รักน้ำตก ชอบทะเล หลงเสน่ห์วัฒนธรรม ผูกพันศาสนา เที่ยวครบจบที่ “นราธิวาส”

29 เมษายน 2564, 11:00น.


      ช่วงนี้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ขอฝากให้นักท่องเที่ยวทุกท่านดูแลรักษาสุขอนามัยและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด รักษาระยะห่าง ไม่ไปในสถานที่ที่มีผู้คนแออัด สวมใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์  ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าเพิ่งรีบไปไหน อาจจะวางแผนการเดินทางไว้ในใจก่อนก็ได้ พอสถานการณ์คลี่คลายค่อยไปท่องเที่ยวกันอย่างจุใจอีกที

      อย่างที่ ททท. และ จส.100 จะมาแนะนำในรีวิวนี้ รับรองว่าจุใจแน่นอนด้วยแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายสไตล์แบบจัดครบจบในทริปเดียวที่จังหวัดนราธิวาส ทั้งไปเล่นน้ำตก ชมทะเล ต้องมนต์เสน่ห์วัฒนธรรม สัมผัสวิถีชุมชน แวะสักการะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ฯลฯ  คุณจะถูกโอบกอดด้วยขุนเขา และท้องทะเล อยู่ท่ามกลางความงามอันหลากหลายของภูมิประเทศชายแดนใต้ เฉกเช่นผู้คนในท้องถิ่นที่แม้จะมีวัฒนธรรม ประเพณี และการนับถือศาสนาที่แตกต่างกัน แต่ก็อยู่ร่วมสังคมอย่างผูกพันเปี่ยมไปด้วยมิตรไมตรี ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ใจเราเคยคิด ส่วนการเดินทางก็สะดวกมีเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ มาลงที่สนามบินนราธิวาสทุกวันโดยใช้เวลาเพียง 1.30 ชั่วโมง ถ้าหากจะมาโดยรถไฟ รถทัวร์ คงต้องใช้เวลาเดินทางนานสักหน่อยแต่รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน  เบื้องต้นเราจะให้คุณทำความรู้จักจังหวัดนราธิวาสด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ ๆ ตัวเมืองกันก่อน แต่ก็ล้วนเป็นไฮไลท์ และมีหลากหลายสไตล์แบบสามารถเที่ยวครบจบใน 1 วัน
                

เส้นทางท่องเที่ยว : https://goo.gl/maps/XBuUEkx6syznXDJ5A

ศาลเจ้าโก้วเล้งจี่

      หากเมื่อคืนคุณเข้าพักในตัวเมืองก็สบาย ๆ อาจตื่นสายนิดนึงแล้วเริ่มต้นทริปด้วยการไปกราบไหว้ขอพรสร้างสิริมงคลที่ “ศาลเจ้าโก้วเล้งจี่” บริเวณเขามงคลพิพิธในอำเภอเมืองนราธิวาส ศาลเจ้าเก่าแก่แห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี 2490 จากความเลื่อมใสศรัทธาที่มีต่อเหล่าองค์เทพเจ้าจีน โดยสร้างขึ้นด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมจีนโบราณ เพื่อเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการประกอบพิธีมงคล และประเพณีต่าง ๆ ของชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดนราธิวาส   

พิกัดศาลเจ้าโก้วเล้งจี่ : https://goo.gl/maps/fsLDCqnWcKoFArsQ9









พระพิฆเนศเมืองนราธิวาส

      ไหน ๆ มาถึงเขามงคลพิพิธแล้ว อย่าลืมไปสักการะบูชาเทวรูป “พระพิฆเนศ” เมืองนราธิวาสด้วย ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับศาลเจ้าโก้วเล้งจี่ แล้วคุณจะอัศจรรย์กับประติมากรรมปูนปั้นขนาดหน้าตักกว้าง 7 เมตร สูง 16 เมตร สร้างจากความเลื่อมใสศรัทธาที่มีต่อองค์พระพิฆเนศ เทพแห่งปราชญ์ และความสำเร็จตามคติความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู 

