องคมนตรี ติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง

วันนี้, 17:19น.


องคมนตรี ติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง   



           วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.30 น. พลอากาศเอก จอม รุ่งสว่าง องคมนตรี รองประธานกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมด้วย นายศุภรัชต์ อินทราวุธ รองเลขาธิการ กปร. และคณะอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เดินทางไปยังโครงการปรับปรุงและขุดลอกหน้าฝายบ้านหนองเรือ และโครงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านหนองเรือ ตำบลกู่สวนแตง อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีผู้แทนกรมชลประทานบรรยายสรุปผลการดำเนินงานโครงการ ผู้แทนศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรบุรีรัมย์ และผู้แทนสำนักงานเกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ บรรยายสรุปผลสัมฤทธิ์รวมทั้งการขยายผลโครงการ โอกาสนี้ องคมนตรีได้ให้ข้อเสนอแนะเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนในพื้นที่ จากนั้น ตรวจเยี่ยมโครงการ พร้อมพบปะราษฎรผู้ได้รับประโยชน์ เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์และผลผลิตการเกษตรของราษฎร  



           พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับโครงการปรับปรุงและขุดลอกหน้าฝายบ้านหนองเรือ และโครงการก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านหนองเรือ ไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2555 ตามที่ราษฎรตำบลกู่สวนแตง อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ จังหวัดบุรีรัมย์ ขอพระราชทานโครงการขุดลอกลำสะแทด พร้อมก่อสร้างฝายเก็บกักน้ำ และระบบระบายน้ำ บริเวณพื้นที่รอยต่อระหว่าง ตำบลกู่สวนแตง อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ จังหวัดบุรีรัมย์ และตำบลละหานปลาค้าว อำเภอเมืองยาง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อช่วยเหลือราษฎรซึ่งประสบความเดือดร้อนจากอุทกภัยในหน้าฝน และขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคและทำการเกษตรในหน้าแล้ง 

 
           โดยสำนักงาน กปร. และกรมชลประทาน ร่วมสนองพระราชดำริ ดำเนินการขุดลอกลำสะแทด บริเวณหน้าฝายบ้านหนองเรือ รวมเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกัก พร้อมปรับปรุงฝายบ้านหนองเรือ โดยการก่อสร้างอาคารระบายน้ำ จำนวน 1 แห่ง เพื่อให้สามารถระบายน้ำในช่วงน้ำหลากได้ดีขึ้น และก่อสร้างสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบส่งน้ำความยาวรวม 4,058 เมตร และอาคารประกอบ 48 แห่ง แล้วเสร็จในปี 2559 พร้อมทั้งได้ถ่ายโอนภารกิจให้องค์การบริหารส่วนตำบลกู่สวนแตง เป็นผู้รับผิดชอบดูแลรักษาโครงการ  



           ปัจจุบัน โครงการสามารถส่งน้ำสนับสนุนการอุปโภคบริโภคให้ราษฎรตำบลกู่สวนแตง จำนวน 380 ครัวเรือน ราษฎร 1,180 คน และพื้นที่การเกษตร จำนวน 3,000 ไร่ โดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่นาข้าว ได้ผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 350 - 550 กิโลกรัมต่อไร่ สามารถเลี้ยงสัตว์และปลูกพืชผักสวนครัวอินทรีย์ ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม  มีรายได้เฉลี่ยต่อปี 15,000-20,000 บาทต่อเดือนโดยมีแหล่งน้ำใช้อย่างเพียงพอตลอดทั้งปี  



           ในช่วงบ่าย องมนตรีและคณะ เดินทางไปยังโครงการแก้มลิงกุดน้ำใส-หนองบัว-หนองยาว พร้อมอาคารประกอบอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลสะแก อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อติดตามภาพรวมผลการดำเนินงานโครงการฯ โอกาสนี้ องคมนตรีได้ให้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงขยายผลโครงการให้สามารถส่งน้ำสนับสนุนไปยังพื้นที่ใกล้เคียง และส่งเสริมความร่วมมือในการร่วมกลุ่มบริหารจัดการน้ำของราษฎรในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกกลุ่มผู้ใช้น้ำ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มฝายบ้านหนองเรือและสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า และสมาชิกบ้านหลุบทุ่ม หมู่ 12 ตำบลกู่สวนแตง จำนวน 78 ราย  กลุ่มปลูกผักบ้านประดู่ มีสมาชิก 90 ราย  ให้ร่วมกับบริหารจัดการน้ำใหเกิดประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนการที่ขยายผลในการสร้างเสริมอาชีพแก่ราษฎรในพื้นที่ สร้างรายได้ที่มั่นคง จากนั้น คณะตรวจเยี่ยมพื้นที่โครงการ พร้อมพบปะราษฎรเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์และผลผลิตการเกษตรของราษฎร และร่วมปล่อยพันธุ์ปลา เพื่อเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ และเป็นแหล่งอาหารโปรตีนสูงแก่ราษฎรในพื้นที่ต่อไป  



           พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับโครงการขุดลอกพื้นที่แก้มลิงหนองกุดน้ำใส หนองบัว และหนองยาว พร้อมทั้งก่อสร้างอาคารท่อรับน้ำและระบบระบายน้ำ และก่อสร้างอาคารบังคับน้ำ ไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2554 ตามที่ราษฎรตำบลสะแก อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ขอพระราชทานโครงการขุดลอกหนองบัว บริเวณบ้านสะแกและกุดน้ำใสบริเวณบ้านยางตาสาด ตำบลสะแก เพื่อช่วยเหลือราษฎรซึ่งประสบความเดือดร้อนขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค ทำการเกษตร และปศุสัตว์

  
           สำนักงาน กปร. และกรมชลประทาน ได้ร่วมสนองพระราชดำริ ดำเนินการขุดลอกแก้มลิงพื้นที่ 100 ไร่ ลึกเฉลี่ย 3 เมตร และทำนบดิน จำนวน 2 แห่ง พร้อมทั้งก่อสร้างอาคารท่อลอดรับน้ำและระบบระบายน้ำ และก่อสร้างอาคารบังคับน้ำ 1 แห่ง ซึ่งสามารถเพิ่มความจุที่ระดับน้ำเก็บกักจากเดิม 200,000 ลูกบาศก์เมตร เป็น 400,000 ลูกบาศก์เมตร สามารถส่งน้ำสนับสนุนการอุปโภคบริโภคให้ราษฎรตำบลสะแก อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ และใกล้เคียง จำนวน 700 ครัวเรือน และพื้นที่การเกษตร จำนวน 1,500 ไร่ ได้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอตลอดทั้งปี   

           ปัจจุบันกรมชลประทานอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านสะแกทอง เพื่อสูบน้ำจากลำน้ำมูล มาเติมให้กับแก้มลิงกุดน้ำใส-หนองบัว-หนองยาว และส่งน้ำสนับสนุนพื้นที่การเกษตรในบริเวณใกล้เคียง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2569 รวมทั้งวางแผนขุดลอกแหล่งน้ำในพื้นที่เพื่อเพิ่มปริมาณความจุน้ำสำหรับให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ในช่วงหน้าแล้งต่อไป.





#กปร.



 



 

X