อยู่บ้านก็เที่ยวได้แบบชิลล์ ๆ เพียงคลิกอ่านรีวิว จะพาคุณลิ่วสู่มหาสารคาม ไปไหว้พระขอพร สัญจรทางสายบุญ พร้อมชมพุทธศิลป์ ณ ถิ่นพุทธมณฑลอีสาน

01 กันยายน 2564, 16:30น.


      ในช่วงที่โควิด-19 กำลังระบาด ททท. กับ จส.100 ขอให้ทุกท่านระมัดระวังตัว หากสถานการณ์ยังไม่ชัวร์อย่าเพิ่งรีบไปเที่ยวไหน ใช้ชีวิตปลอดภัยรักษาสุขภาพอนามัยกันให้ดี ๆ ระหว่างนี้อาจท่องเที่ยวแบบออนไลน์ อ่านรีวิวอยู่ที่บ้านสบาย ๆ ก็ไปถึงจุดหมายได้เช่นกัน 

      และในทริปนี้เราจะชวนคุณไปไหว้พระขอพร สัญจรเมืองพุทธศิลป์ถึงถิ่นพุทธมณฑลอีสาน คือจังหวัดมหาสารคามที่มีพระพุทธรูปโบราณตามตำนานเมือง และเลื่องลือในความงามของวัดวาอารามต่าง ๆ เราจะแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวสายบุญแถมพาคุณไปแวะสะพานไม้เก่าแก่ที่อำเภอแกดำ ก่อนไปสักการะพระธาตุนาดูนเพื่อเพิ่มพูนสิริมงคลให้กับชีวิต... เริ่มต้นการเดินทางครั้งนี้แค่คลิกเดียว แล้วเลี้ยวตามเส้นทางมาได้เลย


เส้นทางท่องเที่ยว จ.มหาสารคาม : https://goo.gl/maps/fKxbSJf9wvPfQwbk8



พระพุทธมิ่งเมือง

      เริ่มต้นกันที่วัดสุวรรณาวาส ตำบลโคกพระ อำเภอกันทรวิชัย (อยู่ติดกับอำเภอเมืองมหาสารคาม) เพื่อไปสักการะ “พระพุทธมิ่งเมือง” องค์พระยืนโบราณยุคทวารวดี สลักจากศิลาแลง สูงราว 4 เมตร ตำนานกล่าวว่าเมืองกันทรวิชัยมีชื่อในสมัยโบราณว่า “เมืองคันธาธิราช” บุตรชายเจ้าเมืองชื่อท้าวลินทองเป็นคนจิตใจโหดเหี้ยม ได้ก่อกบฏชิงเมืองจากบิดาพร้อมทั้งจับบิดาและมารดาไปขัง และทรมานจนตาย แต่เมื่อท้าวลินทองครอบครองเมืองได้เกิดเหตุเภทภัยมากมาย สุดท้ายท้าวลินทองเกิดความสำนึกจึงสร้างพระพุทธรูปสององค์ให้แก่บิดาและมารดาเพื่อเป็นการไถ่บาป คือ “พระพุทธมิ่งเมือง” ที่วัดสุวรรณาวาส  และ “พระพุทธรูปยืนมงคล” ที่วัดพุทธมงคล ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 1 กิโลเมตร

พระพุทธมิ่งเมือง : https://goo.gl/maps/zQUQQJhp6reAwWgU7





พระพุทธรูปยืนมงคล

      เราจะไปสักการะพระพุทธรูปโบราณตามตำนานเมืองให้ครบทั้งสององค์ จากวัดสุวรรณาวาส ขับรถไปยูเทิร์นตรงสี่แยกตัดกับถนนสุขาภิบาล 22  จากนั้นจึงขับต่อไปบนถนนถีนานนท์ (ทางหลวงแผ่นดิน 213) ราว 1 กิโลเมตร ก็จะถึงวัดพุทธมงคล มี “พระพุทธรูปยืนมงคล” ประดิษฐานอยู่ข้างต้นโพธิ์เก่าแก่ที่ได้ห่อหุ้มองค์พระบางส่วนพร้อมทั้งแผ่กิ่งก้านใบให้ร่มเงารอบบริเวณ โดยพระพุทธรูปยืนมงคลมีขนาดและพุทธลักษณะคล้ายกับพระพุทธมิ่งเมือง สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่ง “หลวงพ่อพระยืน” แห่งเมืองกันทรวิชัยทั้ง 2 องค์ นับเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองที่ชาวมหาสารคามให้ความเลื่อมใสศรัทธา และเป็นปูชนียวัตถุที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีอย่างยิ่ง

