*เมืองไทยวันนี้ 8.30 น.*

20 มกราคม 2558, 08:25น.


นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การที่ราคาจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกตั้งแต่เดือนกันยายน 2557 ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสินค้าและค่าขนส่งลดลงนั้น ภายในสัปดาห์นี้ จึงจะมีการปรับลดราคาสินค้า 5 รายการ คือ น้ำมันหล่อลื่น เม็ดพลาสติก ปูนซีเมนต์ กระเบื้องมุงหลังคา และเหล็กเส้น เหล็กแผ่น เหล็กโครงสร้างรูปพรรณ นอกจากนี้ ยังมีโครงการร้านจำหน่ายปรุงสำเร็จแบบจานเดียว หรือร้านอาหารหนูณิชย์พาชิม มีร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 2,259 แห่งทั่วประเทศ จำหน่ายไม่เกินจานละ 35 บาท และปลายเดือนมกราคมนี้ยังมีโครงการตลาดสินค้าราคาประหยัดหรือหนูณิชย์พาช้อป ร่วมกับกรุงเทพมหานคร จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาประหยัด ได้แก่ สินค้าจำเป็นในครัวเรือน สินค้าเกษตร สินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนในกรุงเทพฯ จะเริ่มดำเนินการ 3 เขต ได้แก่ เขตบางกะปิ ดินแดง และบางแค



กรณีที่ ธนาคารกลางสวิสยกเลิกการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนของเงินฟรังก์สวิสกับค่าเงินยูโร ไม่ให้แข็งไปกว่า 1.20 ฟรังก์สวิส ต่อ 1 ยูโร นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ยอมรับว่า อาจทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น จึงต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแลค่าเงินบาทให้มีความสอดคล้องกับภูมิภาค โดยขณะนี้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ระดับ 32-33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ



อย่างไรก็ตาม นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่าค่าเงินฟรังก์สวิสยังไม่กระทบการส่งออกไทย เพราะการค้าระหว่างไทยกับสวิตเซอร์แลนด์ต่อปีไม่มาก แต่ต้องมีการพิจารณาถึงผลกระทบจากค่าเงินสกุลอื่นประกอบการพิจารณาด้วย ส่วนการส่งออกของไทยในปี 2558 กระทรวงพาณิชย์จะพยายามผลักดันการเติบโตไม่น้อยกว่าร้อยละ 4



ส่วนเรื่องการระบายข้าวจากโครงการรับจำนำข้าวที่ยังค้างอยู่ในคลัง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวไทยในปี 2557 มีปริมาณการส่งออก รวม 10 ล้าน 8 แสนตันสูงขึ้นร้อยละ 64 เทียบกับปี 2556 ซึ่งมีปริมาณ 6 ล้าน 6 แสนตัน มูลค่าปี 2557 คือ 5,372 ล้านดอลลาร์ สูงขึ้นร้อยละ 22 โดยปริมาณการส่งออกมากกว่า 10 ล้านตัน นับเป็นปริมาณที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากภาครัฐและเอกชนร่วมกันเร่งระบายข้าวตามฤดูกาลผลิตและข้าวในสต็อกของรัฐบาลออกสู่ตลาดต่างประเทศเต็มกำลัง และเชื่อว่าในปี 2558 แนวโน้มการค้าข้าว ทั้งของโลกและไทยจะขยายตัวมากขึ้น โดยผลผลิตข้าวทั้งโลกจะมีประมาณ  475 ล้าน 2 แสนตัน ลดลงจากปี 2557 มีประมาณ 476 ล้าน 9 แสนตัน หรือลดลงร้อยละ 0.3 เนื่องจากผลผลิตข้าวของไทย อินเดีย ญี่ปุ่น ปากีสถาน อียิปต์ ศรีลังกา และไนจีเรีย ลดลง ดังนั้นกระทรวงพาณิชย์จึงวางแนวทางร่วมกับภาคเอกชนขยายตลาดและรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดข้าวไทย กับประเทศผู้นำเข้าข้าวหลักในทุกภูมิภาคทั่วโลก โดยให้ความสำคัญ กับผู้ซื้อในแต่ละภูมิภาคที่มีความต้องการหลากหลาย



ส่วนการระบายข้าวสต็อกของรัฐบาล ที่จะมีขึ้นปลายมกราคมนี้ แบบยกคลังรวม 200 แห่ง ปริมาณรวม 1 ล้านตัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำเงื่อนไขการเข้าร่วมประมูล (ทีโออาร์) ที่ต้องกำหนดราคามูลค่าข้าวขั้นต่ำ (Floor Value)  ณ หน้าคลังของแต่ละแห่งให้ผู้สนใจทราบเพื่อประกอบการยื่นประมูล โดยเน้นให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรม กับผู้ประกอบการไม่ว่าจะเป็นรายเล็กหรือรายใหญ่



ขณะที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รอง นายกรัฐมนตรี ระบุว่าปริมาณข้าว 17 ล้านตัน ที่มีอยู่ในสต็อกรัฐบาลต้องใช้เวลาอีก 3-4 ปี ในการระบายข้าวให้หมด โดยสต็อกข้าวที่มีอยู่กดดันราคาข้าวให้อยู่ที่ตันละ 8,000-9,000 บาท รัฐบาลจึงต้องหาแนวทางในการดูแล



กระทรวงพลังงานเตรียมปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ในเร็วๆ นี้  หลังจากที่ได้มีการปรับโครงสร้างราคาก๊าซแอลพีจีหรือก๊าซหุงต้ม เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าแนวโน้มราคาเอ็นจีวีจะมีการปรับราคาขึ้นไปอีกเล็กน้อยเพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง  จากปัจจุบันที่เอ็นจีวีถูกตรึงราคาขายทั่วไปไว้ที่ 12.50 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนกลุ่มรถโดยสารสาธารณะยังตรึงไว้ที่ 9.50 บาทต่อกิโลกรัม โดยคาดว่า การปรับราคาเอ็นจีวี จะอยู่ในช่วงเดือนมีนาคมนี้ เนื่องจากเป็นช่วงที่ราคาก๊าซธรรมชาติโลก ซึ่งอิงกับราคาน้ำมันในตลาดโลกย้อนหลัง 6 เดือน  จะปรับลดราคาลงมา 



ในวันพรุ่งนี้ เครือข่ายคนพิการนัดรวมตัวฟัง คำพิพากษาศาลปกครองคดี "บีทีเอสกับคนพิการ"  ซึ่งเป็นคดีที่ผู้พิการฟ้องกรุงเทพมหานคร และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กรณีไม่จัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ ในรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งนายสุภรธรรม มงคลสวัสดิ์ เลขาธิการมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เปิดเผยว่า กลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้สนับสนุนจะมาฟังคำพิพากษาร่วมกัน จากนั้นจะแถลงจุดยืนของเครือข่ายต่ออนาคตอิสรภาพและความเท่าเทียมในการเดินทาง หลังการต่อสู้ในเรื่องนี้มาตั้งแต่ก่อนปี 2538



เมื่อวานนี้ ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ทำเนียบรัฐบาล นางวันเพ็ญ พรมรังสรรค์ ตัวแทนชาวบ้าน 3 จังหวัดรอบเหมืองแร่ทองคำ จังหวัดพิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ยื่นหนังสือถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อให้ลงพื้นที่เพื่อพิสูจน์หาสารพิษปนเปื้อนในเลือด ตลอดจนพื้นที่และสภาพแวดล้อมทั้งหมด จัดหาน้ำ และขอให้ตรวจสอบทบทวนการเวนคืนที่ดิน



กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ สั่งอายัดคอนเทนเนอร์ต้องสงสัย ลักลอบขนไม้พะยูงส่งจีน เบื้องต้นสำแดงเป็นไม้ประดู่ แต่น้ำหนักเกินจริงถึง 15-30 ตันต่อตู้ ซึ่งพ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม(ยธ.) กำกับดูแลการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ เปิดเผยว่า เป็นการลักลอบนำไม้ผิดกฎหมายจากประเทศไทยบรรจุใส่ตู้คอนเทนเนอร์ส่งออกนอกประเทศแล้วส่งกลับมาที่ท่าเรือแหลมฉบังเพื่อส่งออกไปประเทศจีน ซึ่งก่อนหน้านี้ หน่วยปฏิบัติการตามลำน้ำโขง (นปข.) รายงานว่า ในก่อนช่วงปีใหม่ มีการตัดไม้จากไทยส่งต่อไปลาวแล้วกลับเข้ามาทางแหลมฉบัง แล้วนำส่งไปจีนรวม 40 ตู้คอนเทนเนอร์ และล่าสุดได้รับรายงานว่าจะมีการกระทำในลักษณะเดียวกันอีก จึงได้จัดกำลังพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมศุลกากร และนปข. เฝ้าติดตามจนสามารถอายัดตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 30 ตู้ที่ส่งจากลาวเข้ามาที่ไทยทางท่าเรือแหลมฉบัง  ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานเจ้าหน้าที่ทั้งลาว และไทย ร่วมเป็นสักขีพยานในการเปิดตู้คอนเทนเนอร์



 



*-*

ข่าวทั้งหมด

X