หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียพยายามที่จะมีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งสหรัฐฯ ด้วยการสนับสนุนปฏิบัติการต่าง ๆ เพื่อให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีชนะการเลือกตั้ง ทั้งการเผยแพร่ข้อกล่าวหาที่ทำให้เข้าใจผิดหรือไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับนายโจ ไบเดน ตัวแทนพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งในวันที่ 20 มกราคม ในที่สุด
รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการแทรกแซงการเลือกตั้งหลายครั้ง แต่ในรายงานความยาว 15 หน้าซึ่งเผยแพร่โดยสำนักงานผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติระบุว่ารัสเซียและอิหร่านพยายามผลักดันปฏิบัติการที่มีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งสหรัฐฯ มีการบิดเบือนข้อมูลเพื่อทำลายความเชื่อมั่นในกระบวนการเลือกตั้ง
ส่วนอิหร่านมีปฏิบัติการแอบแฝงในหลายประเด็นเพื่อพยายามลดการสนับสนุนนายทรัมป์ เพราะเป็นผู้ที่ดำเนินนโยบายกดดันสูงสุดต่ออิหร่าน มีการออกมาตรการคว่ำบาตรที่สร้างความเสียหายและทำให้ความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศบานปลาย
ในรายงานยังสรุปด้วยว่ามีความมั่นใจอย่างสูงว่าจีนไม่ได้แทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ เนื่องจากถูกสหรัฐฯจับตาการเคลื่อนไหวทางไซเบอร์มาเป็นเวลานาน จึงไม่ต้องการเสี่ยงที่จะถูกจับได้ นอกจากนี้ จีนยังต้องการความมั่นคงในความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ในอนาคต
ในรายงานของหน่วยข่าวกรองสรุปว่า การเคลื่อนไหวของต่างชาติไม่มีผลต่อผลคะแนนในการเลือกตั้ง ซึ่งสอดคล้องกับรายงานของหน่วยงานด้านความยุติธรรมและความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ซึ่งระบุว่า รัสเซียและอิหร่านมีปฏิบัติการทางอ้อมเพื่อแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ โดยในขณะที่รัสเซียกำลังพยายามที่จะเผยแพร่ข่าวสารที่ไม่เป็นจริงเกี่ยวกับนายไบเดน ฝ่ายจีนกับอิหร่านก็ต้องการให้นายทรัมป์แพ้การเลือกตั้ง
...