พระพุทธมิ่งเมือง – พระพุทธรูปยืนมงคล : https://goo.gl/maps/n3JHgjvxCkWwTgn28





วัดป่าวังน้ำเย็น

      มหาสารคาม เป็นจังหวัดที่มีวัดวาอารามงดงามหลายแห่ง และหนึ่งในวัดดังอยู่ที่บ้านวังน้ำเย็นเขตอำเภอเมืองใกล้ ๆ นี้เอง... จากวัดพุทธมงคลให้ขับรถไปบนถนนถีนานนท์โดยมุ่งหน้าไปทางอำเภอเมืองมหาสารคาม ประมาณ 11 กิโลเมตร จะพบทางแยกบ้านวังยาวให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางอีก 3.5 กิโลเมตร พอถึงสามแยกให้เลี้ยวขวาและขับต่อไปประมาณ 2 กิโลเมตร ระหว่างทางเป็นท้องทุ่งทำให้เริ่มมองเห็นเจดีย์สีทององค์สูงใหญ่ตั้งแต่ไกล ๆ นั่นคือ “พระมหาธาตุเจดีย์ศรีมหาสารคาม” แห่งวัดป่าวังน้ำเย็น

      “วัดป่าวังน้ำเย็น” หรือวัดพุทธวนาราม ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 30 ไร่ ในเขตบ้านวังน้ำเย็น ตำบลเกิ้ง อำเภอเมืองมหาสารคาม เป็นพุทธสถานที่มีความตระการตาโดดเด่นด้วยพระมหาธาตุเจดีย์ศรีมหาสารคาม สูง 69 เมตร ภายในบรรจุสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อาทิ  พระบรมสารีริกธาตุ พระพุทธรูปทองคำ 3 องค์ น้ำหนักกว่า 12 กิโลกรัม พระเนื้อผง 84,000 องค์ พระบูชา 84,000 องค์ พระกรุพระธาตุนาดูน ฯลฯ นอกจากนั้นบริเวณวัดยังมีศาลาการเปรียญ อุโบสถ ถาวรวัตถุต่าง ๆ ล้วนสร้างอย่างประณีตบรรจงด้วยไม้สักทองและไม้ตะเคียนทอง รวมทั้งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปซึ่งมีความวิจิตรงดงามหลายองค์ เป็นวัดที่ได้รับความนับถือศรัทธาจากพุทธศาสนิกชน และมีนักท่องเที่ยวมาเยือนอย่างไม่ขาดสาย

พระพุทธรูปยืนมงคล - วัดป่าวังน้ำเย็น : https://goo.gl/maps/JBAAzx6QcFyzDKCS6





วัดหนองหูลิง

      ถ้ายังไม่อิ่มบุญ ขอชวนคุณไปไหว้พระขอพรและสัญจรชมพุทธศิลป์ที่วัดอีกแห่งหนึ่งในอำเภอแกดำ... เดินทางออกจากวัดป่าวังน้ำเย็น ขับรถไปทางตำบลเกิ้งประมาณ 1.5 กิโลเมตร มองทางด้านขวาจะพบซอยมหาชัยดำริห์ 21 ให้ขับเข้าไปอีก 600 เมตร พอผ่านสำนักงานพาณิชย์จังหวัดมหาสารคามให้เลี้ยวซ้ายอีกทีเพื่อเข้าสู่ถนนมนตรีบำรุง ขับต่อไปอีก 600 เมตรจะพบทางแยกตัดกับถนนแจ้งสนิท (ทางหลวงแผ่นดิน 23) ให้เลี้ยวซ้ายแล้วขับไปประมาณ 10 กิโลเมตรสังเกตริมถนนจะเห็นป้ายชี้ทางไปบ้านนกกระโดก จึงเลี้ยวขวาขับเข้าไปตามทางอีก 5.5 กิโลเมตร ก็จะถึงวัดหนองหูลิง ซึ่งมี “อุโบสถรูปทรงเรืออนันตนาคราช” เป็นเอกลักษณ์ของพุทธสถานแห่งนี้

      “วัดหนองหูลิง” เป็นวัดเก่าแก่อยู่ในตำบลมิตรภาพ อำเภอแกดำ ก่อตั้งเมื่อปี 2476 ต่อมาราวปี 2549 จึงเริ่มก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่รูปทรงเรืออนันตนาคราช ซึ่งมีการออกแบบงานพุทธศิลป์อย่างสวยงาม พร้อมทั้งยังได้แฝงปริศนาธรรมไว้ในสถาปัตยกรรม เช่น ทางขึ้นลงอุโบสถมี 4 ทิศ หมายถึง อริยสัจ 4 รูปพญานาคราชที่แผ่พังพาน 5 เศียรบนกำแพง หมายถึง ศีล 5 ทางเข้าอุโบสถเป็นประตูทรงเตี้ย ทำให้ต้องเดินก้มตัวเข้าไปในลักษณะของการนอบน้อมถ่อมตน พระประธานภายในอุโบสถเป็นพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาเสมือนการได้รับฟังพระธรรมคำสอนจากพระพุทธองค์ เป็นต้น ดังนั้นหากคุณได้มาสักการะไหว้พระขอพรที่วัดหนองหูลิง อย่าลืมเดินชมรอบ ๆ อุโบสถรูปทรงเรืออนันตนาคราช และลองค้นหาปริศนาธรรมที่อยู่ในความงามของพุทธศิลป์

วัดป่าวังน้ำเย็น - วัดหนองหูลิง : https://goo.gl/maps/Kb4bKGP2WSfhjvzbA





สะพานไม้แกดำ

      ไหน ๆ มาแถวนี้แล้ว ต้องขับรถไปชมมนต์เสน่ห์ของสะพานไม้แกดำที่ห่างไปไม่ไกล ออกจากวัดหนองหูลิงกลับไปที่แยกบ้านหนองดุกแล้วเลี้ยวขวาขับมุ่งหน้าไปทางบ้านเสือกินวัวระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร พอผ่านโรงเรียนบ้านเสือกินวัวโคกน้อยให้เลี้ยวซ้าย ขับไปอีก 120 เมตรให้เบี่ยงขวาขับมุ่งหน้าไปทางตำบลแกดำเป็นระยะทางกว่า 6 กิโลเมตร พอผ่านวัดโพธิ์ศรีแกดำให้เลี้ยวซ้ายขับไปอีก 200 เมตร แล้วเลี้ยวซ้ายอีกทีขับตรงไปอีกหน่อยก็จะถึงจุดหมาย คือ “สะพานไม้แกดำ” ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี ทอดข้ามอ่างเก็บน้ำหนองแกดำเป็นระยะทาง 1 กิโลเมตร นอกจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีทัศนียภาพอันสวยงามแล้ว สะพานไม้เก่าแก่แห่งนี้คือสัญลักษณ์ของมิตรภาพและความผูกพันระหว่างราษฎรสองหมู่บ้าน

      เมื่อครั้งอดีตสะพานไม้แกดำเป็นเพียงสะพานไม้เล็ก ๆ ที่ราษฎรในหมู่บ้านหัวขัวกับหมู่บ้านแกดำร่วมกันสร้างลัดเลาะแทรกไปตามป่าบัวให้พอเป็นทางเดินไปมาหาสู่กันได้ จนกระทั่งปี 2507 มีการขุดลอกหนองแกดำให้เป็นพื้นที่กักเก็บน้ำทำให้สะพานเดิมใช้การไม่ได้ ราษฎรสองหมู่บ้านจึงได้ช่วยกันซ่อมแซมต่อเติมสะพานให้มีความแข็งแรงมั่นคง เด็ก ๆ ใช้เดินไปโรงเรียน พุทธศาสนิกชนใช้เดินไปทำบุญที่วัดดาวดึงษ์แกดำที่อยู่อีกฝั่ง ราษฎรสองหมู่บ้านสามารถสัญจรไปมาหาสู่กันได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น จนได้รับการขนานนามว่า “สะพานเชื่อมใจ” และไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน หรือสะพานจะเก่าแก่อย่างไร หากแต่ราษฎรสองหมู่บ้านยืนยันที่จะอนุรักษ์สะพานไม้แกดำให้มีสภาพเหมือนเดิม เป็นมรดกที่คงอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและวิถีชีวิตอันเรียบง่ายในชนบท... เป็นจุดชมวิวและถ่ายรูปที่คุณไม่ควรพลาดนะ ขอบอกไว้เลย

