนาคมบนถนนสายหลักและสายรอง 14 แห่ง ใน 11 จังหวัด จุดจอดและจุดพักรถทั่วประเทศ และคุมเข้มตรวจวัดสารเสพติดและแอลกอฮอล์พนักงานขับรถและผู้ประจำรถทุกคน หากตรวจสอบพบก่อนปฏิบัติหน้าที่ให้เปลี่ยนพนักงานขับรถทันที และกรณีตรวจพบขณะปฏิบัติหน้าที่ ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายทันที และผู้ประกอบการต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย รวมถึงจัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 เฉพาะกิจ ตลอด 24 ชั่วโมง ณ กรมการขนส่งทางบก จตุจักร และสถานีขนส่งผู้โดยสารทุกจังหวัดเพื่อรับเรื่องร้องเรียนและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลระหว่างวันที่ 11 - 17 เมษายน 2559 ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจในการเดินทางให้แก่ผู้โดยสารสาธารณะ หากพบรถโดยสารสาธารณะไม่ปลอดภัย หรือขับประมาทหวาดเสียว สามารถร้องเรียนได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลตรวจสอบการใช้ความเร็วของรถตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบกด้วยกล้องเลเซอร์บนท้องสายหลักและสายรองทั่วประเทศ ภายใต้แนวความคิด “อุบัติเหตุลดได้ แค่ไม่ขับเร็ว” (Drive Safe Be Safe) เฉพาะวันที่ 10 เมษายน 2559 ตรวจสอบรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกได้จำนวน 23,647 คัน พบฝ่าฝืนใช้ความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนด 160 คัน เป็นรถตู้โดยสารประจำทางกระทำผิดสูงสุด 45 คัน รถบรรทุกไม่ประจำทาง 41 คัน รถบรรทุกส่วนบุคคล 29 คัน รถโดยสารไม่ประจำทาง 20 คัน รถตู้โดยสารไม่ประจำทาง 16 คัน ส่วนรถโดยสารประจำทาง 9 คัน จากการตรวจจับความเร็วดังกล่าวพบว่านอกจากรถตู้โดยสารประจำทางมีสถิติการกระทำผิดสูงสุดแล้ว ยังมีสถิติการใช้ความเร็วสูงกว่ารถประเภทอื่นๆ ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง และสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสาร กรมการขนส่งทางบกจึงเร่งติดตามตัวผู้กระทำความผิดให้เข้ามารายงานตัว และดำเนินการลงโทษตามกฎหมาย พร้อมกำชับผู้ประกอบการขนส่งและพนักงานขับรถทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยในเดินทางของประชาชน อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวในที่สุด
เครดิตข่าว จส.100 :
กดติดตามไลค์เพจ จส.100 ได้ที่นี่ :
กดติดตามทวิตเตอร์ จส.100 ได้ที่นี่ :
สามารถดาวน์โหลด JS100 แอพพลิเคชั่น ได้ที่ :