'อนุทิน' มั่นใจ คลัสเตอร์บางแคคุมได้ ไม่กระทบแผนกระจายวัคซีน

17 มีนาคม 2564, 10:46น.


          นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงะสาธารณสุข  ระบุว่า การระบาดที่ตลาดบางแค ขณะนี้ทีมสาธารณสุขพยายามจำกัดวงของการระบาด ไม่ให้แพร่กระจายออกไป แต่อาจมีบ้างที่เล็ดรอดไป เช่น ที่จังหวัดศรีสะเกษ แต่ก็ติดตามตัวได้ และเร่งสอบสวนโรคแล้ว แต่สถานการณ์ในปีนี้ ไทยมีประสบการณ์ มีความพร้อม มีวัคซีน ก็คาดว่าน่าจะสามารถดูแลสถานการณ์ได้  วัคซีนก็เป็นปัจจัยบวกที่จะช่วยควบคุมได้  แต่สิ่งที่จะช่วยได้มากที่สุดคือความร่วมมือของประชาชน  รวมทั้งเชื่อว่า การระบาดที่ตลาดบางแค จะไม่กระทบกับยอดวัคซีนเดิมที่จัดสรรไว้ โดยในวันที่ 20 มี.ค.นี้ จะมีวัคซีนมาอีก 800,000 โดส ใช้เวลา 3-4 วัน ในการตรวจสอบมาตรฐานและเอกสารทั้งหมด เมื่อแล้วเสร็จก็สามารถแจกจ่ายวัคซีนไปใช้ได้ทันที 



          จากนั้นในช่วงเดือน เม.ย.จะมีวัคซีนเข้ามาอีกประมาณ 1,000,000 โดส และขณะนี้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำลังเจรจานำเข้าวัคซีนยี่ห้ออื่นเข้ามาอีก เพื่อรองรับสถานการณ์  ซึ่งนายอนุทิน ระบุว่า ขณะนี้ถือว่าไทยอยู่ในสภาวะที่มีเครดิตดี เพราะได้จัดซื้อวัคซีนและนำมาใช้จริงแล้วได้ผล  ก็จะทำให้มีอำนาจในการเจรจาต่อรองดีขึ้น  ส่วนทางบริษัทแอสตราเซเนกา เปิดเผยว่าขั้นตอนการผลิต การทดสอบคุณภาพและมาตรฐานวัคซีนที่ผลิตโดยบริษัทสยามไบโอไซแอนซ์ ได้มาตรฐานดีกว่าประเทศอื่น โดยจะทยอยส่งมอบวัคซีนให้ไทยได้ภายในเดือน มิ.ย.นี้ ตามข้อตกลงเพื่อฉีดให้ประชาชนทั่วไป  



          ส่วนการเจรจากับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนรายอื่น นายอนุทิน ระบุว่า ขณะนี้มีบริษัทเดียวที่กำลังเจรจา เพราะเป็นบริษัทที่มีความพร้อมมากที่สุดในการส่งวัคซีนได้ในระยะเวลาที่ไทยต้องการ ซึ่งการจัดซื้อในช่วงนี้จนถึงช่วงเดือน มิ.ย.จะเป็นการจัดหาไว้สำหรับรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดเฉพาะหน้า



          นายอนุทิน ยังกล่าวถึงการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในวันศุกร์นี้ เกี่ยวกับมาตรการผ่อนคลายต่างๆ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์  โดยย้ำว่า ศบค.จะพิจารณาโดยยึดความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก   ส่วนจะมีมาตรการอะไรเป็นพิเศษ ต้องรอฟังการประชุม เพราะจะต้องมีการสรุปและประเมินสถานการณ์



          ส่วนกรณีที่มีรัฐมนตรีบางคนไม่ฉีดวัคซีน โดยให้เหตุผลว่ากังวลกับผลข้างเคียง เพราะต้องการมีบุตร จะส่งผลกับความเชื่อมั่นของประชาชนหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า เป็นสิทธิของแต่ละคน ที่จะรับหรือไม่รับวัคซีนก็ได้ ดังนั้นต้องเคารพสิทธิส่วนบุคคล แต่ถ้าใครไม่ฉีดแล้วเกิดติดเชื้อขึ้นมา ก็ต้องตอบสังคมให้ได้  ส่วนจะมีผลข้างเคียงต่อการมีบุตรหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ แต่อยากให้ประชาชนยึดหลักการแพทย์และกระทรวงสาธารณสุขจะทำหน้าที่ฉีดวัคซีนให้  ส่วนใครจะมีเหตุผลในการไม่ฉีดอย่างไร ก็เป็นสิทธิของคนนั้น แต่อย่าไปเชื่อตามเหตุผลของคนอื่น เพราะทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง



 

ข่าวทั้งหมด

X