นายฮูโก เดอ ยอง(Hugo de Jonge) รัฐมนตรีสาธารณสุขเนเธอร์แลนด์ เปิดเผยว่า เนเธอร์แลนด์จะหยุดใช้วัคซีนจากแอสตราเซเนกาชั่วคราวตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 29 มีนาคมนี้ เพื่อความปลอดภัย หลังมีรายงานในกลุ่มสหภาพยุโรปและอังกฤษว่า พบคนไข้ 37 คนมีอาการข้างเคียง เช่น ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึก (Deep Vein Thrombosis: DVT) และภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด (pulmonary embolism หรือ PE) หลังการฉีดวัคซีน นับเป็นประเทศล่าสุด ต่อจากไอร์แลนด์ เดนมาร์ก นอร์เวย์ บัลแกเรีย ไอซ์แลนด์และประเทศไทย ที่ประกาศให้หยุดใช้วัคซีนจากแอสตราเซเนกาชั่วคราว
นายเดอ ยอง ระบุว่า รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ จะไม่เดินหน้าโครงการวัคซีนต่อ หากยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าวัคซีนก่อให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในปอดจริงหรือไม่ ขณะเดียวกัน รัฐบาลมุ่งจะทำให้สาธารณชน รู้สึกมั่นใจว่า โครงการทุกอย่างที่ภาครัฐดำเนินการเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ดังนั้นเมื่อเกิดความเคลือบแคลงใจในเรื่องนี้ ภาครัฐจึงหยุดใช้วัคซีนจากแอสตราเซเนกาไว้ชั่วคราว จึงเป็นแนวทางที่เหมาะสม แม้ว่าการตัดสินใจเช่นนี้ อาจจะทำให้เกิดความล่าช้าเรื่องโครงการฉีดวัคซีนบ้าง
ก่อนหน้านี้ เนเธอร์แลนด์ สั่งซื้อวัคซีน 12 ล้านโดสจากแอสตราเซเนกา ตามกำหนดเดิม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเนเธอร์แลนด์จะฉีดวัคซีนให้กับประชาชน 300,000 คน ในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า
ด้านองค์การอนามัยโลกและองค์การยายุโรป(EMA) ที่ระบุว่า ยังไม่พบความเชื่อมโยงกันระหว่างวัคซีนกับความเสี่ยงเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด ระบุว่า ข้อดีจากวัคซีนยังมีมากกว่าข้อเสีย
Cr: BBC, RNZ