ข่าวนี้มีเฮ!! CATL ผนึกกำลัง BYD เตรียมแผนลดต้นทุนแบตเตอรี่รถไฟฟ้าลง 50% กระตุ้นตลาด EV ราคาประหยัด คาดทำได้ภายในปี 2024

05 มีนาคม 2567, 12:16น.


  การใช้รถไฟฟ้านั้นมีข้อดีหลายอย่าง เช่น การลดการปล่อยมลพิษ การประหยัดค่าน้ำมัน และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งการที่รถไฟฟ้าจะครองใจคนทั่วโลกได้นั้น ขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยเป็นเสาหลัก คือ แบตเตอรี่ราคาถูกลง , แบตเตอร์ชาร์จเร็วขึ้น , ปริมาณเครื่องชาร์จประจุไฟฟ้า มีเพียงพอต่อความต้องการที่มากขึ้น เป็นสิ่งที่วงการรถไฟฟ้าควรผลักดัน เพื่อปฏวัติผู้ใช้รถยนต์ กับโลกาภิวัตน์ที่เปลี่ยนไป รวมไปถึงความนิยมที่ถดถอยในตลาดอเมริกา และยุโรป



  ล่าสุด CATL ผู้ผลิตแบตเตอรี่รถไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลก และ BYD แบรนด์รถไฟฟ้าอันดับ 1 ในจีน มีแนวคิดในการคัดแยกทรัพยากรสายการผลิต จะปรับลดต้นทุนแบตเตอรี่ให้ถูกลง 50% ซึ่งอาจผลักดันราคาเซลล์แบตเตอรี่ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต VDA spec ลงเหลือ 0.4 หยวนต่อ Wh คิดเป็นเงิน 56.47 เหรียญสหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง ในราคานั้น แบตเตอรี่ขนาด 60 kWh ที่มีราคา 6,776.00 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปัจจุบันจะมีราคาเพียง 3,388 ดอลลาร์สหรัฐฯ ใน 12 เดือนนับจากนี้ ซึ่งช่วยประหยัดผู้ผลิต EV ได้มากกว่า 3,000 ดอลลาร์ต่อคัน ภายในปี 2024 จากเดิมที่เคยทำมาแล้วครั้งนึงในปี 2023



  ประเด็นสำคัญจากราคาแบตเตอรี่ที่ลดลงจาก CATL และ BYD จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อลูกค้า EV ในประเทศจีนและประเทศอื่นๆ ในเอเชียเป็นอันดับแรก ยุโรปเป็นอันดับสอง และสหรัฐอเมริกาเป็นอันดับสุดท้าย



  ทั้งนี้ หากเป็นไปได้จริง ก็จะทำให้รถไฟฟ้ามีราคาถูกลง ผู้ใช้รายใหม่ๆสามารถเข้าถึง EV ได้มากขึ้น นับเป็นข่าวดีที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ สำหรับวงการไฟฟ้า เพราะที่น่าเป็นห่วงคือตลาดในอเมริกา และยุโรป ที่มีความนิยมที่ลดลง ถือเป็นจุดเริ่มในการปฏิวัติวงการรถไฟฟ้า เพื่อขจัดข้อจำกัด 3 ปัจจัยในที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้นนั่นเอง



 

X