คนไม่พอใจคุมโควิด-19 ทำให้พรรค CDU ของนายกฯแมร์เคิล แพ้เลือกตั้งท้องถิ่น

          นายพอล เซียเมียค (Paul Ziemiak) เลขาธิการพรรคพรรคคริสเตียนดิโมแครต (CDU)ของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนี เปิดเผยว่า ผลการนับคะแนนในเบื้องต้นบ่งชี้ว่า พรรค CDU มีแนวโน้มจะแพ้การเลือกตั้งท้องถิ่นใน 2 พื้นที่ที่เคยเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรค CDU มาตลอด คือรัฐบาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์ก(Baden-Württemberg)และรัฐไรน์ลันท์-ฟัลทซ์ (Rhineland-Palatinate)ทางภาคตะวันตกของประเทศ ในการเลือกตั้งเมื่อวานนี้ สะท้อนว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่พอใจรัฐบาล ชุดปัจจุบัน ที่มีปัญหาล่าช้าในเรื่องการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงการกระจายวัคซีนที่มีความล่าช้าเช่นกัน อีกทั้งนักการเมืองบางคนของพรรค CDU ถูกครหาว่าได้รับสินบนจากการญญาจัดซื้อหน้ากากอนามัยระหว่างภาครัฐกับเอกชน

          ผลการนับคะแนนเบื้องต้น ที่รัฐบาเดิน-เวือร์ทเทมแบร์ก พรรคกรีน ปาร์ตี มีคะแนนนำอยู่ในอันดับที่หนึ่งคือ ร้อยละ 32 ขณะที่พรรค CDU ของนางแมร์เคิล รั้งอันดับที่ 2 ร้อยละ 24 ซึ่งนับว่าน้อยกว่าผลคะแนนในการเลือกตั้งครั้งก่อนคือในปี 2559 ส่วนในรัฐไรน์ลันท์-ฟัลทซ์ ซึ่งอยู่ใกล้กัน นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า พรรคสังคมประชาธิปไตยเยอรมนี(SPD) แนวคิดกลาง-ซ้าย จะชนะด้วยคะแนนร้อยละ 35 ขณะที่พรรค CDU ของนางแมร์เคิลอยู่ในอันดับที่ 2  ร้อยละ 27 แม้ว่าผลสำรวจของสำนักโพลล์ต่างๆในเดือนมิถุนายนปีก่อน พบว่าคะแนนนิยมพรรค CDU มีคะแนนนำหน้าคู่แข่งมาโดยตลอดคือ อยู่ที่ร้อยละ 40 ก่อนร่วงลงมาที่ร้อยละ 33 ในเดือนนี้

          นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นในครั้งนี้เป็นเสมือนเครื่องบ่งชี้ถึงทิศทางการเมืองระดับชาติของเยอรมนีที่จะมีขึ้นในการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกันยายนนี้ โดยนางแมร์เคิลจะลาออกจากตำแหน่งนายรัฐมนตรี หลังบริหารประเทศมานานถึง 16 ปี แม้นางแมร์เคิลจะมีคะแนนนิยมในระดับที่สูง แต่เธอเหลือเวลาบริหารประเทศอีกไม่ถึง 6 เดือน ผลการเลือกตั้งที่ออกมาเช่นนี้บ่งชี้ว่า อนาคตของพรรค CDU ของนางแมร์เคิล อาจจะไม่สดใสในการเลือกตั้งในเดือนกันยายนนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า พรรคการเมืองระดับภูมิภาคคือ พรรคกรีนส์ พรรค SPD และพรรคฟรี เดโมแครตส์ ซึ่งมีแนวคิดเสรีนิยม อาจจะจับมือกันจัดตั้งรัฐบาลผสมมาบริหารประเทศ หลังการเลือกตั้งในเดือนกันยายนนี้

Cr: BBC