บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือที่เรียกกันว่า บัตรคนจน คือบัตรที่รัฐบาลปัจจุบันมอบให้สำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย เงินไม่พอใช้จ่ายในแต่ละเดือน รัฐจะให้การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยทำให้สามารถนำมาใช้จ่ายค่าอุปโภคบริโภคต่างๆ ได้ เช่น ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าเดินทาง เป็นต้น ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ารัฐบาลมีโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนี้
การลงทะเบียนจะเริ่มเปิดในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อคัดกรองผู้มีรายได้น้อยตัวจริงเข้ามาอยู่ในระบบและต้องการให้เข้าสู่ระบบได้หมด ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ลงทะเบียนมากกว่า 10 ล้านคน จึงจำเป็นต้องมีการตรวจสอบข้อมูลผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกปี เพื่อให้ทุกคนได้รับความเป็นธรรมและเท่าเทียม หากผู้รับบัตรสวัสดิการฯคนใดที่มีรายได้เกินเกณฑ์จะต้องสละสิทธิ์ทันที
ช่องทางการลงทะเบียน
- ลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์
- ลงทะเบียนผ่านสถาบันการเงินของรัฐ
- ที่ว่าการอำเภอ และประสานงานกับสำนักงานคลังจังหวัดเพื่อเร่งให้ข้อมูลการลงทะเบียนรอบใหม่กับประชาชน
จุดรับลงทะเบียนบัตรคนจน สามารถลงทะเบียนได้ตามธนาคารเหล่านี้ และหน่วยงานดังต่อไปนี้
สำหรับเกณฑ์การลงทะเบียนรอบใหม่
- ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป
- สัญชาติไทย
- ไม่เป็น ภิกษุ สามเณร นักพรต นักบวช ผู้ต้องขัง ผู้ถูกกักกัน ผู้ต้องกักขังบุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ฯ ข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงาน ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ ผู้รับบำเหน็จรายเดือนผู้รับบำนาญปกติหรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ ข้าราชการการเมือง ส.ส. ส.ว.
รายได้
ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก สลาก พันธบัตรและตราสารหนี้ภาครัฐ
(การตรวจสอบเกณฑ์ครอบครัว หมายถึง การตรวจสอบทั้งของผู้ลงทะเบียนและครอบครัว)
ไม่มีวงเงินกู้ หรือ มีวงเงินกู้ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง แต่ไม่เกินหลักเกณฑ์
คาดว่า จะสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ในขณะที่กรมบัญชีกลางได้เตรียมความพร้อมสำหรับการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบกันอย่างทั่วถึงผ่านคลังจังหวัดทั่วประเทศ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีประชาชนให้ความสนใจเข้ามาสอบถามกันเป็นจำนวนมาก
เงื่อนไขผู้มีสิทธิ์ลงทะเบียนรอบใหม่ 2565 นี้ เพิ่มเติมว่าจะต้องมีทรัพย์สินไม่เกินตามที่กำหนดดังนี้
กรณีผู้ลงทะเบียนไม่มีครอบครัว
ผู้ลงทะเบียนมีครอบครัว
รายละเอียดการรับสิทธิ์ สำหรับผู้ถือ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” หรือ “บัตรคนจน” ตามปฏิทินของเดือนสิงหาคม 2565
วันที่ 1 สิงหาคม 2565
1. วงเงินการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา จากร้านธงฟ้าประชารัฐ 400/500 บาทต่อเดือน (เป็นวงเงินเดิม 200/300 บาท และวงเงินจากโครงการเพิ่มกำลังซื้อ 200 บาท)
ใครเป็นผู้ได้ : ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกคน
2. ค่าเดินทาง ค่ารถโดยสารสาธารณะ แบ่งเป็น รถเมล์, รถไฟฟ้า (รฟม. และ BTS) 500 บาท, รถ บขส. 500 บาท และรถไฟ 500 บาทต่อคนต่อเดือน (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้)
ใครเป็นผู้ได้ : ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกคน
3. วงเงินซื้อก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อ 3 เดือน (3 เดือนใช้ได้ 1 ครั้ง) โดยนำบัตรไปซื้อกับร้านที่ร่วมรายการ (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้)
ใครเป็นผู้ได้ : ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกคน
วันที่ 15 สิงหาคม 2565
4. เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิ์ในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 50/100 บาทต่อเดือน (ผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิ์ตั้งแต่ ต.ค. 64 - ก.ค. 65 จะได้รับเงินเข้าบัตรฯ ในเดือน เม.ย. - ก.ย. 65)
ใครเป็นผู้ได้ : ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
กรณีสำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี จะได้รับเงินสงเคราะห์ฯ 100 บาทต่อเดือน ส่วนผู้สูงอายุที่มีรายได้มากกว่า 30,000-100,000 บาทต่อปี จะได้รับเงินสงเคราะห์ฯ 50 บาทต่อเดือน
วันที่ 18 สิงหาคม 2565
5. ค่าน้ำ 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สามารถกดเป็นเงินสดได้)
ใครเป็นผู้ได้ : ครัวเรือนที่ใช้น้ำประปาไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เรียบร้อย (ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2564 - ก.ย. 2565)
6. ค่าไฟ 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สามารถกดเป็นเงินสดได้)
ใครเป็นผู้ได้ : ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เรียบร้อย (ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2564 - ก.ย. 2565)
วันที่ 22 สิงหาคม 2565
7. เบี้ยความพิการเพิ่มเติม 200 บาท/เดือน (สามารถกดเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
ใครเป็นผู้ได้ : ผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
สำหรับผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะทำการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเพิ่มเป็น 1,000 บาท/เดือน (จากเดิม 800 บาท/เดือน) และผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะโอนเข้าบัญชีธนาคารให้ 800 บาท และได้รับเบี้ยความพิการเพิ่มอีก 200 บาท/เดือน ซึ่งมีผลตั้งแต่เดือน ต.ค. 2563 โดยเงินจะจ่ายเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลการจ่ายเงินได้ที่ Call Center บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 0-2109-2345 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น. หรือที่กรมบัญชีกลาง โทร. 0-2270-6400 ในวันและเวลาราชการ.