เส้นทางศาลเจ้าโก้วเล้งจี่ – พระพิฆเนศ : https://goo.gl/maps/FECgijCSyMCUqu1SA









พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล

      สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดนราธิวาสยังมีอีกหลายแห่ง จุดหมายต่อไปคือ พุทธมณฑลจังหวัดนราธิวาส (วัดเขากง) ถ้าออกจากประตูเทวสถานพระพิฆเนศให้เลี้ยวขวาแล้วตรงไปอีก 350 เมตร พอถึงสี่แยกจึงเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนพิชิตบำรุงแล้วขับตรงไปอีก 190 เมตร ก่อนจะเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสุริยะประดิษฐ์ ขับอ้อมอนุสาวรีย์นกสันติภาพเข้าสู่ถนนระแงะมรรคา (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4055) ขับตรงไปอีกประมาณ 11 กิโลเมตร แล้วสังเกตทางขวาจะเห็นพระพุทธรูปสีทององค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่บนยอดเขา แต่ต้องขับรถตรงไปอีกหน่อย เพื่อหาทางกลับรถไปยังพุทธมณฑลจังหวัดนราธิวาส (วัดเขากง) สถานที่ประดิษฐาน “พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล” พระพุทธปฏิมาองค์ใหญ่ปางปฐมเทศนา ขนาดหน้าตักกว้าง 17 เมตร สูงจากใต้พระเพลาถึงพระเกศบัวตูม 23 เมตร ซึ่งสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2512 ณ พุทธอุทยานวัดเขากง เพื่อเป็นศรีสง่าและมิ่งขวัญแก่เหล่าพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ภาคใต้ หลังจากไหว้พระขอพรเสริมสิริมงคลให้ชีวิตแล้วก็ไปกันต่อเลย ทริปของเรายังมีอีกหลายที่ซึ่งอยู่ไม่ไกล

เส้นทางพระพิฆเนศ – พระพุทธทักษิณมิ่งมงคลhttps://goo.gl/maps/YvLwk3THhNQikeU99









มัสยิดวาดิอัลฮูเซ็น (มัสยิด 300 ปี)

      เดินทางออกพุทธมณฑลจังหวัดนราธิวาส (วัดเขากง) ขับไปบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4055 อีก 2.5 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 มุ่งหน้าไปทางตำบลลุโบะสาวอ อำเภอบาเจาะ ขับตรงไปอีก 3.7 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายขับไปตามทางอีกประมาณ 19 กิโลเมตร สังเกตด้านซ้ายจะมีป้ายชี้ทางไปมัสยิด 300 ปี ซึ่งจะต้องเข้าไปในซอยอีก 1.3 กิโลเมตร จึงจะถึงจุดหมายคือ “มัสยิดวาดิอัลฮูเซ็น” หรือมัสยิดตาโละมาเนาะ (มัสยิด 300 ปี) สร้างด้วยไม้ตะเคียนทั้งหลัง รูปทรงเป็นอาคาร 2 หลังติดกันผสมผสานศิลปะไทย มลายู และจีน อย่างกลมกลืนงดงาม ตามประวัติเล่าขานว่านายวันฮูเซ็น อัส-ซานาวี พร้อมผู้ติดตามได้อพยพจากจังหวัดปัตตานีมาตั้งรกรากที่บ้านตาโละมาเนาะ ตำบลลุโบะสาวอ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส และสร้างมัสยิดแห่งนี้ขึ้นเมื่อปี 2167 เพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติศาสนกิจของชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลามมาหลายชั่วอายุคน จวบจนถึงปัจจุบัน

เส้นทางพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล - มัสยิด 300 ปี : https://goo.gl/maps/5wppXCUfUmuBur3JA









น้ำตกปาโจ

      หลังจากได้เยือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 4 แห่งแล้ว ถึงเวลาไปเล่นน้ำคลายร้อนที่ “น้ำตกปาโจ” ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ ออกจากซอยเลี้ยวซ้ายกลับไปบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 แล้วขับตรงไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร สังเกตด้านซ้ายจะมีป้ายบอกทางไปน้ำตกปาโจ แล้วเลี้ยวเข้าซอยไปอีก 2 กิโลเมตรก็ถึงจุดหมายแล้ว  น้ำตกปาโจอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติบูโด - สุไหงปาดี เป็นป่าดิบชื้นที่อุดมสมบูรณ์ และแวดล้อมไปด้วยพรรณไม้มีค่าหลากหลายชนิด โดยในปี 2531 มีการค้นพบพรรณไม้เลื้อยที่มีใบสีทอง หรือ ย่านดาโอ๊ะ เป็นครั้งแรกบริเวณน้ำตกปาโจ และอีกสิ่งหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้คือ ก้อนหินขนาดใหญ่ที่สลักพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. และพระนามาภิไธย สิริกิติ์ ตั้งอยู่ในบริเวณลานผาหินของน้ำตก ซึ่งจารึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จประพาสน้ำตกปาโจเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2502

