‘รพ.พระนั่งเกล้า’ ใช้ 30 บาทรักษาทุกที่ พลิกโฉม รพ.รัฐ บริการผ่านระบบออนไลน์ครบวงจร

29 มกราคม 2568, 12:12น.


      “รพ.พระนั่งเกล้า” พลิกโฉมบริการ รพ.รัฐ ใช้โอกาสนโยบาย “30 บาทรักษาทุกที่” พัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล เชื่อมต่อระบบข้อมูลการให้บริการผู้ป่วย ผ่านระบบออนไลน์ครบวงจร ลดเวลารอคอย ลดความแออัดใน รพ. พร้อมปรับปรุงสิ่งแวดล้อมภายเพื่อสร้างสุขภาวะที่ดีให้ผู้ป่วย เปลี่ยนภาพจำ รพ.รัฐในอดีต



      นพ.ศิรสิทธิ์ สถิรเจริญกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า กล่าวว่า ช่วงต้นปี 2566 โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าได้นำเทคโนโลยีมาปรับระบบบริการเพื่อให้ผู้ป่วยเกิดความสะดวก ลดความแออัดและเวลารอคอยบริการตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รวมถึง “30 บาทรักษาทุกที่” ที่มุ่งให้ประชาชนใช้บัตรประชาชนใบเดียวบริการได้ทุกขั้นตอน



      เริ่มตั้งแต่ “พบหมอไม่รอทำบัตร” คือ ผู้ป่วยใหม่สามารถลงทะเบียนระบบออนไลน์ก่อนมาถึง รพ.ได้ ซึ่งจะได้เลขรหัสโดยไม่ต้องต่อแถวหน้าห้องทำบัตร ตามด้วย “พบหมอไม่รอหน้าห้อง” คือหลังผู้ป่วยรับบัตรคิวพบแพทย์แล้ว จะมีบัตรคิวออนไลน์ที่ส่งในไลน์หมอพร้อมของผู้ป่วยอัตโนมัติที่ตรวจสอบได้ว่าเหลืออีกกี่คิว โดยที่ไม่ต้องรอหน้าห้องตรวจ เช่นเดียวกับ “พบหมอไม่รอแล็บ” ที่เมื่อผู้ป่วยเจาะเลือดแล้ว ผลออกมาก็แจ้งเตือนผ่านไลน์หมอพร้อมอัตโนมัติ ทำให้หน้าห้องตรวจลดความแออัดลงได้ชัดเจน ผู้ป่วยไม่ต้องมานั่งรอที่หน้าห้อง เมื่อใกล้ถึงคิวแล้วค่อยกลับมา เป็นการช่วยอำนวยความสะดวกและลดเวลารอคิวของผู้ป่วยได้มาก



      นอกจากนี้ยังมีระบบ “พบหมอไม่รอใบนัด” ระบบจะส่งใบนัดพร้อมกับคำแนะนำเข้าไปในไลน์หมอพร้อมของผู้ป่วยอัตโนมัติ ทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องรอออกใบนัด และยังมีระบบ “พบหมอไม่รอยา” โดย รพ.จะมีระบบให้ผู้ป่วยลงทะเบียนที่อยู่จัดส่งยา ซึ่งเมื่อตรวจเสร็จแล้วก็เลือกได้ว่าจะรับบริการจัดส่งยาที่บ้านผ่านระบบ Health Rider หรือไปรษณีย์ โดยไม่ต้องรอได้



      “โครงการนี้ทำให้คนไข้ของ รพ. ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนของประเทศ เมื่อเจอหมอแล้วไม่ต้องรอใบนัด ไม่ต้องรอยา กลับไปใช้ชีวิตต่อได้เลย จากเดิมที่มา รพ. จะใช้เวลานานครึ่งวัน ตั้งแต่ตี 5 เสร็จบ่าย เย็น แต่ปัจจุบันคนไข้เพียงเข้ามาตามใบนัด เช่น นัด 10.00 น. ท่านมาสัก 9.30 น. ถึงเวลาก็ได้ตรวจ และกลับบ้านได้ภายใน 2 ชั่วโมง ทำให้ผู้ป่วยมีความพึงพอใจสูงขึ้น” นพ.ศิรสิทธิ์ กล่าว



      นพ.ศิรสิทธิ์ กล่าวว่า การพัฒนาที่เกิดขึ้นนี้นอกจากนโยบายผู้บริหารแล้ว ยังมีที่มาจากการรับฟังเสียงสะท้อนจากผู้ป่วย โดยเฉพาะจากโครงการ “พบหมอขอฟีดแบค (feedback)” ซึ่งเมื่อรับการตรวจเสร็จแล้วผู้ป่วยทุกคนจะได้รับแบบสำรวจความคิดเห็น ประเมินความพึงพอใจ ส่งเข้าไปในไลน์หมอพร้อม ทำให้ รพ.ได้รับคำแนะนะที่เป็นประโยชน์เมาก และเพื่อสอดคล้องกับนโยบายการป้องกันโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ยังมีโครงการ “พบหมอไม่รอป่วย” ที่หลังตรวจสุขภาพแล้วก็จะมีการแปลผลเลือด ส่งคืนข้อมูลกลับไปให้กับผู้ป่วย พร้อมกับคำแนะนำในการป้องกันดูแลสุขภาพเพื่อลดความเสี่ยงการเป็นโรค NCDs

