ทำเนียบขาวสหรัฐฯ ประกาศหยุดพักการส่งออกวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทแอสตราเซเนกาให้แก่สหภาพยุโรปเป็นการชั่วคราว โดยในขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ หรือเอฟดีเอ ได้อนุญาตให้ใช้วัคซีนจาก 3 บริษัทเป็นกรณีฉุกเฉินคือ วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค, บริษัทโมเดอร์นา และวัคซีนของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ หรือซีดีซี รายงานว่ามีการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วมากกว่า 127 ล้านโดส ประมาณร้อยละ 65 ของกลุ่มผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีได้รับวัคซีนแล้ว
นายเจฟฟรีย์ เซียนส์ ผู้ประสานงานการตอบสนองต่อโควิด-19 คาดว่าการอนุญาตให้ใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาในสหรัฐฯ จะมีขึ้นในเดือนเมษายน แต่ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ของทางการสหรัฐฯได้แจ้งต่อสหภาพยุโรปแล้วว่าจะหยุดพักการส่งมอบวัคซีนที่มีการผลิตในโรงงานในสหรัฐฯให้แก่ยุโรป เนื่องจากสหรัฐฯมีวัคซีนของบริษัทนี้ในคลังจำนวนน้อย และหากเอฟดีเออนุญาตให้ใช้วัคซีนได้ สหรัฐฯก็ต้องการส่งมอบวัคซีนจำนวน 30 ล้านโดสไปยังสถานที่ต่างๆทั่วประเทศในทันที
แต่ท่าทีของสหรัฐฯเป็นอันตรายต่อความพยายามของแอสตราเซเนกาในการปฏิบัติตามข้อผูกพันตามสัญญากับสหภาพยุโรปในการจัดส่งวัคซีนจำนวน 180 ล้านโดสในไตรมาสที่ 2 หลังจากที่ต้องลดการส่งมอบวัคซีนในไตรมาสแรก
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า รัฐบาลจะจัดหาวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ชาวอเมริกันเป็นลำดับแรก จากนั้นจึงจะเป็นการแบ่งปันส่วนเกินให้กับคนทั้งโลก
...