ช่วงนี้ขับรถเช้าๆ มักมีหมอกปกคลุม ทัศนวิสัยไม่ดี มองด้านหน้าไม่เห็น มองด้านหลังก็ลำบาก มีวิธีปฏิบัติง่ายๆ 3 ด้าน ที่ใช้ได้ทั้งในเขตเมืองที่มีหมอก หรือใช้เวลาไปเที่ยวดอย ดังนี้ 1. การเตรียมรถ - ควรสตาร์ทรถทิ้งไว้ 1-2 นาที เพื่อใช้เวลาวอร์มรถ เพราะอุณหภูมิต่ำกว่าปกติ - เปิดแอร์ในอุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่หนาวหรืออุ่นจนเกินไป - หากอุณหภูมิภายในรถอุ่นกว่าภายนอก ฝ้าจะขึ้นกระจกด้านใน ควรจอดรถเช็ดออก - หากอุณหภูมิภายนอกรถอุ่นกว่าภายใน ฝ้าจะขึ้นกระจกด้านนอก ใช้ที่ปัดน้ำฝนช่วย - วิธีปรับอุณหภูมิให้สัมพันธ์กัน คือการเปิดกระจกรถวิ่ง 2. การใช้แสงสว่าง - เปิดไฟหน้า โคมไฟใหญ่ปกติ เพื่อแสงสว่างมองทาง - เปิดไฟตัดหมอกหน้า ช่วยส่องทะลุหมอก เพิ่มแสงสว่างระยะใกล้ในระนาบกว้างได้ - เปิดไฟตัดหมอกหลัง เพื่อเป็นสัญญาณให้รถคันหลังเห็น - เปิดไฟไล่ฝ้ากระจกหลังเมื่อฝ้าขึ้น แต่อย่าเปิดค้างนาน เพราะทำให้เส้นหลอดไฟขาด - ไม่ควรเปิดไฟตัดหมอกทิ้งไว้ถ้าไม่มีหมอก เพราะแยงตาผู้อื่น ถูกปรับ 500 บาท - ไม่ควรเปิดไฟสูง เพราะไม่ได้ทำให้การมองเห็นดีขึ้น และยังแยงตาผู้อื่น - ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉินค้างไว้ เพราะจะทำให้รถคันหลังสับสน - รถที่ใช้ไฟหน้าแบบซีน่อน แสงจะฟุ้งกว่าปกติ ควรใช้ไฟตัดหมอกช่วย 3. การเว้นระยะ - ทิ้งระยะห่างกับรถคันหน้า 15 เมตร หรือประมาณ 4 คันรถ - ใช้ความเร็วเหมาะสม 60-80 กม./ชม. ไม่เร็วไม่ช้าเกินไป และมั่นใจว่าควบคุมรถได้ - การขับขี่ควรยึดเส้นถนนเป็นหลัก อย่าขับคร่อมเลน และเปลี่ยนเลนโดยไม่จำเป็น - สังเกตสัญญาณไฟเบรคท้ายรถคันหน้าเสมอ หากไฟเบรคขึ้น ให้แตะเบรคตามเบาๆ - หมั่นมองกระจกหลัง หากมีรถขับจี้ ควรชิดซ้ายให้แซง - ไม่ควรขับๆเบรคๆ เพราะจะทำให้การจราจรเสียจังหวะ - หากไม่มั่นใจ ควรจอดในบริเวณที่ปลอดภัยตามปั๊มน้ำมัน ไม่ควรจอดริมถนน BY :dj .อภิสุข เวทยวิศิษฏ์