วันนี้ (2 มี.ค.65) เวลา 10.00 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานเมื่อวันที่ 25 ก.พ. – 2 มี.ค. 65 เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส ยะลา นครศรีธรรมราช พัทลุง ปัตตานี สงขลา และตรัง รวม 35 อำเภอ 174 ตำบล 629 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 20,730 ครัวเรือนผู้เสียชีวิต 1 ราย ปัจจุบันยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส ยะลา ปัตตานี รวม 21 อำเภอ 112 ตำบล 397 หมู่บ้าน 18,371 ครัวเรือน สถานการณ์ในภาพรวมจังหวัดนราธิวาสและจังหวัดยะลา ระดับน้ำลดลง ขณะที่จังหวัดปัตตานีระดับน้ำเพิ่มขึ้น ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง พร้อมเร่งสูบระบายน้ำท่วมขังออกจากพื้นที่ รวมถึงสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานเมื่อวันที่ 25 ก.พ.- 2 มี.ค. 65 ได้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส ยะลา นครศรีธรรมราช พัทลุง ปัตตานี สงขลา และตรัง รวม 35 อำเภอ 174 ตำบล 629 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 20,730 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 1 ราย
ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดได้แก่ นราธิวาส ยะลา และปัตตานี รวม 21 อำเภอ 112 ตำบล 397 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 18,371 ครัวเรือน ดังนี้
1.นราธิวาส เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอรือเสาะ อำเภอแว้ง อำเภอศรีสาคร อำเภอยี่งอ อำเภอสุคิริน อำเภอจะแนะ อำเภอระแงะ และอำเภอสุไหงโก-ลก รวม 32 ตำบล 108 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,264 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
2.ยะลา เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอรามัน และอำเภอเมืองยะลา รวม 7 ตำบล 20 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,836 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 1 ราย ระดับน้ำลดลง
3.ปัตตานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 11 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปัตตานี อำเภอแม่ลาน อำเภอหนองจิก อำเภอโคกโพธิ์ อำเภอทุ่งยางแดง อำเภอสายบุรี อำเภอกะพ้อ อำเภอไม้แก่น อำเภอยะรัง อำเภอปะนาแระ อำเภอมายอ รวม 73 ตำบล 269 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 10,271 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น


สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยทหารในพื้นที่ อปท. อปพร.อาสาสมัคร มูลนิธิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง พร้อมนำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย อาทิ เรือ รถไฟฟ้าส่องสว่าง สะพานแบรีย์เครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำท่วมขังในทุกพื้นที่ รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง