สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง(AAPP) องค์กรเฝ้าติดตามสถานการณ์การประท้วงของเมียนมา เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ มีผู้เสียชีวิตในเมียนมาอีก 20 ราย หลังเจ้าหน้าที่ความมั่นคงใช้ความรุนแรง เช่น ยิงแก๊สน้ำตา กระสุนยางและกระสุนจริงสลายการประท้วงในหลายพื้นที่ทางภาคกลาง และนครย่างกุ้ง ทำให้ตัวเลขของผู้เสียชีวิตมีมากกว่า 180 รายนับแต่การทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์
โดยเฉพาะที่นครย่างกุ้ง 2 ใน 3 คน เป็นผู้หญิงเสียชีวิตในบ้าน หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของเมียนมายิงพลาด ขณะใช้กระสุนจริงสลายการประท้วงตามท้องถนน ประชาชนจำนวนมากไม่พอใจที่คณะรัฐประหารของเมียนมายึดอำนาจจากรัฐบาลของนางอองซาน ซูจี หัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย(NLD) โดยผู้ประท้วงเรียกร้องให้คืนอำนาจให้ประชาชน เพื่อนำประเทศกลับมาสู่ระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว นอกจากนี้ 6 เทศบาลในนครย่างกุ้งอยู่ภายใต้กฎอัยการศึกหลังเกิดเหตุความไม่สงบเมื่อวันอาทิตย์ คนที่ละเมิดกฎหมายนี้จะถูกนำตัวไปไต่สวนในทหารศาลแทนการไต่สวนในศาลพลเรือน
ด้านสหประชาชาติ สหรัฐฯ ประเทศจีนและอังกฤษประณามการใช้ความรุนแรงในการสสายการประท้วง ขอให้ประชาคมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคนี้ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยคลี่คลายสถานการณ์ในเมียนมาให้ร่วมแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับชาวเมียนมาซึ่งมีเป้าหมายในการผลักดันประเทศกลับมาสู่ระบอบประชาธิปไตย ขณะที่ประเทศจีนแสดงความกังวลเรื่องความปลอดภัยขององค์กร บริษัทและชาวจีนในเมียนมา หลังเกิดเหตุบุกเผาโรงงานจีนเสียหายหลายสิบแห่ง เนื่องจากผู้ประท้วงมองว่าให้การสนับสนุนคณะรัฐประหารเมียนมา
ทางการจีนขอให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงเมียนมาจัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปดูแลความปลอดภัยในพื้นที่โดยรอบโรงงานของจีนเพื่อความปลอดภัย ส่วนไต้หวัน แนะนำให้บริษัทของไต้หวันในเมียนมาให้ติดธงไต้หวันเหนือโรงงาน เพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าถูกโจมตีจากผู้ประท้วงที่ต่อต้านจีน
Cr: AFP, The Guardian UK