ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2564
ปทุมธานี ตรวจเชิงรุก พบต่างด้าวติดเชื้อโควิด-19 อีก 11 คน ยอดรวมวันนี้ 20 คน
สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดปทุมธานี ประจำวันที่ 12 มีนาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อรวม 20 คน แบ่งเป็น
-ผู้ติดเชื้อรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 7 คน เป็นคนไทย 4 คน ต่างด้าว 3 คน
-ผู้ติดเชื้อรายใหม่จากดำเนินงานเชิงรุกในวันนี้ 279 คน พบผู้ติดเชื้อรวม 13 คน เป็นคนไทย 2 คน ต่างด้าว 11 คน
ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสม รวม 643 คน รักษาตัวในโรงพยาบาล 143 คน เป็นคนไทย 121 คน ต่างด้าว 22 คน รักษาหายแล้ว 499 คน เป็นคนไทย 219 คน ต่างด้าว 280 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตไม่เพิ่ม ยังเป็นยอดเดิม 1 ราย
สำหรับการค้นหาเชิงรุกสะสมในจังหวัดปทุมธานี 39,772 คน
ด้านจังหวัดตาก ที่อ.แม่สอดในวันนี้ พบผู้ติดเชื้อ 1 คน มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้
ส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ในวันนี้ ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 5 คน กำลังรักษาตัวอยู่
เปิดไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่อยุธยา รู้ผลก่อนผ่าตัด
สำนักงานสาธารณสุข จ.พระนครศรีอยุธยา รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 1 คน เป็นรายที่ 60 ในการระบาดระลอกใหม่ เป็นหญิงไทย อายุ 36 ปี พักอยู่ที่หอพัก หมู่ 3 ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน อาชีพขายของออนไลน์ เมื่อวันที่ 10 มี.ค.64 ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนผ่าตัด ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ หลังจากที่ทราบว่าติดเชื้อ เทศบาลเมืองบ้านกรด อ.บางปะอิน พ่นยาฆ่าเชื้อโรคในหอพัก และบริเวณโดยรอบ
ไทม์ไลน์ผู้ป่วยรายนี้
-25ก.พ.64 เดินทางพร้อมสามีด้วยรถยนต์ส่วนตัวไปรับลูกที่บ้านแม่ หมู่ 3 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน (ลูกเป็นนักเรียนในโรงเรียนหมู่ 3 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน โรงเรียนได้ดำเนินการปิดการเรียนการสอน ทำความสะอาด)
-10มี.ค.64 เดินทางพร้อมสามีด้วยรถยนต์ส่วนตัว ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนผ่าตัด ที่โรงพยาบาลภัทร-ธนบุรี อ.คลองหลวง จ. ปทุมธานี สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ผลการตรวจพบเชื้อ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลดังกล่าว
ทีมควบคุมโรคติดต่ออำเภอบางปะอิน สอบสวนโรคพบว่า
1.พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 7 คน เป็นผู้ใกล้ชิดและคนในครอบครัว ผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ไม่พบเชื้อทุกคน และให้กักตัวเป็นเวลา 14 วัน
2.เฝ้าระวังและค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มเติมในชุมชน ในโรงเรียน และสถานที่ที่ผู้ติดเชื้อเดินทางไป
สธ.ไทย เชื่อซิโนแวค สู้โควิด-19 กลายพันธุ์ได้
รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ชี้แจงกรณีมีข้อสงสัยว่า วัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกา และบริษัทซิโนแวค จะสามารถต่อสู้กับเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีการกลายพันธุ์หรือไม่ รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี ระบุว่า การกลายพันธุ์เป็นเรื่องปกติ เพราะเชื้อโรคต้องปรับเปลี่ยนตัวเองไปเพื่อไม่ให้ถูกภูมิคุ้มกันในร่างกายมนุษย์กำจัดออกไป ซึ่งทีมสาธารณสุขไทยหลายสถาบัน ได้นำเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่พบในประเทศไทยไปตรวจสอบและถอดรหัสเชื้อไวรัส พบว่าไวรัสโควิด-19 ทั้งหมดที่พบในประเทศไทย ยังเป็นเชื้อแบบดั้งเดิม ดังนั้นวัคซีนที่นำเข้ามา จะสามารถต่อสู้กับโรคได้
