7 ธ.ค. 64 รฟม. ปิดเบี่ยงจราจรช่องทางหลักและช่องทางคู่ขนาน บนถนนกาญจนาภิเษก ฝั่งขาเข้า บริเวณ กม.40+800 และ กม.42+500 ในช่วงเวลา 23.00 – 04.00 น.

01 ธันวาคม 2564, 14:15น.

ประชาสัมพันธ์

   การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แจ้งว่า บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธา โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี มีความจำเป็นต้องปิดเบี่ยงจราจรช่องทางหลักชั่วคราวทุกช่องทาง บนถนนกาญจนาภิเษก ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ฝั่งขาเข้า มุ่งหน้าบางนา บริเวณ กม.40+800 และปิดเบี่ยงจราจรช่องทางคู่ขนาน 1 ช่องทางขวา บนถนนกาญจนาภิเษก ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 ฝั่งขาเข้า มุ่งหน้าบางนา บริเวณ กม.42+500 เพื่อดำเนินงานติดตั้งคานทางวิ่ง (Guideway Beam)  สำหรับก่อสร้างโครงการฯ วันที่ 7 ธันวาคม 2564 ในช่วงเวลา 23.00 – 04.00 น. ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการมุ่งหน้าบางนา  ให้ใช้ช่องทางซ้าย เพื่อเบี่ยงเข้าช่องทางคู่ขนาน และใช้ 1 ช่องทางซ้าย เพื่อมุ่งหน้าบางนา ทดแทน และในช่วงที่มีการปิดจราจรช่องทางหลักและช่องทางคู่ขนานชั่วคราวทุกช่องทาง ประมาณ 5 – 10 นาที ให้ผู้ใช้ทางใช้ทางลงมีนบุรี และกลับรถบริเวณบีควิก และใช้ช่องทางซ้าย เพื่อเบี่ยงเข้าถนนนกาญจนาภิเษก ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 เพื่อมุ่งหน้าบางนา ทดแทน



   ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวอาจส่งผลให้การจราจรชะลอตัว ติดขัด และอาจมีเสียงดังรบกวนโดยระหว่างดำเนินงาน จะมีการติดตั้งป้ายเตือนล่วงหน้าก่อนถึงจุดเบี่ยง ป้ายจราจร กรวยยางและสัญญาณไฟส่องสว่าง เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้เส้นทาง รฟม. จึงขออภัยในความไม่สะดวก โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างได้ตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 30 ข้อ 6 (2) ลงวันที่ 1 สิงหาคม 2564 และได้รับการอนุญาตเคลื่อนย้ายแรงงาน จากพื้นที่พักชั่วคราว เพื่อออกมาทำงานก่อสร้างในช่วงบริเวณดังกล่าว  โดยจะดำเนินการภายใต้มาตรการป้องกันควบคุมโรค ในพื้นที่เฉพาะ (Bubble and Seal)  และการเดินทางเคลื่อนย้ายระหว่างที่พักและสถานที่ทำงาน ภายใต้การกำกับควบคุม (Sealed Route) ที่กระทรวงสาธารณสุข หรือทางราชการกำหนด สำหรับผู้ที่ต้องการสอบถามรายละเอียดการเบี่ยงจราจรเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2610 4915, 09 8827 5555 และติดตามข้อมูลโครงการฯ ได้ที่เว็บไซต์ www.mrta-pinkline.com และไลน์แอด : @mrtpinkline

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

X