อาการเริ่มต้นของโรคจิตเภท อาการอาจเกิดในแบบเฉียบพลันหรือแบบค่อยเป็นค่อยไป เริ่มมีอาการสับสน ไม่อยู่ในโลกความเป็นจริง ผู้ป่วยเริ่มเปลี่ยนจากบุคลิกภาพเดิม แยกตัว ไม่อยากสุงสิงกับใคร มีอาการระแวงคนอื่น ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงานลดลง สิ่งสำคัญที่ควรทำ คือ การปรึกษาแพทย์เพื่อรับการบำบัดรักษาโดยทันที
โรคจิตเภทแบ่งได้ 2 กลุ่มอาการ
1.กลุ่มอาการที่เพิ่มมากกว่าคนปกติทั่วไปอาการหลงเชื่อผิด
- ระแวงว่าคนอื่นจะมาทำร้าย กลัวตนเองโดนวางยาพิษ คิดว่าตัวเองเป็นบุคคลพิเศษ
- ความคิดผิดปกติ เริ่มไม่มีเหตุผล คุยกับคนอื่นไม่เข้าใจ พูดไม่เป็นเรื่องราว เปลี่ยนเรื่องพูดโดยไม่มีเหตุผล
- ประสาทหลอน คิดว่าจะมีบางสิ่งร้ายๆเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ความจริงไม่มีสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น หูแว่ว เห็นภาพหลอน มองเห็นวิญญาณ
- มีพฤติกรรมผิดปกติ มีความคิดและความเชื่อที่ผิดปกติ หัวเราะหรือร้องไห้สลับกันเป็นพักๆ
2.กลุ่มอาการที่ขาดหรือบกพร่องไปจากคนปกติทั่วไป
- เก็บตัว ซึม ไม่อยากพบปะผู้คน แยกตัวเอง
- ไม่ดูแลตัวเอง ไม่สนใจเรื่องการแต่งกาย กลางคืนไม่นอน
- ไม่มีความคิดริเริ่ม เฉื่อยชาลง ไม่ทำงาน นั่งเฉยๆ ได้ทั้งวัน ผลการเรียนหรือการทำงานตกต่ำ
- พูดน้อย ใช้เวลานานกว่าจะตอบ พูดจาไม่รู้เรื่อง เนื้อความไม่ปะติดปะต่อกัน
- การแสดงออกทางอารมณ์ลดลงมาก ไร้อารมณ์ มักมีสีหน้าเฉยเมย ไม่มีอาการยินดียินร้าย
ในระยะอาการกำเริบ อาการส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มอาการที่เพิ่มมากกว่าคนปกติทั่วไป ส่วนกลุ่มอาการที่ขาดหรือบกพร่องไป จากคนปกติทั่วไป มักพบในระยะหลังโรค หากท่านหรือผู้ใกล้ชิดมีอาการดังกล่าว ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษา
การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคจิตเภท
- การรักษาด้วยยา เพื่อควบคุมอาการและลดอาการกำเริบของโรค
- การฟื้นฟูสภาพจิตใจ ให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วย ทำกิจกรรมคลายเครียด
- การทำจิตบำบัด นักจิตบำบัดหรือผู้เชี่ยวชาญจะทำการพูดคุยกับผู้ป่วย เจาะลึกถึงปัญหา และคลายปมในใจ เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าใจตัวเองและสามารแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้
- ครอบครัวบำบัด แพทย์จะให้ความรู้เกี่ยวกับโรคที่ผู้ป่วยเป็น และบอกสิ่งสำคัญในการดูแล ปรับตัว ในกับครอบครัวหรือญาติ เพื่อให้พวกเขาได้เข้าใจและพร้อมช่วยดูแลผู้ป่วย
- กลุ่มบำบัด จัดกิจกรรมกลุ่มระหว่างผู้ป่วยด้วยกัน เชื่อมความสัมพันธ์ให้ผู้ป่วยได้มีเพื่อน คลายความเหงา ความเครียดในใจ
การดูแลผู้ป่วยเป็นสิ่งสำคัญ ผู้ดูแลและตัวผู้ป่วยเองต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ให้ดี การเข้าใจผู้ป่วยแม้จะเป็นเรื่องยาก หากเราเปิดใจยอมรับและไม่ตัดสิน ไม่มุ่งหวังหรือผลักดันผู้ป่วยมากเกินไป อาการของโรคจะคอยทุเลาลง และสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติได้
ที่มา : โรงพยาบาลมนารมย์