แต่หากในอนาคตมีเชื้อไวรัสกลายพันธุ์หลุดเข้ามาในประเทศไทย รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี ระบุว่า วัคซีนของแอสตราเซเนกา อาจจะพอต่อสู้กับไวรัสกลายพันธุ์ได้ แต่ประสิทธิภาพไม่เต็มร้อย ส่วนวัคซีนของบริษัทซิโนแวค ยังมีผลวิจัยไม่มากนัก แต่ตามทฤษฎีแล้ว วัคซีนชนิดนี้ผลิตจากเชื้อไวรัสที่ตายแล้ว มีส่วนประกอบของเชื้อไวรัสทั้งหมด ดังนั้นตามทฤษฎีแล้ว เชื่อว่าจะสามารถต่อสู้กับเชื้อกลายพันธุ์ได้ดี แต่ทฤษฎีนี้จะต้องมีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ชัดเจนต่อไป
รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี ยังระบุว่า ในอนาคต ไวรัสโควิด-19 จะเหมือนไข้หวัดใหญ่ ที่จะมีการกลายพันธุ์หรือมีสายพันธุ์ใหม่ๆโผล่เข้ามา แต่หากไทยมีโรงงานผลิตวัคซีนเองและมีโรงงานแม่ในประเทศอังกฤษ จะทำให้ไทยสามารถผลิตวัคซีนตัวใหม่ๆออกมาได้ทันกับการกลายพันธุ์
บุคลากรการแพทย์ 12 คนของญี่ปุ่น มีอาการแพ้ หลังฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ฯ
กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นเปิดเผยว่าบุคลากรการแพทย์ 12 คน ทั้งหญิงและชาย อายุ 20-50 ปี มีอาการแพ้รุนแรง เช่น ปวดศีรษะ คลื่นไส้ และมีผื่นคันตามผิวหนัง หลังเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากบริษัทไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค ผู้ผลิตวัคซีนจากสหรัฐฯ-เยอรมนี ทั้งนี้คณะผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของญี่ปุ่นจะประชุมในวันนี้เพื่อหารือปัญหานี้เช่นกัน ที่ผ่านมาบุคลากรการแพทย์ของญี่ปุ่นเข้ารับการฉีดวัคซีนแล้ว 180,741 คน ในจำนวนนี้ มีผู้แพ้รวม 37 คน หรือเฉลี่ยหนึ่งคนต่อผู้เข้ารับการฉีดวัคซีน 4,900 คน
ด้านบริษัทไดอิจิ ซังเคียว ไบโอเท็ค (Daiichi Sankyo Biotech) ในเครือของบริษัทไดอิจิ ซังเคียว ผู้ผลิตยาของญี่ปุ่นระบุว่าโรงงานผลิตยาของบริษัทเริ่มทำการผลิตวัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกาของอังกฤษในวันนี้ ตามข้อตกลงที่ทำไว้กับแอสตราเซเนกาในเดือนกุมภาพันธ์ โดยบริษัทฯพร้อมจะเริ่มส่งมอบวัคซีน 120 ล้านโดสให้กับรัฐบาลญี่ปุ่นทันที ที่หน่วยงานกำกับกฎระเบียบยาของญี่ปุ่นอนุมัติวัคซีนจากแอสตราเซเนกา โดยขณะนี้ หน่วยงานกำกับกฎระเบียบยาของญี่ปุ่นอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อมูลการวิจัยวัคซีนก่อนอนุมัติต่อไป
นายกรัฐมนตรี ย้ำฉีดวัคซีนโควิด-19 ประชาชนต้องปลอดภัย
การเลื่อนฉีดวัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวว่า คณะแพทย์ได้ชี้แจงว่าต้องใช้เวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ โดยเฉพาะจากต่างประเทศอีกสักระยะหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่า บริษัทต้นทางจะต้องมีการช่วยอยู่แล้ว และเรื่องนี้คงใช้เวลาไม่นานนัก พร้อมขอให้ทุกคนฟังคำแนะนำจากคณะแพทย์ที่ได้มีมติร่วมกันแล้ว และจำเป็นต้องปฏิบัติตาม จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่าสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญมากที่สุด คือ ความปลอดภัยของประชาชน
ส่วนหลังจากนี้จะมีผลกระทบต่อวัคซีนล็อตต่อๆ ไปของแอสตราเซเนกาหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องรอฟังคำชี้แจงจากทางคณะแพทย์ แม้ว่าเรื่องนี้ จะมีข่าวดราม่ากันในโลกออนไลน์ ซึ่งต้องถามว่า ที่สาธารณสุขแถลงมานั้น มีความเข้าใจหรือไม่ เพราะหากไม่เข้าใจ จะทำให้เกิดความวุ่นวายในอนาคต เพราะสิ่งสำคัญจะต้องฟังข้อมูลจากคณะแพทย์ ที่ได้พิจารณาเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จึงขอให้ทุกคนหยุดและพอกับประเด็นนี้ อย่าให้ดราม่าแล้วทำให้เกิดความเสียหายทั้งหมด
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอโทษสื่อมวลชน จากกรณีที่ได้ฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ใส่ โดยระบุว่า ไม่ได้มีเจตนา และปกติก็เล่นกับสื่อแบบนี้อยู่แล้ว แต่ต่อไปนี้จะไม่ล้อเล่นอีก
ผิดหวังเลื่อนฉีดวัคซีนโควิด-19 นายกฯ หุ้นปิดลบ 6.94 จุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปิดวันนี้ที่ระดับ 1,568.19 จุด ลดลง 6.94 จุด มูลค่าการซื้อ ขาย 84,023.49 ล้านบาท หลังตลาดผิดหวังการเลื่อนฉีดวัคซีคโควิด-19 ของนายกรัฐมนตรี และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (Bond Yield) เริ่มดีดตัวขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรออกมา
ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดปรับตัวขึ้นในวันนี้เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน โดยนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มส่งออกหลังเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ และตลาดยังขานรับการที่ประธานาธิบดีโจ ไบ เดน ได้ลงนามในกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 29,717.83 จุด พุ่งขึ้น 506.19 จุด หรือ
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดร่วงลงในวันนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นบริษัทเทนเซ็นต์ (วีแชต)หลังถูกจีนสั่งปรับข้อหาละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดตลาด ดัชนีฮั่งเส็งปิดวันนี้ที่ 28,739.72 จุด ลดลง 645.89 จุด
โหวตวาระ3 แก้ไข รธน. 17 มี.ค.นี้
หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เปิดเผยว่า ฝ่ายกฎหมายได้ศึกษาและรายงานให้ทราบแล้ว ซึ่งสามารถเดินหน้าพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมวาระ 3 ที่บรรจุระเบียบวาระได้ในวันที่ 17 มีนาคม ท่ามกลางความเห็นหลากหลาย แม้ยังไม่ได้รับคำวินิจฉัยเต็มจากศาลรัฐธรรมนูญ แต่รัฐสภาจะยึดหลักรัฐธรรมนูญเป็นหลัก จากนั้นดูคำวินิจฉัยว่ามีผลผูกพันทุกองค์กรอย่างไร เมื่อวันที่ 17 มีนาคมนี้ ได้บรรจุระเบียบวาระเรื่องแก้รัฐธรรมนูญไว้แล้ว ไม่มีอะไรสามารถเปลี่ยนแปลงได้
"วิษณุ"ชี้ช่องสภาโหวตงดออกเสียงคว่ำร่างรธน.-แก้รายมาตรา
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แต่ถ้าที่ประชุมเห็นว่าควรเดินหน้าการลงมติวาระ 3 ก็ทำไป แล้วหากสุดท้ายต้องทำประชามติ ก็เอาไว้คิดกันภายหลัง แต่จะมีความเสี่ยงจากกรณีของฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ จึงมีโอกาสเป็นได้สูงว่าถ้านำเข้าสู่การลงมติวาระ 3 ก็อาจไม่มีคนไปประชุม หรือมาประชุม แต่งดออกเสียง หรือมาประชุมแล้วลงมติคว่ำให้จบเรื่องไป ซึ่งถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด แล้วไปเริ่มต้นใหม่ ด้วยการลงประชามติก่อนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญแนะนำ หรือจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา
วิปสว.หารือจันทร์นี้ หาทางออก แก้ไขรธน. โหวตวาระ3หรือไม่
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ได้เรียกคณะกรรมการประสานงาน หรือ วิปวุฒิสภาเพื่อหารือกันถึงปัญหาข้อกฎหมาย หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยกรณีอำนาจหน้าที่ของรัฐสภา ในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในวันจันทร์ที่ 15 มี.ค.นี้ ขณะที่นายสมชาย แสวงการ ส.ว. กล่าวว่า แม้ศาลจะชี้ว่ารัฐสภาสามารถยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ แต่กระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ไม่ได้มีเพียงแค่การตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ยังมีวิธีการอื่น ดังนั้นเมื่อจะมีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ศาลก็ระบุชัดเจนว่าจะต้องทำประชามติก่อน แล้วค่อยมากำหนดว่าจะใช้วิธีการตั้ง ส.ส.ร. หรือตั้งกรรมาธิการยกร่าง ดังนั้นกระบวนการที่ทำอยู่ขณะนี้ ทั้งการพิจารณาวาระที่ 1-2 เป็นกระบวนการที่ทำไปก่อนล่วงหน้า ส่วนตัวมองว่า จะทำให้มีปัญหา เพราะเป็นกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญตอนนี้ก็ถือเป็นกระบวนการเดียวกัน แต่หากมีผู้ตีความต่างกัน ตนเองก็เคารพ
พรรคร่วมฝ่ายค้านลุยโหวตแก้รธน.วาระ 3
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังการประชุมว่า ญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญของฝ่ายค้านที่เสนอเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา ต้องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่า สามารถแก้ไขได้ ดังนั้นฝ่ายค้านจะดำเนินการเพื่อไม่ให้ขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จะเดินหน้าพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 การดำเนินการในวันที่ 17-18 มี.ค. ประธานสภา ควรนำเรื่องการลงประชามติเข้ามาหารือในที่ประชุมด้วย
