ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 12.30น.วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2564

รมว.สธ.ยืนยัน นายกฯ ฉีดวัคซีนแอสตราฯ เช่นเดิม หากผลศึกษามีความชัดเจน

          นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งว่าคนที่ฉีดวัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกาในหลายประเทศในแถบยุโรป เกิดอาการไม่พึงประสงค์ คณะแพทย์และผู้เชี่ยวชาญของไทยได้หารือด่วนเพื่อประเมินสถานการณ์ จนได้ข้อสรุปว่าให้ชะลอการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีไปก่อน โดยแจ้งกับคนสนิทของนายกรัฐมนตรีไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืน และนายกรัฐมนตรีรับทราบจึงไม่ได้ไปที่สถาบันบำราศนราดูรวันนี้     

         นายอนุทิน ย้ำว่า สาเหตุที่ไทยชะลอการให้วัคซีนแอสตราเซเนกาออกไป เพราะอยากให้คนไทยทุกคนมั่นใจและไม่กังวล เป็นการชะลอเพื่อรอผลตรวจสอบให้มั่นใจ และถือเป็นเรื่องดีที่เลื่อนฉีด เพราะการฉีดไม่ได้หวังเอาหน้า  และหากผลศึกษาและสอบสวนชัดเจน คาดว่าใน 2 สัปดาห์ จะมีข่าวดี  พร้อมยืนยันว่า คนไทยทุกคนต้องได้ฉีดวัคซีนและขอให้มั่นใจว่า มีการเก็บวัคซีนในที่เหมาะสม หากผลตรวจสอบชัดเจนว่าอาการลิ่มเลือดที่เกิดกับผู้รับวัคซีนในยุโรปไม่เกี่ยวกับวัคซีน นายกรัฐมนตรีก็จะฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเหมือนเดิม   

‘หมอธีระวัฒน์’ ชี้สาเหตุ วัคซีนทำให้เกิดลิ่มเลือด เพราะเกิดภาวะอักเสบ

          ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย อธิบายเหตุผลที่วัคซีนโควิด-19 ทำให้เกิดลิ่มเลือด ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า วัคซีนที่ทำให้เส้นเลือดดำตันและเกิดเป็นลิ่มเลือด หลุดลอยไปอุดปอด เป็นผลจากการที่วัคซีนกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ และกระทบทำให้เลือดข้น เหมือนกับที่คนติดโควิด-19 แล้วเกิดการอักเสบและมีเลือดข้นทั้งเส้นเลือดดำและแดงตัน และมีลิ่มเลือดได้ในหลายอวัยวะ

          คนที่ได้รับวัคซีน โดยถ้าตนเองมีภาวะอักเสบในตัว เช่น มี ข้ออักเสบ หรือมีการอักเสบเนิ่นนาน มีเส้นเลือดหัวใจตีบ อัมพฤกษ์ อ้วน สูบบุหรี่ เป็นต้น อักเสบจากทุนเดิมที่มี ซึ่งสิ่งเหล่านี้บวกกับการอักเสบที่เผอิญเกิดจากวัคซีน จะรวมกันและเกิดเลือดข้นดังกล่าว หรือ คนนั้นๆ สะอาดดี ไม่มีภาวะดังกล่าว แต่ปฎิกิริยาตอบสนองรุนแรงกว่าธรรมดาก็อาจได้รับผลข้างเคียงไปด้วย ทั้งนี้ “อาจจะ” หมายรวมถึงคนที่เคยติดเชื้อมาก่อนด้วย (ที่ไม่รู้ตัวว่าเคยติดเชื้อ) และได้รับวัคซีนไป สรุปวัคซีนเป็นของจำเป็น แต่คนเปราะบาง ย่อมเลือกวัคซีนที่ธรรมดาๆที่สุด เทคนิคโบราณ เช่นแบบเชื้อตาย เป็นต้น

ออสเตรเลีย เดินหน้าฉีดวัคซีนแอสตราฯ ไม่มีหลักฐานวัคซีน ทำให้เกิดลิ่มเลือด

          นายไมเคิล แม็คคอร์แม็ค รองนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เปิดเผยว่า หน่วยงานกำกับดูแลด้านเภสัชกรรมกำลังตรวจสอบกรณีที่ประเทศออสเตรียมีผู้เสียชีวิตจากอาการลิ่มเลือดอุดตันหลังจากที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาที่ทำให้หลายประเทศรวมถึงเดนมาร์ก นอร์เวย์และไอซ์แลนด์ ระงับการใช้วัคซีนแล้ว แต่ออสเตรเลียยังไม่มีคำสั่งห้ามการใช้วัคซีนในเวลานี้ โดยนายพอล เคลลี หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของออสเตรเลีย ยืนยันว่าไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าวัคซีนทำให้เกิดลิ่มเลือด 

          ออสเตรเลียได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกาประมาณ 54,000,000 โดส และเพิ่งเริ่มต้นโครงการฉีดวัคซีนในสัปดาห์นี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีสก็อตต์ มอร์ริสัน กล่าวว่าออสเตรเลียจะฉีดวัคซีนให้กับผู้ใหญ่ทุกคนภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ แม้ว่าจนถึงขณะนี้มีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนเพียง 150,000 คนและไม่มีผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 2 สัปดาห์แล้ว ออสเตรเลียมีรายงานผู้ป่วยยืนยันสะสมมากกว่า 29,000 คนและเสียชีวิต 909 ราย นับตั้งแต่การระบาดเริ่มขึ้นซึ่งน้อยกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศเนื่องจากการปิดพรมแดนระหว่างประเทศ และการบังคับใช้มาตรการทางสังคมที่เข้มงวด

ฝรั่งเศส ยกเลิกคำสั่งห้ามผู้ที่มาจากญี่ปุ่นและอีก 6 ชาติเข้าประเทศ

          กระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส อนุญาตให้ผู้ที่เดินทางมาจากญี่ปุ่น และอีก 6 ประเทศซึ่งรวมถึงออสเตรเลีย อังกฤษ และเกาหลีใต้ สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ จากที่เมื่อวันที่ 31 ม.ค.64 มีการออกประกาศห้ามการเดินทางของประเทศนอกกลุ่มสหภาพยุโรป เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ โดยเฉพาะสายพันธุ์กลายพันธุ์จากสหราชอาณาจักร แอฟริกาใต้และบราซิล

          การยกเลิกคำสั่งห้ามการเดินทางจะมีผลทันทีในวันนี้ แต่ผู้ที่เดินทางระหว่างฝรั่งเศสกับประเทศเหล่านี้จะต้องแสดงเอกสารที่ยืนยันว่ามีผลการทดสอบโควิด-19 เป็นลบใน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง