
นายพงษ์ศักดิ์ ธงรัตนะ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ในเทศกาลอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษานี้ พุทธศาสนิกชนตั้งมั่นร่วมสืบทอดพระพุทธศาสนาถวายเป็นพุทธบูชา ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารพระภิกษุสงฆ์ ถือศีล ฟังธรรม ตามวิถีไทยวิถีพุทธ แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ตระหนักถึงคุณค่าทางโภชนาการที่ดี การทำบุญใส่บาตรมีความสัมพันธ์โดยตรงกับสุขภาพของพระสงฆ์ สามเณร สสส. ร่วมกับทีมผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการริเริ่มโครงการ "สงฆ์ไทยไกลโรค" พัฒนาองค์ความรู้ทางโภชนาการ แนะนำการเลือกอาหารใส่บาตรที่ถูกสุขอนามัยและถูกต้องตามหลักโภชนาการเพื่อป้องกันการเกิดโรค NCDs พร้อมพัฒนาวัดในฐานะองค์กรและสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างเสริมสุขภาพ สนับสนุนพระสงฆ์เป็นแกนนำความรู้ในการดูแลสุขภาวะ ตนเองและเผยแพร่แก่ชุมชนและสังคมในวงกว้าง
ศ.ดร.ภญ.จงจิตร อังคทะวานิช ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและกำหนดอาหาร คณะสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า จากการตรวจร่างกายกลุ่มตัวอย่างพระสงฆ์ พบว่า พระสงฆ์มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนถึง 48% สามเณร 22% เสี่ยงอาพาธด้วยโรค NCDs สูง สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากอาหารที่ถวายพระสงฆ์มีโปรตีนต่ำ ผักน้อย อีกทั้งยังเป็นของทอดที่มีไขมันสูง พระสงฆ์ได้รับน้ำตาลจากการฉันน้ำปานะสูงถึง 20 ช้อนชาต่อวัน ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กรมอนามัยกำหนด คือ 6 ช้อนชาต่อวัน 


