15 พ.ย.64 ปภ.รายงาน ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในภาพรวม 11 จังหวัด ประสานพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน

15 พฤศจิกายน 2564, 10:02น.


     15 พ.ย.64 เวลา 09.40 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานมีสถานการณ์อุทกภัย รวม 11 จังหวัด โดยมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ตั้งแต่วันที่ 10 - 15 พ.ย. 64 ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ในพื้นที่ 9 จังหวัด รวม 42 อำเภอ 129 ตำบล 536 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,860 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 2 ราย ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 4 จังหวัด (ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา) รวม 21 อำเภอ 93 ตำบล  458 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,794 ครัวเรือน สถานการณ์ในภาพรวมระดับน้ำลดลง ดังนี้ 


     1. ชุมพร น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหลังสวน อำเภอทุ่งตะโก อำเภอสวี อำเภอพะโต๊ะ อำเภอเมืองชุมพร และอำเภอปะทิว รวม 46 ตำบล 348 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,022 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 2 ราย ระดับน้ำทรงตัว 


     2. สุราษฎร์ธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอดอนสัก อำเภอท่าชนะ อำเภอไชยา อำเภอเกาะสมุย และอำเภอกาญจนดิษฐ์ รวม 15 ตำบล 36 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 950 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง 


     3. นครศรีธรรมราช น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอพระพรหม อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอท่าศาลา อำเภอนาบอน อำเภอบางขัน และอำเภอทุ่งสง รวม 20 ตำบล 53 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 260 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง 


     4. สงขลา น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสงขลา อำเภอ อำเภอระโนด และอำเภอสทิงพระ รวม 12 ตำบล 21 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 562 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง




     ในขณะที่อิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ พายุไลออนร็อก พายุคมปาซุ และร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบน ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 15 พ.ย. 64 ทำให้น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 7 จังหวัด รวม 24 อำเภอ 258 ตำบล 1,685 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 93,755 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 35 ราย ภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายในหลายพื้นที่แล้ว ระดับน้ำลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ได้แก่ 


     5. หนองบัวลำภู ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอโนนสัง รวม 5 ตำบล 14 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 188 ครัวเรือน 


     6. อุบลราชธานี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และอำเภอวารินชำราบ รวม 4 ตำบล 26 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 577 ครัวเรือน


ภาคกลาง 5 จังหวัด รวม 21 อำเภอ 249 ตำบล 1,645 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 92,990 ครัวเรือน ได้แก่ 


     7. สุพรรณบุรี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสองพี่น้อง และอำเภอบางปลาม้า รวม 28 ตำบล 267 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 23,053 ครัวเรือน 


     8. อ่างทอง ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอ่างทอง อำเภอไชโย อำเภอป่าโมก และอำเภอวิเศษชัยชาญ รวม 29 ตำบล 142 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,467 ครัวเรือน 


     9. พระนครศรีอยุธยา ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอผักไห่ อำเภอเสนา อำเภอบางบาล อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอบางไทร อำเภอบางปะอิน และอำเภอลาดบัวหลวง รวม 106 ตำบล 380 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 49,385 ครัวเรือน 


     10. ปทุมธานี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี อำเภอสามโคก และอำเภอลาดหลุมแก้ว รวม 25 ตำบล 81 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,176 ครัวเรือน 


     11. นครปฐม ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางเลน อำเภอนครชัยศรี อำเภอสามพราน อำเภอกำแพงแสน และอำเภอดอนตูม รวม 61 ตำบล 475 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,909 ครัวเรือน




     ภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายในหลายพื้นที่แล้ว ระดับน้ำลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระดมสรรพกำลังในการระบายน้ำออกจากพื้นที่ และดูแลให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
X