กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มีฐานะเป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพตามพระราชบัญญัติกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๔๔
โดยที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน ด้านศิลปวัฒนธรรม ในคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ จะพ้นจากตำแหน่งก่อนครบกำหนดวาระ ๓ ปี ในการนี้ สสส. จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจ องค์กร ส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ได้สมัครหรือเสนอชื่อบุคคลผู้ที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคเอกชน ด้านศิลปวัฒนธรรม ในคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อแทนตำแหน่งที่จะว่างลง ผู้สมัครหรือผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจะต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๔๔ ดังนี้
(๑) มีสัญชาติไทย
(๒) มีอายุไม่เกิน ๗๐ ปีบริบูรณ์
(๓) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(๔) ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(๕) ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น กรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่ง ที่รับผิดชอบในการบริหารพรรคการเมือง ที่ปรึกษาพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่พรรคการเมือง
(๖) ไม่เป็นผู้มีพฤติกรรมที่ขัดหรือแย้งกับวัตถุประสงค์ของกองทุนตามมาตรา ๕
(๗) ไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในกิจการที่กระทำกับกองทุน หรือในกิจการที่ขัดหรือแย้งกับวัตถุประสงค์ของกองทุน หรือได้รับประโยชน์ในกิจการที่ขัดหรือแย้งกับวัตถุประสงค์ของกองทุน ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม เว้นแต่เป็น ผู้ดำเนินกิจการอันเป็นสาธารณประโยชน์และมิได้แสวงหากำไร
ผู้สนใจสามารถสมัครได้ด้วยตนเอง หรือเสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาได้ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ในวันและเวลาทำการ (๐๘.๓๐ ๑๗.๐๐ น.) หรือส่งใบสมัครหรือเสนอชื่อบุคคลทางไปรษณีย์ โดยขอรับแบบการสมัครหรือเสนอชื่อบุคคลได้ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือดาวน์โหลด “การรับสมัครหรือเสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ” ในเว็บไซต์ www.thaihealth.or.th ตั้งแต่วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๖ ทั้งนี้ กรณีส่งเอกสารทางไปรษณีย์จะยึดวันประทับตราไปรษณีย์เป็นหลัก
ทั้งนี้ สามารถติดต่อและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ ๐๒ ๓๔๓ ๑๕๐๐ ต่อ ๑๐๐๕