การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ดำเนิน “โครงการก่อสร้างปรับปรุงขยาย กปภ.สาขาพังงา-(ทับปุด)” ครอบคลุมพื้นที่ อ.เมืองพังงา และ อ.ทับปุด จ.พังงา แล้วเสร็จ มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้นด้วยระบบผลิตและส่งจ่ายน้ำประปาที่มีประสิทธิภาพ รองรับการขยายตัวของประชากรและเศรษฐกิจในพื้นที่ ทั้งภาคครัวเรือนและธุรกิจ พร้อมเสริมสร้างความมั่นคงด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง
นายจักรพงศ์ คำจันทร์ ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เปิดเผยว่า จังหวัดพังงาเป็นพื้นที่ที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและชุมชนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีความต้องการใช้น้ำประปาที่เพิ่มขึ้น กปภ. จึงได้ดำเนินโครงการก่อสร้างปรับปรุงขยาย กปภ.สาขาพังงา-(ทับปุด) อ.เมืองพังงา-ทับปุด จ.พังงา ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบผลิต ส่ง และจ่ายน้ำประปาในพื้นที่ที่ประสบปัญหาให้สามารถรองรับความต้องการในอนาคตได้อย่างเพียงพอทั้งภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ งบลงทุนรวมกว่า 167 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยดำเนินการก่อสร้างและปรับปรุงสถานีผลิตน้ำขุมเหมือง สถานีผลิตน้ำทับปุด และสถานีจ่ายน้ำบ่อแสน พร้อมก่อสร้างระบบผลิตน้ำที่เพิ่มกำลังการผลิต 300 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ถังน้ำใสขนาด 2,500 ลูกบาศก์เมตร และ 1,000 ลูกบาศก์เมตร หอถังสูงขนาด 300 ลูกบาศก์เมตร ปรับปรุงระบบผลิตเดิม สระพักน้ำดิบ ระบบชักน้ำดิบ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ตลอดจนวางท่อส่งน้ำดิบและท่อจ่ายน้ำประปาให้ครอบคลุมพื้นที่เดิมและพื้นที่ขยายใหม่ สามารถรองรับผู้ใช้น้ำกว่า 9,000 ราย และมีปริมาณน้ำจำหน่าย 2.80 ล้านลูกบาศก์เมตร ความสำเร็จของโครงการนี้ไม่เพียงเพิ่มศักยภาพด้านการผลิตและจ่ายน้ำประปาเท่านั้น แต่ยังยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับบริการน้ำประปาที่สะอาดปลอดภัย มีแรงดันสม่ำเสมอ ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพจากน้ำที่ไม่ได้มาตรฐาน และรองรับการขยายตัวของชุมชนและธุรกิจในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังส่งผลดีในด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะส่งเสริมการลงทุน การสร้างงาน และกระจายรายได้ให้แก่ชุมชน อีกทั้งยังลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน สร้างความเท่าเทียมทางโอกาสและส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนได้อย่างยั่งยืน
ผู้ว่าการ กปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการยกระดับคุณภาพการให้บริการน้ำประปาใน จ.พังงา ทั้งนี้ กปภ.สาขาพังงา ยังมีแผนบำรุงรักษาระบบผลิตและจ่ายน้ำอย่างต่อเนื่อง และใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น ระบบควบคุมและรายงานข้อมูลแบบศูนย์รวม (SCADA) ตลอดจนแนวทางการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน เพื่อควบคุมและบริหารจัดการระบบผลิตและจ่ายน้ำให้มีประสิทธิภาพ ทันสมัยตอบสนองความต้องการใช้น้ำได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว