ภาคีเครือข่ายความปลอดภัยบนท้องถนน (สสส. สอจร. ศวปถ.) ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานเครือข่ายรถรับส่งนักเรียนปลอดภัย ณ โรงเรียนสารภีพิทยาคม อ.สารภี จ.เชียงใหม่

17 กุมภาพันธ์ 2566, 16:30น.


      เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่ายความปลอดภัยบนท้องถนน พร้อมทีมข่าวจส.100 และสื่อมวลชนอีกหลายสำนัก ได้ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงานเครือข่ายรถรับ-ส่งนักเรียนปลอดภัย ณ โรงเรียนสารภีพิทยาคม อ.สารภี จ.เชียงใหม่ โดยโครงการยกมาตรฐานความปลอดภัยรถรับ-ส่งนักเรียนนี้ริเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 โดยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งตัวผู้ประกอบการขับรถรับ-ส่งนักเรียน ผู้บริหารโรงเรียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการรับ-ส่งนักเรียน และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครองที่เลือกใช้รถโรงเรียนเป็นพาหนะรับ-ส่งลูกหลานของตน

      การติดตามผลการดำเนินงานจัดขึ้นที่ห้องประชุม โรงเรียนสารภีพิทยาคม โดยมี นายวุฒิไกร วรรณการ ผู้อำนวยการโรงเรียนและคณะครู เครือข่ายผู้ประกอบการขับรถรับ-ส่งนักเรียน ตัวแทนสมาคมผู้ปกครอง ภาคีเครือข่ายความปลอดภัยบนท้องถนน (สสส. สอจร. ศวปถ.) เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ คุณธัชวุฒิ จาดบันดิสถ์. นักวิชาการจากศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) กล่าวว่า “ทำงานร่วมกันมา ดูต้นแบบจากทางจังหวัดเชียงราย มีเครือข่ายของ มพบ.ดอยสะเก็ด มาช่วยงานด้วย ระยะสั้นแต่เป็นรูปธรรม”



ขั้นตอนการทำงานมี 4 ขั้น ขั้นที่ 1 การจัดการความเสี่ยง เช่น สภาพรถ พฤติกรรมการขับ ตัวรถไม่แข็งแรง เด็กกระโดดลงรถก่อนรถจอดสนิท จัดการจุดจอดหน้าโรงเรียน เป็นต้น

ขั้นที่ 2 การตั้งเครือข่ายภาคี มีใครบ้างที่เกี่ยวข้อง ศึกษาธิการจังหวัด ปภ.ขนส่ง สสจ. สอจร. มพบ. รับฟังปัญหา ปัญหาใดมีความเสี่ยงมากน้อยตามลำดับ อย่างเช่น ไม่มีจุดจอดรถ เป็นต้น เป้าหมายแรก ตั้งว่าขอให้ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานขนส่ง ให้รู้กฎหมาย สำนักงานขนส่งมารับรู้ปัญหาเรื่องตัวรถ มีการวางมาตรฐานกลาง เพื่อหาจุดสมดุลระหว่างความเป็นจริงในพื้นที่กับตัวกฎหมาย วันที่ 24 มี.ค. 2564 มีการขออนุญาตคุยกับทางขนส่งจังหวัด มีพี่เลี้ยง สอจร.เชียงราย มานำเสนอบทเรียนของที่เชียงราย สะท้อนความคิดจากผู้ประกอบการที่อยากรู้ตัวบทกฎหมาย สภาพตัวรถ ต้องทำอย่างไร ขอใบอนุญาตอย่างไร มีการทำหนังสือให้ อบจ.มาทาสีตีเส้น ขอป้ายหน้าโรงเรียน เป็นต้น

ขั้นที่ 3 วางแผนการลดความเสี่ยง มีเรื่องการทำมนุษย์ปัจจัย แรงปะทะ วงจรชีวิตเรื่องหลับใน ทางสำนักงานขนส่งมาอบรมเรื่องการออกใบอนุญาต แล้วมาลงตรวจออกใบรับรอง รถคันไหนผ่านสภาพจะอนุญาตให้ผ่านไปขอใบอนุญาตได้ มีการเรียนการสอนทำ CPR  การใช้ถังดับเพลิง ตรวจสายตา วางแผนการทำงานก่อนเปิดเทอม หลังเปิดเทอมทำการตรวจก่อนออกวิ่ง

ขั้นที่ 4 การติดตามและประเมินผล การสร้างความยั่งยืนต้องเริ่มจากทางโรงเรียน เป็นคำสั่งที่วางไว้ระยะยาว มีงบประมาณสนับสนุน มีการผลักดันเข้าโครงสร้างหลัก เช่น ศปถ.อำเภอ เป็นทางหนึ่งของการขับเคลื่อนอย่างยั่งยืน