เส้นทางมัสยิด 300 ปี – น้ำตกปาโจ : https://goo.gl/maps/RUDKZKP7qHKvmHUp8











เรือกอและ บ้านทอน

      น้ำตกปาโจจะปิดให้บริการในเวลา 16.30 น. ได้เวลาไปเดินเล่นรับลมริมทะเลพอดี ออกจากซอยเลี้ยวซ้ายกลับไปบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 ไปอีกเพียง 700 เมตรให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4155 ขับตรงไปเรื่อย ๆ ประมาณ 11 กิโลเมตร ก็จะถึงถนนเลียบชายทะเลในเขตพื้นที่ “บ้านทอน” ซึ่งเป็นชุมชนท่องเที่ยวที่สืบสานงานนาวาศิลป์ สร้างสรรค์ “เรือกอและ” พาหนะคู่ใจในการจับปลาหาเลี้ยงชีพของชาวประมงพื้นบ้าน ด้วยสีสันลวดลายอันวิจิตรผสานศิลปะไทย มลายู ชวา จีนเข้าไว้ด้วยกันอย่างงดงาม โดยมีอู่ต่อเรือกอและตั้งอยู่บริเวณชายหาดสามารถเดินเข้าไปชมใกล้ ๆ และพูดคุยซักถามช่างฝีมือได้เลย พวกพี่ ๆ เขาอัธยาศัยดีมาก นอกจากนั้น ชุมชนบ้านทอนยังเป็นแหล่งผลิตงานหัตถกรรมพื้นบ้านและของที่ระลึกต่าง ๆ อาทิ เรือกอและจำลอง, สื่อกระจูด, กรงนกเขา รวมทั้งผลิตภัณฑ์อาหารที่แปรรูปจากปลาทะเล

เส้นทางน้ำตกปาโจ - อู่ต่อเรือกอและบ้านทอน : https://goo.gl/maps/pJUiusrMk7hzMKGX7











หาดนราทัศน์

      ว่าแต่อย่าลืมเผื่อเวลาแวะไปชมวิวที่หาดนราทัศน์ด้วยนะ จากหาดบ้านทอนขับรถไปตามทางอีก 2.7 กิโลเมตร เพื่อเข้าสู่ถนนโคกเคียน (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4136) แล้วขับตรงไปอีก 12 กิโลเมตร จะเจอถนนพิชิตบำรุงตัดผ่าน ให้เลี้ยวซ้ายหักศอกวิ่งไปบนถนนพิชิตบำรุง ตรงไปอีก 750 เมตร จะพบวงเวียนน้ำพุ ให้ใช้ทางออกที่สองแล้วข้ามสะพานปรีดานราทัศน์ ขับไปตามทางอีก 750 เมตร ก็จะถึง “หาดนราทัศน์” ซึ่งเป็นชายหาดที่มีความยาวกว่า 5 กิโลเมตร จรดปากแม่น้ำบางนรา ผืนทรายขาวสะอาดสวยงามแวดล้อมไปด้วยทิวสนที่คอยให้ความร่มรื่น เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนในพื้นที่ และเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คเมืองนราธิวาสที่นักท่องเที่ยวจะต้องมาเยี่ยมเยือน

เส้นทางอู่ต่อเรือกอและบ้านทอน - หาดนราทัศน์ : https://goo.gl/maps/GbaY9hVxSw7FN2hi8











      ทั้งหมดนี้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวแบบกระชับฉบับ 1 วัน สำหรับเป็นบทเริ่มต้นให้คุณทำความรู้จักกับจังหวัดนราธิวาส แต่ถ้าหากยังไม่พอ ขอบอกว่า “นราธิวาส” ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกมากมาย อาทิ อุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว, ทะเลหมอกสุคิริน, ป่าพรุโต๊ะแดง, น้ำตกซีโป, วัดชลธาราสิงเห, หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 12, ตลาดชายแดนตาบา ฯลฯ ซึ่งคงต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะเที่ยวครบ แต่รับรองว่าจบด้วยความประทับใจ และอย่าลืมรอให้สถานการณ์โควิด-19 ระลอกนี้คลี่คลายก่อน แล้วเราค่อยไปท่องเที่ยวกันอย่างจุใจแบบการ์ดไม่ตก ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเคร่งครัด รวมทั้งขับรถด้วยความระมัดระวังไม่ประมาท เพียงเท่านี้ก็จะช่วยลดความเสี่ยงเลี่ยงอันตรายต่าง ๆ และสามารถท่องเที่ยวได้อย่างสุขใจแบบวิถีใหม่ New Normal

#หยุดยาวเที่ยวไหนดี  

#1672เพื่อนร่วมทาง 

#เที่ยวเมืองรองไปกับ1672

#TAT

#JS100

X