กรมขนส่งฯ สั่งถอนรถบัสที่ชนกับรถไฟออกจากบัญชี พร้อมเปรียบเทียบปรับ ฐานไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข

     กรมการขนส่งทางบก สั่งถอนรถโดยสารไม่ประจำทางที่เกิดอุบัติเหตุชนกับรถไฟ ออกจากบัญชีและแจ้งยกเลิกการใช้รถ พร้อมเปรียบเทียบปรับผู้ประกอบการขนส่งทันที 20,000 บาท ฐานฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่นายทะเบียนกำหนด

     นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินการตรวจสอบกรณีรถโดยสารไม่ประจำทางหมายเลขทะเบียน 30 – 0644 นครปฐม ของห้างหุ้นส่วนจำกัด คุณสมพงค์ เกิดอุบัติเหตุชนกับรถไฟ บริเวณจุดตัดรถไฟ ทางเข้าวัดงิ้วราย อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2559 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บกว่าอีก 30 ราย  โดยนายนิพนธ์ ลดาธนะกิจ เป็นพนักงานขับรถและเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ 

      อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นอุบัติเหตุร้ายแรง เกิดจากความประมาท ขาดความระมัดระวัง ทำให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสาร กรมการขนส่งทางบก จึงได้สั่งการให้สำนักงานขนส่งจังหวัดนครปฐมดำเนินการเรียกตัวผู้ประกอบการขนส่งมารายงานตัวในวันรุ่งขึ้นทันที และได้พิจารณาลงโทษโดยสั่งเพิกถอนรถคันเกิดอุบัติเหตุออกจากบัญชี ขส.บ.11 และแจ้งยกเลิกการใช้รถ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการขนส่งยังมีความผิดเนื่องจากยินยอมให้บุคคลที่ไม่มีใบอนุญาตขับรถที่ตรงตามประเภทและชนิดของรถขับรถของตน จึงได้เปรียบเทียบปรับเป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท และยังพบว่าผู้ประกอบการขนส่งไม่ได้นำรถคันเกิดอุบัติเหตุเข้ารับการตรวจสภาพรถตามระยะเวลาที่กำหนด จึงได้เปรียบเทียบปรับฐานไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่นายทะเบียนกำหนดเป็นจำนวนเงินอีก 10,000 บาท รวมปรับผู้ประกอบการขนส่งทั้งสิ้น 20,000 บาทอีกด้วย สำหรับการคุ้มครองผู้โดยสารและชดเชยค่าเสียหาย ผู้ประกอบการขนส่งได้ทำประกันภัยภาคสมัครใจ รวมประกันอุบัติเหตุ และภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด โดยผู้เสียชีวิตจะได้รับการชดเชยเป็นเงินสูงสุด 700,000 บาทต่อราย ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บจะได้รับการชดเชยสูงสุดตามที่จ่ายจริงรายละไม่เกิน 480,000 บาท ส่วนความเสียหายของทรัพย์สินของคู่กรณีจะได้รับการชดเชยเป็นเงินสูงสุด 600,000 บาท ทั้งนี้ ได้กำชับให้ หจก.คุณสมพงค์ ติดตามบริษัทประกันภัยให้ดำเนินการชดเชยค่าเสียหายโดยเร็ว และให้ หจก.คุณสมพงค์ รับผิดชอบค่าเสียหายเพิ่มเติมให้กับผู้เสียชีวิต จนครบวงเงินหากทางบริษัทฯ ประกันภัยไม่สามารถชดเชยค่าเสียหายได้ครบตามที่กำหนด ตลอดจนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาล กรณีที่ประกันภัยจ่ายเต็มจำนวนแล้วแต่ผู้บาดเจ็บยังคงรักษาตัวอยู่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจ้าพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการทางกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป

     อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวทิ้งท้ายว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2559 กรมการขนส่งทางบกได้ตรวจเข้มทั้งพนักงานขับรถและสภาพตัวรถ พร้อมทั้งขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งในการตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานขับรถในสังกัดอย่างเคร่งครัด ต้องไม่ใช้ความเร็วหรือมีชั่วโมงการทำงานเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด พนักงานขับรถจะต้องได้รับการพักผ่อนเพียงพอ โดยเฉพาะต้องมีระดับแอลกอฮอล์เป็นศูนย์ร้อยเปอร์เซ็นต์ กรณีที่ผู้ประกอบการนำรถโดยสารไม่ประจำทางมาให้บริการเสริม ต้องได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการเดินรถ ต้องใช้ผู้ขับรถที่มีความชำนาญในเส้นทาง และเข้าตรวจในจุดตรวจของกรมการขนส่งทางบก ทั้งนี้ หากพบผู้ขับรถใช้ความเร็วหรือขับขี่รถโดยประมาทลงโทษหนักทุกราย หรือหากพบสารเสพติดหรือแอลกอฮอล์ ต้องเปลี่ยนพนักงานขับรถทันที และจะถูกส่งตัวเข้าดำเนินคดีตามกฎหมาย กรณีเกิดอุบัติเหตุอันเกิดจากสภาพตัวรถหรือการละเลยการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดจนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ผู้ประกอบการต้องรับผิดชอบทุกกรณี

เครดิตข่าว จส.100 :  

กดติดตามไลค์เพจ จส.100 ได้ที่นี่ :

กดติดตามทวิตเตอร์ จส.100 ได้ที่นี่ : 

สามารถดาวน์โหลด JS100 แอพพลิเคชั่น ได้ที่ :