รองผบช.น. ผลตรวจ’วาวา’พบสารเสพติด ไม่พบล่วงละเมิดทางเพศ
การเสียชีวิต “วาวา” พริตตี้สาว ที่ไปรับงานปาร์ตี้ ภายในบ้านหรูย่านเสนานิคม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ก.พ. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนจะติดต่อขอรับผลตรวจชันสูตรศพผู้เสียชีวิตที่ระบุสาเหตุการตายและการตรวจหาสารเสพติดอย่างเป็นทางการ นอกจากนั้นยังพบว่า ได้มีการกู้ข้อมูลจากกล้องวงจรปิดภายในบ้านที่จัดงานที่ถูกลบไปก่อนหน้านี้ได้แล้วและสอบปากคำพยานทุกคนไปหมดแล้ว พร้อมส่งตัวไปหาสารเสพติดขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจ มีรายงานว่าผลชันสูตรศพเบื้องต้นพบว่าในตัวผู้ตายไม่มีแอลกอฮอล์ มีแต่สารเสพติด ไม่พบการถูกล่วงละเมิดทางเพศ กล้องวงจรปิดที่กองพิสูจน์หลักฐานนำไปกู้ข้อมูล เห็นภาพบางส่วน โดยช่วงประมาณ 04.00 น.วันที่เกิดเหตุเห็นผู้เสียชีวิตนั่งอาเจียนคนที่อยู่ในงานช่วยเหลือ แต่อาการไม่ดีขึ้นจึงนำส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิต
ส่วนกรณีแม่ของพริตตี้ วาวา เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพว่าโรงพยาบาลเอกชนในเขตจตุจักร มีการเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลจากผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติ จนเป็นเหตุให้เกิดการรักษาล่าช้าและทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ผลการสอบสวนของคณะอนุกรรมการสอบข้อเท็จจริงมีมติว่าโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวมีการกระทำผิดจริง จึงสั่งการให้พนักงานเจ้าหน้าที่กองกฎหมายดำเนินการเอาผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 กับโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าว ใน 2 ข้อหา คือ
1.ความผิดตามมาตรา 36 เนื่องจากในช่วงระยะเวลาที่เกิดเหตุคือวันที่ 23 กุมภาพันธ์ สถานพยาบาลไม่มีการคัดแยกผู้ป่วยว่าเข้าข่ายฉุกเฉินวิกฤติ (สีแดง) ในระบบบันทึกและประเมินผู้ป่วย (UCEP) ของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เป็นเหตุให้เกิดการคิดค่าบริการในขณะที่ให้บริการ ซึ่งเป็นที่มาของการร้องเรียนการรักษาพยาบาลที่ล่าช้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.ความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ตามมาตรา 73 เนื่องจากในใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลมีการเรียกเก็บค่าอาหารจากผู้ป่วยเป็นจำนวนเงิน 400 บาท โดยที่ผู้ป่วยไม่ได้รับบริการ จึงถือว่าเป็นการจัดทำเอกสารอันเป็นเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ฯจะดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป
ช้างแม่ลูกพบกันแล้ว ก่อนวันช้างไทย หลังเจ้าหน้าที่-ทีมสัตวแพทย์ช่วยเหลือแม่ช้างป่วยในพื้นที่เขาอ่างฤๅไน
การติดตามช้างป่าแม่-ลูก ที่เข้าป่ามาเมื่อวันที่ 1-2 มีนาคม 2564 บริเวณแปลงทุ่งหญ้าบ่อมะเดื่อ พื้นที่หมู่ที่ 9 ต.พวา อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน โดยแม่ช้างมีอาการเหมือนได้รับสารเคมี ซึ่งสัตวแพทย์ให้ความช่วยเหลือจนเดินทางกลับเข้าป่าไปได้
นายวีระพงศ์ โคระวัตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 00.50 น. ของวันที่ 12 มีนาคม 2564 เจ้าหน้าที่ได้รับการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันของกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่าอัตโนมัติ ที่เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าคลองครกและหน่วยพิทักษ์ป่าสีระมัน ได้ติดตั้งไว้เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2564 พบว่า ตรวจสอบพบภาพช้างป่าแม่-ลูก ซึ่งมีลักษณะตรงกันกับช้างป่าที่ได้ทำการช่วยเหลือไปก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ชุดติดตามและสัตวแพทย์ โดยสรุปได้ว่าเป็นช้างป่าตัวเดียวกัน ซึ่งช้างป่าแม่-ลูก สามารถหากินเองได้ และลงเล่นน้ำได้ตามปกติแล้ว นับเป็นข่าวดีก่อนถึงวันช้างไทย 13 มีนาคม 2564