เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 นายทวีศักดิ์ สมานสิน ผู้ช่วยผู้ว่าการ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ MEA ผู้แทนจากกรมพิธีการทูต กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กรุงเทพมหานคร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมและลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมระบบจำหน่ายไฟฟ้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการควบคุมระบบไฟฟ้า รองรับการจัดงานประชุมระดับรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD) ครั้งที่ 20 ระหว่างวันที่ 1-3 กันยายน 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ
MEA ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการนั้น ที่ผ่านมา MEA ได้วางโครงสร้างและพัฒนาศักยภาพของระบบไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องให้สามารถจ่ายไฟฟ้าได้อย่างเพียงพอมีความมั่นคงเชื่อถือได้ ไม่ว่าจะเป็นการวางระบบอุโมงค์สายส่งไฟฟ้าใต้ดินขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เชื่อมโยงกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อจ่ายไฟฟ้าในพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจใจกลางเมือง รวมถึงพื้นที่การจัดงานประชุมในครั้งนี้ด้วย ปัจจุบัน MEA มีศูนย์ควบคุมระบบไฟฟ้า ซึ่งประกอบด้วยระบบ SCADA/EMS/DMS 2 แห่ง สามารถสนับสนุนการทำงานร่วมกัน (Redundant) เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการควบคุมแรงดันและการจ่ายกระแสไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีคุณภาพ และปลอดภัย สามารถสร้างความมั่นคงให้กับระบบไฟฟ้า
ผู้ช่วยผู้ว่าการ MEA กล่าวว่า นอกจากการสร้างความมั่นคงจากระบบไฟฟ้าที่ MEA ดำเนินการอย่างต่อเนื่องแล้ว เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางระบบไฟฟ้าสูงสุดในการจัดงานประชุมระดับรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือเอเชีย (ACD) ระหว่างวันที่ 1-3 กันยายน 2568 ครั้งนี้ MEA ได้ดำเนินการตรวจสอบระบบจำหน่ายไฟฟ้าอย่างละเอียดในทุกจุดที่เกี่ยวข้อง อาทิ สถานีไฟฟ้า ระบบสายส่งและสายจำหน่ายหลัก ตลอดจนระบบสำรองไฟ (UPS, Generator) เพื่อให้การจ่ายกระแสไฟฟ้ามีความมั่นคง ปลอดภัย และต่อเนื่องตลอดการจัดประชุม นอกจากนี้ยังได้ใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมต่าง ๆ ช่วยการเตรียมความพร้อมในด้านระบบไฟฟ้า อาทิ การใช้เทคโนโลยี Thermo Scan สแกนตรวจจับความร้อนของอุปกรณ์ไฟฟ้า Acoustic Camera และ Partial Discharge เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาด้านไฟฟ้า พร้อมระดมเจ้าหน้าที่ MEA ประจำสถานีไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องทุกสถานี และประจำตามจุดต่าง ๆ พร้อมรองรับทุกสถานการณ์ โดยการเชื่อมโยงกับระบบปฏิบัติการ Field Force Management หรือ FFM เชื่อมโยงกับระบบแผนที่ GIS เพื่อสามารถเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ แก้ไขปัญหาได้รวดเร็วและแม่นยำ รวมถึงตรวจสอบทั้งระบบส่งและระบบจำหน่ายไฟฟ้า ตลอด 24 ชั่วโมง รองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในรูปแบบต่าง ๆ ตามแผนรับมือกับเหตุวิกฤต เพื่อให้ระบบไฟฟ้ามีความมั่นคง และต่อเนื่อง
นอกจากนี้ MEA ยังได้บูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งการร่วมมือกับ กฟผ. ในการเพิ่มความมั่นคงจากแหล่งจ่ายไฟฟ้าต้นทางให้อยู่ในระดับสูงสุด ตลอดจนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการร่วมตรวจสอบและรักษาความปลอดภัย โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่และเทคโนโลยี เช่น การเฝ้าระวังด้วย CCTV หรืออุปกรณ์ตรวจจับอื่น ๆ พร้อมทั้งจัดทำแผนรองรับเหตุฉุกเฉิน หากเกิดปัญหาที่อาจกระทบต่อความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าและการประชุม รวมทั้งความร่วมมือกับ กรุงเทพมหานคร (กทม.) สำหรับการปรับผิวการจราจร ปรับปรุงเส้นทางบริเวณที่มีฝาบ่อ ทำให้เกิดความเรียบร้อย สวยงาม และเพิ่มความสะดวกในการสัญจร และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบให้มีความเรียบร้อยสวยงามเพื่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย.
#ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ #QSNCC #MEAsmartdistribution
#MEAsmartenergy #Smartgrid #Smartcity
#MEA #การไฟฟ้านครหลวง #พลังงานเพื่อวิถีชีวิตเมืองมหานคร #พลังดีดีที่รู้สึกได้ทุกวัน