วัดหนองหูลิง – สะพานไม้แกดำhttps://goo.gl/maps/fyqVMLG8JyFcHTdRA







พระธาตุนาดูน

      สุดท้าย เราจะพาคุณไปสักการะ “พระธาตุนาดูน” พุทธสถานอันศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองมหาสารคาม... จากสะพานไม้แกดำขับรถมุ่งหน้าไปที่ตำบลโคกก่อ ระยะทางประมาณ 8.5 กิโลเมตร พอผ่านโรงเรียนบ้านดอนหว่านหัวหนองจะพบทางแยกที่มีทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2040 ตัดผ่าน ให้เลี้ยวซ้ายแล้วขับมุ่งหน้าไปทางอำเภอนาดูน ระยะทางประมาณ 41.6 กิโลเมตร พอผ่านหน้าที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลพระธาตุ สังเกตทางด้านขวาจะพบถนนลาดยางขนาดสองเลนแยกจากเส้นทางหลัก ให้เลี้ยวแล้วขับเข้าไปอีกประมาณ 5 กิโลเมตร ก็จะถึงบริเวณ พุทธมณฑลอีสาน หรือ พระธาตุนาดูน จุดหมายปลายทางของเรา

      ย้อนกลับไปเมื่อปี 2522 มีการค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่าบริเวณบ้านนาดูน อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม เคยเป็นที่ตั้งของนครจัมปาศรี เมืองโบราณในยุคอารยธรรมทวารวดี โดยมีการขุดพบกรุพระพิมพ์โบราณจำนวนมาก ที่สำคัญคือ การขุดพบสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ บรรจุในตลับทองคำ เงิน และสำริด สันนิษฐานว่ามีอายุอยู่ในพุทธศตวรรษที่ 13 – 15 ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดีและเป็นสิริมงคลแก่ชาวมหาสารคาม รัฐบาลสมัยนั้นจึงมีดำริให้ก่อสร้างพระธาตุนาดูนขึ้นตามแบบสถูปที่ได้ค้นพบ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุให้คงอยู่คู่บ้านคู่เมืองตลอดไป รวมทั้งจัดตั้งให้เป็น “พุทธมณฑลอีสาน” ศูนย์กลางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2530 บนเนื้อที่กว่า 902 ไร่ โดยบริเวณรอบ ๆ องค์พระธาตุได้จัดทำเป็นสวนรุกขชาติ สวนสมุนไพร อุทยานลานไผ่ อีกทั้งเป็นที่ตั้งของสถาบันวิจัยวลัยรุกขเวช พิพิธภัณฑ์บ้านอีสาน พิพิธภัณฑ์นครจัมปาศรี ฯลฯ ว่ากันว่า... ถ้ามาท่องเที่ยวจังหวัดมหาสารคาม แล้วไม่ได้มาสักการะพระธาตุนาดูน ถือว่ายังมาไม่ถึงเมืองมหาสารคามนะจะบอกให้

สะพานไม้แกดำ – พระธาตุนาดูน : https://goo.gl/maps/12wE6FzVSsVRdc6D6





      อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ยังต้องเว้นระยะห่างทางสังคม ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันต่าง ๆ ดูแลรักษาสุขภาพอนามัย รอให้สถานการณ์โควิดคลี่คลาย และเมื่อถึงเวลานั้น อย่าลืมปักหมุดเที่ยววันหยุดที่จังหวัดมหาสารคาม อาจจะคลิกอ่านรีวิวของเราอีกทีแล้วตามเส้นทางที่ผ่านมานี้กันได้เลย ไม่ว่าจะสายบุญ หรือไม่ใช่สายบุญ คุณก็จะได้พบกับความอิ่มใจ... เพราะเที่ยวเมืองรองได้รับความสุขไม่เป็นสองรองใคร  

#หยุดยาวเที่ยวไหนดี  

#1672เพื่อนร่วมทาง 

#เที่ยวเมืองรองไปกับ1672

#TAT

#JS100

X