      โครงการนี้เป็นประโยชนกับผู้ป่วยทุกสิทธิการรักษาที่ลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อม โดยมีผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) มากสุด ทั้งนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ก็เป็นปัจจัยเสริมให้ รพ.มุ่งพัฒนาบริการ พร้อมกันนี้ยังโรงพยาบาลยังได้ปรับปรุงอาคาร สถานที่ ทัศนียภาพ รวมทั้งขยายพื้นที่เพื่อรองรับการให้บริการที่มากขึ้น เพิ่มความสะดวกสบายให้ประชาชน เน้นระบบสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่รอคอย แสงสว่าง อุณหภูมิ และความสวยงามโดยรอบ ที่ช่วยให้เกิดสภาวะที่ดีต่อสุขภาพ

      “เราอยากเปลี่ยนภาพจำ รพ.รัฐในอดีต และจากนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ เราใช้เทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาเชื่อมโยงฐานข้อมูลทั้งประเทศ เข้าถึงกันอย่างไร้รอยต่อ บุคลากรของโรงพยาบาลก็พร้อมและมีความตั้งใจให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิการรักษาใด เมื่อท่านใช้สิทธิรักษาฟรี ไม่ได้แปลว่าจะได้รับบริการที่ไม่มีคุณภาพ แต่เป็นไปตามมาตรฐานที่ทุกคนพึงได้รับอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง” นพ.ศิรสิทธิ์ กล่าว



      นพ.ศิรสิทธิ์ กล่าวอีกว่า รู้สึกดีใจกับกระแสตอบรับที่ดีต่อ รพ. มีการนำไปโพสต์รีวิวและเกิดการแชร์ต่อกันในโลกออนไลน์ ซึ่งในฐานะตัวแทนของ รพ.ต้องบอกว่าทุกคนมีความตั้งใจอย่างมากในการปรับปรุงและพัฒนาระบบบริการต่างๆ ให้ดีขึ้น เพื่อสนองตอบต่อผู้ใช้บริการ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ พญ.ณิชาภา สวัสดิกานนท์ อดีตผู้อำนวยการ รวมทั้ง นพ.สกล สุขพรหม ผู้อำนวยการคนปัจจุบัน ในความพยายามที่จะทำให้ระบบบริการทุกอย่างดีขึ้น เร็วขึ้น ไม่ว่าผู้ป่วยจะใช้สิทธิอะไร หรือมาจากไหนก็ตาม





      ขณะที่ นายปีเตอร์ หิรัญพงษ์ ผู้ใช้บริการ อายุ 60 ปี กล่าวว่า ได้ใช้บริการที่ รพ.พระนั่งเกล้าเป็นประจำ เนื่องจากเป็นคนในพื้นที่ ซึ่งต้องบอกว่ามีการพัฒนาไปมาก รวดเร็วและทันสมัยมากขึ้น โดยการใช้สิทธิบัตรทองแม้จะช่วยให้เข้าถึงบริการได้ แต่อาจต้องแลกมาด้วยเวลารอคอย และความแออัดภายในโรงพยาบาล แต่ยุคนี้เปลี่ยนไปเยอะ ทุกอย่างไวขึ้นด้วยเทคโนโลยี ทำให้สะดวกขึ้น คนไข้ก็มีความสุขมากขึ้น อย่างมาวันนี้ก็จองคิวนัดผ่านแอปพลิเคชันไว้ก่อน พอตรวจรักษาเสร็จก็กลับบ้านได้เลย ยาค่อยมารับวันหลัง หรือให้ไปส่งที่บ้านก็ได้



      น.ส.วนิดา ชวนะศิลป์ ผู้ใช้บริการ อายุ 35 ปี กล่าวว่า ครั้งนี้ได้มีโอกาสเข้ามาใช้บริการที่ รพ.พระนั่งเกล้า พบว่าแม้จะมีผู้ป่วยเยอะกว่า แต่เวลาที่รอกลับไม่ได้นานมากนัก แล้วยังมีระบบออนไลน์ที่ลงทะเบียนก่อนและช่วยบอกได้ว่าจะถึงคิวเมื่อไหร่ ทำให้ไปทำอย่างอื่นรอก่อนได้ รวมทั้งยังมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำตลอด

      “เรื่องที่ดีมากๆ คือมีบริการส่งยาถึงบ้าน แต่เดิมหลังจากรอหาหมอแล้ว ก็ต้องมารอรับยาอีก แต่วันนี้หาหมอ รับนัดต่อไปเสร็จ ก็เลือกรอรับยาที่บ้านได้ คือดีมาก ซึ่งหลังจากได้มาใช้บริการ หลายอย่างช่วยให้เราสบายขึ้น ใช้เวลาน้อยลง จัดการเวลาได้ดีขึ้น” น.ส.วนิดา กล่าว



      ด้าน นายธนิตพงศ์ นิยมสินธุ์ อายุ 48 ปี และ นางภัทรานิษฐ์ เกษรจันทร์ อายุ 46 ปี ผู้ใช้บริการ กล่าวว่า มาใช้บริการที่ รพ. พระนั่งเกล้ามากกว่า 20 ปี ปัจจุบันมีการพัฒนาที่ดีขึ้นอย่างมาก จากเดิมที่ไม่ค่อยเป็นระบบ คนหนาแน่นและรอคอยนาน แต่ปัจจุบันเมื่อใช้ระบบเทคโนโลยีเข้ามาทำให้ดูคิวผ่านโทรศัพท์ได้โดยที่ไม่ต้องนั่งรอให้เสียเวลา ช่วยกระจายคนไม่ให้มาแออัดกันได้มาก นอกจากนี้ยังรู้สึกด้วยว่าแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทุกคนล้วนให้บริการได้ดีขึ้น มีความใจเย็น รวมถึงการใช้สิทธิบัตรทองก็ได้ช่วยแบ่งเบาภาระไปได้มาก โดยที่ไม่ต้องเครียดหรือเสียเวลาไปกับความแออัดเหมือนในอดีต





 

X