      การดำเนินการในช่วงแรกเริ่มนั้น มีติดปัญหาบ้าง เช่น ประสบการณ์การขออนุญาตสำนักงานขนส่ง ช่วงแรกก็กลัวว่ารถจะไม่ถูกกฎหมาย อย่างหลังคาต้องเป็นโครงเหล็ก ห้ามเป็นผ้าใบ ต้องเตรียมเอกสารหลายใบ ค่อนข้างยุ่งยาก แต่ละคนอยู่กันต่างที่ ต้องติดต่อหากันตลอด แต่ด้วยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทำให้โครงการพัฒนาขึ้นมาได้เรื่อยๆ พร้อมกับได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานผู้เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานขนส่งสนับสนุนและให้ความอนุเคราะห์ในการขออนุญาต ลงพื้นที่ตรวจสภาพรถ , สคร.1 (สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1) อบรมให้ความรู้เรื่องมนุษย์ปัจจัย เรื่องการดูแลสุขภาพ , ศวปถ. (ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน) ประสานเครือข่าย สนับสนุนงบประมาณการอบรมให้ความรู้ ติดตามผลการดำเนินงานและเป็นที่ปรึกษาทางวิชาการ , โรงเรียนสารภีพิทยาคมสนับสนุนด้านสถานที่จัดประชุม ครูที่ปรึกษาอำนวยความสะดวกเรื่องจุดจอดรถ ประสานงานแจ้งข่าวสารต่างๆ , เทศบาลอบรมให้ความรู้ในเรื่องของการช่วยเหลือฉุกเฉิน การใช้ถังดับเพลิง และความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่นๆ อีกหลายหน่วยงาน







      ผลจากการดำเนินการที่ผ่านมาถือว่าพัฒนามากขึ้น ทั้งในแง่ของความปลอดภัยของตัวนักเรียน ทั้งด้านผู้ประกอบการที่ผ่านการอบรมในด้านต่างๆ การปรับปรุงและตรวจตราสภาพรถให้อยู่ในสภาพดี การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ประกอบการขับรถรับ-ส่ง โรงเรียน สมาคมผู้ปกครองรวมถึงหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง จากการติดตามการดำเนินงานในวันนี้ ผลที่เกิดขึ้นนับว่าเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย

ฝ่ายผู้ปกครอง รู้สึกคลายความกังวลลง หลังจากมีการจัดระบบรถรับ-ส่งนักเรียน

ฝ่ายเด็กนักเรียน ได้รับความปลอดภัยที่มากขึ้น มีผู้ประกอบการคอยช่วยดูแลนักเรียนไม่ให้ทำผิดหรือมีพฤติกรรมเสี่ยงให้ผู้ปกครองเป็นห่วง



ฝ่ายโรงเรียน ได้มีการแก้ไขจุดเสี่ยง ทาสีตีเส้นบริเวณหน้าโรงเรียน มีป้ายโรงเรียน ป้ายจำกัดความเร็ว เมื่อมีรถรับ-ส่งนักเรียน ก็ช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัดได้ในระดับหนึ่ง



ฝ่ายผู้ประกอบการ ปัจจุบันชมรมรับ-ส่งนักเรียน อำเภอสารภี มีสมาชิกจำนวน 23 คัน ขอใบอนุญาตผ่านหมดทุกคัน และกำลังจะมีเพิ่มมากขึ้น มีการตั้งกลุ่มไลน์ชมรม แจ้งเตือน รายงานให้กับภาคีทั้งหมด ทางชมรมสามารถไปคุยกับทางขนส่งได้เอง เมื่อปล่อยมือให้ดำเนินการเอง ได้สร้างช่องทางทำมาหากินเพิ่มขึ้น รับจ้างเป็นรถทัศนาจรสำหรับเด็กนักเรียนแบบถูกกฎหมาย โรงเรียนอื่นก็สามารถติดต่อขอใช้บริการได้



      ถึงแม้การดำเนินการจะพัฒนามาได้ด้วยดี แต่ก็ยังมีส่วนที่ต้องพัฒนาและปรับปรุงแก้ไขต่อไป เช่น ทางโรงเรียนพบว่า เมื่อเด็กนักเรียนมีเพิ่มมากขึ้น จำนวนมอเตอร์ไซด์ของนักเรียนก็ยังมีเพิ่มมากขึ้น จะต้องเตรียมทำข้อมูลขึ้นสื่อของโรงเรียน ปรึกษาหารือกันว่าจะทำอย่างไรให้ผู้ปกครองและนักเรียนหันมาเลือกใช้บริการรถรับ-ส่งนักเรียน หรืออีกเรื่องหนึ่งคือ ผู้ประกอบการรถรับ-ส่งนักเรียนบางคนที่ยังไม่ได้เข้าร่วมชมรม ก็ต้องประสานงานประชาสัมพันธ์ของโครงการ เชิญชวนให้มาเรียนรู้และทำความเข้าใจการเป็นสมาชิกชมรม เพื่อขยายเครือข่ายรถรับ-ส่งนักเรียนปลอดภัยให้ครอบคลุมทั่วพื้นที่ให้ได้ มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง สร้างความยั่งยืนให้กับชมรม เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่ายต่อไป

X