เกาะโลซิน เกาะที่เล็กที่สุดในประเทศไทย ไม่มีหาดทราย ไม่มีต้นไม้ มีเพียงประภาคาร และ ปะการัง อุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในไทย

      โลซิน เกาะที่เล็กที่สุดในประเทศไทย เป็นเกาะหินปูนขนาดย่อมกลางทะเลอ่าวไทย ขึ้นอยู่กับจังหวัดปัตตานี ห่างจากชายฝั่งถึง 72 กิโลเมตร เป็นแหล่งดำน้ำและตกปลาที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาไม่ขาดสาย เห็นเป็นแค่เกาะเล็กๆแบบนี้ แต่มีคุณค่ามหาศาลด้านความมั่นคงและอาณาเขตทางทะเล

      บนเกาะโลซินมีเพียงแค่ประภาคารบนกองหินใต้ทะเลที่โผล่พ้นน้ำมาประมาณ 10 เมตร เป็นเกาะที่ไม่มีหาดทราย ไม่มีต้นไม้ มีพื้นที่ผืนน้ำกว้าง 50 ตารางเมตร มองใกล้ๆอาจดูเหมือนเป็นแค่เกาะธรรมดาเกาะหนึ่งเท่านั้น หากแต่ได้ลงไปดำน้ำใต้เกาะแล้ว คุณอาจได้ประสบการณ์สุดตราตรึงใจ สมกับตำแหน่ง เกาะที่มีปะการังสมบูรณ์และสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย



      พื้นที่แนวประการังรอบเกาะโลซินกว่า 493.75 ไร่ นั้นเต็มไปด้วยปะการังนานาชนิด นักดำน้ำหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นอาณาจักรของปะการัง ส่วนใหญ่เป็นดงปะการังเขากวางสลับกับปะการังช่องเล็ก มีกัลปังหาที่เต็มไปด้วยสีสันอันงดงาม  หากใครสงสัยว่ากัลปังหาคืออะไร กัลปังหาคือสัตว์ทะเลไม่มีกระดูกสันหลัง แต่ละตัวมีขนาดเล็กมาก รูปร่างคล้าย ทรงกระบอก หรือรูปถ้วย ถูกจัดให้อยู่จำพวกเดียวกันกับปะการัง

      นอกจากจะเจอปะการังที่สวยงามแล้ว ยังมีโอกาสที่จะพบฝูงปลานับร้อยชนิด เช่น ปลาสลิดหิน ปลาการ์ตูน ปลาผีเสื้อ ปลานกขุนทอง ฯลฯ รวมไปถึง เจ้าฉลามวาฬ ที่พบเห็นได้น้อยครั้งแต่กลับพบเจอที่เกาะโลซินอย่างง่ายดายแถมยังบ่อยครั้งอีกด้วย เรียกได้ว่าเกาะโลซินแห่งนี้เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ล้ำค่าทางทรัพยากร เป็นศูนย์รวมของหลายสรรพสิ่งในโลกใต้ท้องทะเล และเป็นดั่งสวรรค์ของนักดำน้ำที่สักครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมีลิสต์การเดินทางมายังเกาะแห่งนี้





      เกาะโลซินนอกจากจะเล็กที่สุดในประเทศไทยแล้ว ยังมีฉายา “เกาะแสนล้าน” ซึ่งที่มาของฉายานี้มาจากแต่เดิมที่นี่เคยเป็นดินแดนพิพาทระหว่างไทยกับมาเลเซีย โดยมาเลเซียได้ทำการอ้างสิทธิ์เหนือหมู่เกาะกระในจังหวัดนครศรีธรรมราช ด้วยการอ้างการแบ่งเขตไหล่ทวีป อันเป็นพื้นที่ทับซ้อนกับพื้นที่สัมปทานแหล่งก๊าซธรรมชาติ ทำให้ไทยเสียเปรียบ แต่เวลาต่อมาคณะเจรจาไปพบเกาะหินกลางทะเล นั่นคือ "เกาะโลซิน" จึงได้ใช้อนุสัญญากรุงเจนีวาว่าด้วยกฎหมายทางทะเล ค.ศ. 1958 โดยให้โลซินมีสถานะเป็นเกาะ ประเทศไทยจึงสามารถประกาศสิทธิเขตเศรษฐกิจจำเพาะจากแนวน้ำลดบริเวณชายฝั่งออกไปได้ 200 ไมล์ทะเล ซึ่งครอบคลุมแหล่งก๊าซด้วย

      ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2521-ปัจจุบัน ไทยและมาเลเซียได้ทำข้อตกลงกันเพื่อกำหนดพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลดังกล่าวเป็นพื้นที่พัฒนาร่วมไทย -มาเลเซีย (Joint Development Area : JDA) ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 7,250 ตารางกิโลเมตร เนื่องจากแหล่งก๊าซธรรมชาตินี้มีมูลค่ามากกว่าที่คิด เกาะโลซินจึงกลายเป็นอีกหนึ่งจุดที่หลายคนตั้งฉายาให้ว่า “เกาะแสนล้าน”

ที่มา : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง