บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) เริ่มลงทะเบียนใหม่ยังไง ? ได้สิทธิ์อะไรบ้าง ?

08 สิงหาคม 2565, 16:52น.


      บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือที่เรียกกันว่า บัตรคนจน คือบัตรที่รัฐบาลปัจจุบันมอบให้สำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย เงินไม่พอใช้จ่ายในแต่ละเดือน รัฐจะให้การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยทำให้สามารถนำมาใช้จ่ายค่าอุปโภคบริโภคต่างๆ ได้ เช่น ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าเดินทาง เป็นต้น  ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ารัฐบาลมีโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนี้

      การลงทะเบียนจะเริ่มเปิดในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อคัดกรองผู้มีรายได้น้อยตัวจริงเข้ามาอยู่ในระบบและต้องการให้เข้าสู่ระบบได้หมด ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ลงทะเบียนมากกว่า 10 ล้านคน จึงจำเป็นต้องมีการตรวจสอบข้อมูลผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกปี เพื่อให้ทุกคนได้รับความเป็นธรรมและเท่าเทียม หากผู้รับบัตรสวัสดิการฯคนใดที่มีรายได้เกินเกณฑ์จะต้องสละสิทธิ์ทันที



ช่องทางการลงทะเบียน

- ลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์

- ลงทะเบียนผ่านสถาบันการเงินของรัฐ

- ที่ว่าการอำเภอ และประสานงานกับสำนักงานคลังจังหวัดเพื่อเร่งให้ข้อมูลการลงทะเบียนรอบใหม่กับประชาชน



จุดรับลงทะเบียนบัตรคนจน สามารถลงทะเบียนได้ตามธนาคารเหล่านี้ และหน่วยงานดังต่อไปนี้




  • ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)


  • ธนาคารออมสิน


  • ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)


  • กระทรวงมหาดไทย (ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ)


  • สำนักงานเขตกรุงเทพมหานาคร


  • สำนักงานเมืองพัทยา หรือ ณ สถานที่ที่หน่วยงานรับลงทะเบียนกำหนด



สำหรับเกณฑ์การลงทะเบียนรอบใหม่

- ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป

- สัญชาติไทย

ไม่เป็น ภิกษุ สามเณร นักพรต นักบวช ผู้ต้องขัง ผู้ถูกกักกัน ผู้ต้องกักขังบุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ฯ ข้าราชการ พนักงานราชการ พนักงาน ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ ผู้รับบำเหน็จรายเดือนผู้รับบำนาญปกติหรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ ข้าราชการการเมือง ส.ส.  ส.ว.



 รายได้




  • บุคคล รายได้ต่อปี ไม่เกิน 100,000 บาท


  • ครอบครัว รายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปี ไม่เกิน 100,000 บาท 



ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก สลาก พันธบัตรและตราสารหนี้ภาครัฐ




  • บุคคล ทรัพย์สินทางการเงินต่อปี ไม่เกิน 100,000 บาท


  • ครอบครัว ทรัพย์สินทางการเงินเฉลี่ยต่อคนต่อปี ไม่เกิน 100,000 บาท



(การตรวจสอบเกณฑ์ครอบครัว หมายถึง การตรวจสอบทั้งของผู้ลงทะเบียนและครอบครัว)



ไม่มีวงเงินกู้ หรือ มีวงเงินกู้ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง แต่ไม่เกินหลักเกณฑ์




  • วงเงินกู้บ้าน ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท


  • วงเงินกู้รถ ไม่เกิน 1 ล้านบาท


  • ต้องไม่มีบัตรเครดิต



      คาดว่า จะสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ในขณะที่กรมบัญชีกลางได้เตรียมความพร้อมสำหรับการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบกันอย่างทั่วถึงผ่านคลังจังหวัดทั่วประเทศ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีประชาชนให้ความสนใจเข้ามาสอบถามกันเป็นจำนวนมาก



เงื่อนไขผู้มีสิทธิ์ลงทะเบียนรอบใหม่ 2565 นี้ เพิ่มเติมว่าจะต้องมีทรัพย์สินไม่เกินตามที่กำหนดดังนี้

กรณีผู้ลงทะเบียนไม่มีครอบครัว




  • ห้องชุดขนาดไม่เกิน 35 ตร.ม.


  • ที่ดินแยกจากที่อยู่อาศัย




  • ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 1 ไร่


  • ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตร ไม่เกิน 10 ไร่




  • ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)


    • บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ห้องแถว และ ตึกแถว ไม่เกิน 25 ตารางเมตร


    • ใช้อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตร ไม่เกิน 10 ไร่


    • ใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 1 ไร่ (จะต้องมีขนาดขึ้นที่รวมกันทั้งหมด เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 10 ไร่ และ ไม่ใช่เพื่อการเกษตรไม่เกิน 1 ไร่)





ผู้ลงทะเบียนมีครอบครัว




  • ห้องชุดขนาดไม่เกิน 35 ตร.ม./คน


  • กรณีเป็นเจ้าของร่วมกันไม่เกิน 35 ตร.ม.


  • ที่ดินแยกจากที่อยู่อาศัย


    • ในกรณีที่ใช้ประโยซที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 2 ไร่


    • ในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตร ไม่เกิน 20 ไร่




  • ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (บ้านพร้อมที่ดิน)


    • บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ห้องแถว และ ตึกแถว


    • กรณีเป็นจ้าของแยกจากกัน ไม่เกิน 25 ตร.ว /คน


    • กรณีเป็นเจ้าของร่วมกัน ไม่เกิน 25 ตร.ว.


    • ใช้อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตร ไม่เกิน 20 ไร่


    • ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ไม่ใช่เมื่อการเกษตร ไม่เกิน 2 ไร่ (จะต้องมีขนาดขึ้นพื้นที่รวมกันทั้งหมด เพื่อการเกษตรไม่กิน 20 ไร่ และไม่ใช้เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 2 ไร่)







รายละเอียดการรับสิทธิ์ สำหรับผู้ถือ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” หรือ “บัตรคนจน” ตามปฏิทินของเดือนสิงหาคม 2565

วันที่ 1 สิงหาคม 2565

1. วงเงินการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา จากร้านธงฟ้าประชารัฐ 400/500 บาทต่อเดือน (เป็นวงเงินเดิม 200/300 บาท และวงเงินจากโครงการเพิ่มกำลังซื้อ 200 บาท)

ใครเป็นผู้ได้ : ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกคน

2. ค่าเดินทาง ค่ารถโดยสารสาธารณะ แบ่งเป็น รถเมล์, รถไฟฟ้า (รฟม. และ BTS) 500 บาท, รถ บขส. 500 บาท และรถไฟ 500 บาทต่อคนต่อเดือน (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้)

ใครเป็นผู้ได้ : ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกคน

3. วงเงินซื้อก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อ 3 เดือน (3 เดือนใช้ได้ 1 ครั้ง) โดยนำบัตรไปซื้อกับร้านที่ร่วมรายการ (ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้)

ใครเป็นผู้ได้ : ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกคน

วันที่ 15 สิงหาคม 2565

4. เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิ์ในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 50/100 บาทต่อเดือน (ผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิ์ตั้งแต่ ต.ค. 64 - ก.ค. 65 จะได้รับเงินเข้าบัตรฯ ในเดือน เม.ย. - ก.ย. 65)

ใครเป็นผู้ได้ : ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

      กรณีสำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี จะได้รับเงินสงเคราะห์ฯ 100 บาทต่อเดือน ส่วนผู้สูงอายุที่มีรายได้มากกว่า 30,000-100,000 บาทต่อปี จะได้รับเงินสงเคราะห์ฯ 50 บาทต่อเดือน

วันที่ 18 สิงหาคม 2565

5. ค่าน้ำ 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สามารถกดเป็นเงินสดได้)

ใครเป็นผู้ได้ : ครัวเรือนที่ใช้น้ำประปาไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เรียบร้อย (ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2564 - ก.ย. 2565)

6. ค่าไฟ 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน (สามารถกดเป็นเงินสดได้)

ใครเป็นผู้ได้ : ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เรียบร้อย (ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2564 - ก.ย. 2565)

วันที่ 22 สิงหาคม 2565

7. เบี้ยความพิการเพิ่มเติม 200 บาท/เดือน (สามารถกดเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)

ใครเป็นผู้ได้ : ผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

      สำหรับผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะทำการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเพิ่มเป็น 1,000 บาท/เดือน (จากเดิม 800 บาท/เดือน) และผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะโอนเข้าบัญชีธนาคารให้ 800 บาท และได้รับเบี้ยความพิการเพิ่มอีก 200 บาท/เดือน ซึ่งมีผลตั้งแต่เดือน ต.ค. 2563 โดยเงินจะจ่ายเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

      หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลการจ่ายเงินได้ที่ Call Center บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 0-2109-2345 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น. หรือที่กรมบัญชีกลาง โทร. 0-2270-6400 ในวันและเวลาราชการ.



X