“พิพัฒน์” ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าเหตุถนนสามเสนทรุด เผยทุกฝ่ายเร่งแก้ไขอย่างต่อเนื่อง เพื่อคืนสภาพจราจรด้วยความปลอดภัยให้ทันกำหนดภายใน 8 ตุลาคม นี้
วันนี้ (28 กันยายน 2568) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าการแก้ไขซ่อมแซมถนนสามเสนทรุดตัว บริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา โดยมี นายมนตรี เดชาสกุลสม ประธานกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) นายกาจผจญ อุดมธรรมภักดี ผู้ว่าการ รฟม. ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธาโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) และที่ปรึกษาควบคุมงาน เข้าร่วมให้ข้อมูลและรายงานความคืบหน้าการแก้ไขสถานการณ์
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ได้กำชับให้ทุกฝ่ายบูรณาการความร่วมมือในการแก้ไขซ่อมแซมถนนทรุด เพื่อให้สามารถคืนสภาพการจราจรบริเวณดังกล่าวตามมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ให้ทันตามกำหนดระยะเวลา 14 วัน (ภายในวันที่ 8 ตุลาคม 2568) ซึ่งจากการลงพื้นที่ พบว่า การดำเนินงานต่างๆ มีความคืบหน้าเป็นไปตามแผนงาน โดยทุกฝ่ายทั้ง รฟม. ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา กรุงเทพมหานคร รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงเร่งดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยมีการมอนิเตอร์ตลอด 24 ชั่วโมง และได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ซึ่งการดำเนินงานที่ผ่านมายังไม่พบอุปสรรค ยังเป็นไปตามแผนงาน แต่อาจมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบบ้างในแต่ละวัน เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการณ์
โดยปัจจุบัน ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธาฯ ได้เทคอนกรีตถมในหลุมแล้วเสร็จตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำ ของวันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา ขณะนี้รอคอนกรีตเซ็ตตัว จากนั้นจึงเสริมความแข็งแรงด้านข้างด้วยคอนกรีตพ่น เพื่อไม่ให้เกิดดินสไลด์ตัว และในวันอังคารที่ 30 กันยายน 2568 เป็นต้นไปจะถมทรายกลับ
สำหรับ สน.สามเสน จากการติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดตัวอาคารยังไม่พบการเคลื่อนตัวผิดปกติปัจจุบันมีการพ่นคอนกรีตเหลวเสริมความแข็งแรงของดินให้มีเสถียรภาพยิ่งขึ้น ลดการพังทลายจากนั้น จะเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างฐานรากของตัวอาคารต่อไป โดยที่ผ่านมามีการเทปูนไปทั้งสิ้นประมาณ 1200 คิว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาจะมีฝนตกเล็กน้อย แต่ไม่มีผลกระทบต่อแผนงานในภาพรวม ทั้งนี้ ได้มีการจัดเตรียมเครื่องสูบน้ำ และวางกระสอบทรายกั้น ในกรณีที่มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง สำหรับการยกวัสดุสิ่งของ เช่น เสาไฟฟ้า หม้อแปลงไฟฟ้า ท่อน้ำประปา และ เศษวัสดุอื่นๆ ที่อยู่ภายในหลุม ได้ทยอยนำขึ้นมาบางส่วนก่อน ซึ่งต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง และต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคน
ในส่วนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้านที่อยู่อาศัย ทางผู้รับจ้างงานโยธารายงานว่า สามารถติดต่อผู้ได้ผลกระทบแล้วและได้จัดหาที่พักให้ระหว่างการซ่อมแซมต่อไป
ทั้งนี้ ขอเรียนว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันประเมินสถานการณ์และความเสี่ยงอย่างรอบด้านและจัดเตรียมแผนรองรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิด เพื่อมิให้กระทบต่อแผนงาน ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนรับทราบต่อไป ติดตามข้อมูลข่าวสารของ รฟม. ได้ที่ www.mrta.co.th หรือ Call Center รฟม. โทร. 0 2716 4044