‘หมอยง’ อธิบายอาการแข็งตัวของเลือดในหลอดเลือดดำ พบในคนยุโรปมากกว่าเอเชีย 3 เท่า
นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลกรณีที่ประเทศในยุโรประงับการใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาชั่วคราว เพราะมีผู้ป่วยเกิดการแข็งตัวของเลือดในหลอดเลือดดำและมีการเสียชีวิต 1 รายว่าจากการศึกษาใน คน 3,000,000 คน ที่ฉีดวัคซีน พบว่ามีการป่วย 22 คน หรือเทียบกับ 7 คน ใน 1,000,000 คนที่ฉีดวัคซีน แน่นอนเหตุการณ์อะไรก็ตามแต่ที่เกิดขึ้นหลังการฉีดวัคซีน ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะวัคซีนนี้เป็นวัคซีนใหม่ จะต้องมีการตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่
อุบัติการณ์การเกิดการอุดตันของเส้นเลือดดำ พบได้บ่อยในคนยุโรป สหรัฐฯมากกว่าคนเอเชียถึง 3 เท่า เราจะเห็นว่าเวลาขึ้นเครื่องบิน จะมีการแนะนำเสมอ ให้กินน้ำให้มาก และให้ขยับตัว ขยับเท้าเพื่อป้องกันการเกิดภาวะการณ์ดังกล่าว ปัจจัยทางพันธุกรรมมีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอนที่ทำให้คนยุโรปมีโอกาสเป็นมากกว่าคนเอเชีย
คนเอเชียอย่างประเทศไทยมีโอกาสเกิดโรคนี้น้อยกว่าคนยุโรปถึง 3 เท่า และวัคซีนที่ใช้ที่ทางยุโรปหยุดการใช้ผลิตในยุโรป จึงมีการระงับใช้ไปไม่น้อยกว่า 6 ประเทศ แต่ว่าวัคซีนที่ใช้ในประเทศไทย ผลิตจากโรงงานเกาหลี
หลังจากเกิดเหตุการณ์ ประเทศอังกฤษ ได้ฉีดไปแล้วมากกว่า 11,000,000 คน ก็ไม่พบอุบัติการณ์ดังกล่าวเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ
โรคดังกล่าวจะมีอัตราการเพิ่มขึ้นตามอายุที่มากขึ้น โดยคนในยุโรปที่อายุเกิน 60 ปีจะมีอุบัติการณ์ประมาณ 5-13 คน ใน 1,000 คน
ก่อนหน้านี้ หลังการฉีดวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ในนอร์เวย์และเกาหลีใต้ มีการเสียชีวิตเกิดขึ้น แต่ต่อมาก็พิสูจน์ว่าการเสียชีวิตดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ก็ยังคงดำเนินการฉีดต่อไปอีกเป็นจำนวนมากหรือจะมากที่สุดก็ได้ในขณะนี้
สธ.ประชุมด่วน หลังยุโรป ระงับการใช้วัคซีนแอสตราเซเนกา
หลังจากที่หลายประเทศในยุโรป พบคนที่ฉีดวัคซีนจากแอสตราเซเนกาแล้วเกิดอาการลิ่มเลือดอุดตัน และมีคนเสียชีวิตด้วย ทำให้ระงับการฉีดไปก่อน เพื่อรอการตรวจสอบว่าอาการที่เกิดขึ้นเกิดจากการฉีดวัคซีนหรือไม่ เช้านี้ ก่อนที่จะถึงกำหนดฉีดวัคซีนของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รัฐมนตรีบางส่วน กระทรวงสาธารณสุขและทีมแพทย์ประชุมเรื่องดังกล่าวด่วน
ขั้นตอนการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 แอสตราเซเนกา ให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีบางส่วน ตามกำหนดขั้นตอนการฉีด นายกฯ เข้าสู่จุดลงทะเบียนตู้อัตโนมัติ รับฟังคำแนะนำและลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชนก่อนขึ้นชั่งน้ำหนัก วัดความดันโลหิต จากนั้นฉีดวัคซีนเข็มแรก โดย นพ.ยง จะเป็นผู้ฉีดให้ จากนั้นเข้าห้องพักสังเกตอาการพร้อมลงทะเบียนเข้าระบบเพื่อบันทึกชนิดวัคซีนและติดตามอาการก่อนรับบัตรนัดฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 จนครบ 30 นาที นายกฯจะเข้ารับการประเมินจากแพทย์และพยาบาลประจำห้องเฝ้าสังเกตอาการก่อนแพทย์จะอนุญาตให้กลับ
อย่างไรก็ตาม ในการฉีดวัคซีนครั้งนี้ นางนราพร จันทร์โอชา ภริยานายกฯ และคู่สมรสของครม.ไม่ได้ฉีดด้วย รัฐมนตรีที่อายุมากกว่า 60 ปี จะฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา ส่วนอายุไม่ถึงจะใช้วัคซีนจากซิโนแวค
รัฐมนตรี 16 คน พร้อมฉีด ส่วนอีก 11 คน ติดภารกิจ
รัฐมนตรีที่ตอบรับการเข้าฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 รวม 16 คน ประกอบด้วย พล.อ.ประยุทธ์ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รอง นายกฯและ รมว.ต่างประเทศ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายอาคม เติมพิทยาไพสิษฐ์ รมว.คลัง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ นายนิพนธ์ บุญญามณี และนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย
ส่วนรัฐมนตรีที่แจ้งไม่เข้าร่วมฉีดวัคซีนมี 11 คน โดยแจ้งว่าติดภารกิจ ประกอบด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกฯ นายวิษณุ เครืองาม รอง นายกฯ นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช รมช.ศึกษาธิการ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อุดมศึกษาฯ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรฯ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ
จ. ประจวบฯ พร้อมรับมือแรงงานเมียนมา ลอบเข้าเมือง
ปัญหาคนจากประเทศเพื่อนบ้านลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย จนทำให้เกิดการติดเชื้อโควิด-19 ล่าสุด ที่ จ. ประจวบคีรีขันธ์ จับกลุ่มแรงงานเมียนมาลักลอบเข้าเมือง 33 คน บริเวณพื้นที่หมู่ 5 บ้านเนินแก้ว ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ และพบว่า 4 คน ติดเชื้อรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบไทม์ไลน์ พบว่า หลังการจับกุมมีการนำแรงงานผิดกฎหมายไปฝากขังกระจายไปยัง สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ สภ.อ่าวน้อย เรือนจำประจวบคีรีขันธ์ และบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำให้มีเจ้าหน้าที่เป็นกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำนวนมากถึง 128 คน โดยรวมผู้สัมผัสเป็นผู้ต้องหาขังรายอื่นในเรือนจำ 29 คน แต่เบื้องต้นทั้งหมดตรวจไม่พบเชื้อ ส่วนกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำมี 116 คน แพทย์แนะนำให้เฝ้าดูอาการ
นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า วันนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.น่าจะแถลงตัวเลขยอดที่เพิ่มขึ้นจากการตรวจสอบ
นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าฯประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จังหวัดได้เตรียมความพร้อมรับมือการลอบเข้าเมือง ประกอบกับสถานการณ์ประท้วงในเมียนมา ทำให้มีความเป็นไปได้มากที่ผู้อพยพเข้ามาในพื้นที่ จังหวัดมีมาตรการรับมือ โดยมีการสำรวจสถานที่เพื่อรองรับผู้อพยพ
-ช่องทางด่านสิงขร กำหนดสถานที่ที่วัดรัตนวิเวก ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รองรับได้ 800-1,000 คน
-ช่องทางป่าละอู ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ กจ.3 (ห้วยป่าเลา) ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน รองรับได้ 500-600 คน
-ช่องทางบริเวณวัดห้วยตะเคียน บ้านห้วยตะเคียน ต.ชัยเกษม อ.บางสะพาน รองรับได้ 200-300 คน
-ช่องทางเขาตีนเป็ด ที่วัดบางเจริญ บ้านบางเจริญ ต.ไชยราช อ.บางสะพานน้อย รองรับได้ 800-1,000 คน
กทม.พบผู้ลอบเข้าเมืองติดเชื้อในห้องกักบางเขน 8 คน
นพ.เฉวตสรร กล่าวถึง การคัดกรองเชิงรุกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่าพบติดเชื้อ 10 คน ส่วนหนึ่งพบในสถานกักตัวห้องกักบางเขน 8 คน ซึ่งเป็นผู้ลักลอบเมียนมาและกัมพูชา เดินทางเข้ามาในไทยจากชายแดนมาเลเซีย บางส่วนถูกจับกุมและกักตัวที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส อยู่ก่อนแล้วและจะดำเนินคดีเพื่อผลักดันกลับประเทศจึงส่งตัวมาดำเนินคดีที่กทม.จากการเฝ้าระวังเมื่อมาถึงก็พบการติดเชื้อ แต่มีการระวังไม่ให้แพร่ไปสู่คนอื่น และไม่ได้เป็นการติดเชื้อในพื้นที่
ไม่พบการแพร่เชื้อในกลุ่มขายของที่โรงงานใน จ.ปราจีนบุรี
กรณีสามีภรรยาขายอาหารในโรงงานแห่งหนึ่ง จ.ปราจีนบุรี มีการติดเชื้อ 5 คน คือ สามี ภรรยา และลูกจ้างในร้าน 3 คน จากการติดตามผู้สัมผัส พบว่า ผู้สัมผัสร่วมบ้าน 4 คน ได้แก่ ลูกชาย สะใภ้ หลาน และสูกสาว กลุ่มคนงานช่วยร้านอาหารตอนกลางวัน 7 คน และบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง ตรวจไม่พบเชื้อ รอตรวจครั้งที่ 2 ส่วนการค้นหาเชิงรุกในโรงงาน 1,428 คน ไม่พบเชื้อ ถือเป็นข่าวดีคือยังไม่มีการแพร่กระจาย
การระบาดระลอก 3 จะเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใดนั้น นพ.เฉวตสรร ระบุว่า ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชน และนโยบายการควบคุมโรคเหมาะสมกับสถานการณ์หรือไม่ วัคซีนป้องกันการป่วยหนักรุนแรงและเสียชีวิตได้ผล แต่การป้องกันการติดเชื้อและแพร่กระจายต้องติดตามให้ชัดเจน จึงยังวางใจส่วนนี้ไม่ได้ สิ่งสำคัญคือ ต้องล้างมือ เว้นระยะห่าง และสวมหน้ากากอนามัย ถ้าทำดี ระลอกใหม่ก็จะน้อย รวมถึงช่วงใกล้สงกรานต์ หลายคนคาดหวังการผ่อนคลายหลายอย่าง แต่ไม่ว่าจะมีมาตรการผ่อนคลายอย่างไร วิธีการป้องกันตัวเองสำคัญที่สุดทำให้เราป้องกันการระบาดกลุ่มก้อนใหญ่ๆ ครั้งต่อไป โดยเฉพาะคนวัยทำงาน เดินทางออกนอกบ้าน การดูแลความสะอาด ลดเสี่ยงนำโรคสู่คนในบ้านโดยเฉพาะผู้สูงอายุ ช่วยป้องกันการป่วย เสียชีวิตและการระบาดอย่างดี
แฟ้มภาพ