นายกรัฐมนตรีลี เซียนลุงของสิงคโปร์ เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์พิเศษกับบีบีซีว่า ปัญหาพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับประเทศจีนในปัจจุบันส่อเค้าอาจจะแย่หนักกว่า 5 ปีที่แล้ว ระบุว่า ปัญหาพิพาททางการค้าซึ่งเริ่มต้นในยุครัฐบาลที่แล้วของสหรัฐฯ มาถึงปัจจุบัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำคนปัจจุบันของสหรัฐฯเข้ามาบริหารประเทศยังไม่มีทีท่าลดวาราศอกให้กับประเทศจีน
นายลียังเห็นว่าปัญหาขัดแย้งด้านการทหารระหว่างประเทศทั้งสองยังอยู่ในระดับที่ไม่สูงมาก แต่เขาเตือนว่า ถ้าทั้งสองประเทศต่างยืนหยัดปกป้องผลประโยชน์แห่งชาติของตน โดยไม่ยอมลดราวาศอกให้กัน ในที่สุดทั้งสองฝ่ายจะพบว่า พวกเขามาถึงจุดแตกหัก ซึ่งจะเกิดผลเสียหายต่อทั้งสองฝ่าย
นายลี ปฏิเสธที่จะเสนอแนะต่อรัฐบาลจีนว่าควรจะหาทางออกต่อปัญหานี้อย่างไร แต่นายลีตั้งข้อสังเกตว่านโยบายทางการเมืองของประเทศจีนก่อให้เกิดความตึงเครียดกับเพื่อนบ้านในเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นประเทศขนาดใหญ่หรือขนาดเล็ก ระบุว่าที่ผ่านมา มีความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน หลายคนรู้สึกกังวลว่า ประเทศจีนจะใช้แนวทางใดในการจัดการกับปัญหาพิพาทกับประเทศสหรัฐฯ และแนวทางเช่นนั้นจะเกิดผลดีต่อจีนหรือไม่ ซึ่งนายลีมองว่าการปล่อยให้ปัญหาพิพาทกับสหรัฐฯยืดเยื้อต่อไปจะไม่ส่งผลดีต่อประเทศจีน
ที่ผ่านมาสื่อชั้นนำ รวมถึงบีบีซี มักจะสัมภาษณ์ผู้นำสิงคโปร์ในเรื่องความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีนอยู่เป็นประจำเนื่องจากสิงคโปร์ แม้จะเป็นประเทศที่มีขนาดเล็ก แต่มีบทบาทสูงในด้านเศรษฐกิจและอิทธิพลการเมืองในเอเชีย นอกจากนี้ สหรัฐฯเป็นหุ้นส่วนด้านความมั่นคงที่สำคัญและเป็นนักลงทุนรายใหญ่ในสิงคโปร์ ขณะเดียวกันประเทศจีนเป็นตลาดส่งออกขนาดใหญ่ของสิงคโปร์ และเหมือนกับประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียคือ การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจีนส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของสิงคโปร์
Cr: BBC